6 เหตุผลแห่งความคลาสสิค 'สิงห์ vs หงส์'
สุดยอดเกมแห่งฤดูกาล (ที่หลายคนการันตีให้ล่วงหน้า) ผ่านไปที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ท่ามกลางเส้นขนที่ยังลุกตั้งชูชันด้วยความตื่นเต้นตลอด 90 นาทีเศษที่ ไม่มีใครยอมใครเลยระหว่าง สิงโตน้ำเงินคราม กับ หงส์แดง 1.
ศูนย์รวมดวงใจของทีมเชลซี ที่เป็นผู้นำในยามวิกฤติอย่าง จอห์น เทอร์รี่ ไม่สามารถจะลงสนามได้เนื่องจากโทษใบเหลืองแบบไม่จำเป็นในการฟาวล์ เปเป้ เรน่า ในเกมแรกที่แอนฟิลด์ ทำให้เขาต้องนั่งดูเกมจากข้างสนาม
ด้วยเหตุนี้เองทำให้ลิเวอร์พูล สามารถเปิดแนวรุกที่หาช่องเล่นงานแนวรับของสิงห์บลูส์ ได้แบบเมามันในนัดนี้ เนื่องจากถึงจะเก่งแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะอเล็กซ์ หรือริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ก็ไม่สามารถที่จะทดแทน ไลออนคิง อย่างเทอร์รี่ ได้ทั้งหมด เพราะเจที ไม่ได้มีแค่ท่าทางโผงผางแหกปากโวยวายเท่านั้น แต่ยังสามารถบัญชาแนวรับให้อยู่เป็นปึกแผ่นได้อย่างดีด้วย
สกอร์ที่ยิงกันแหลกรานในเกมนี้มีเหตุผลสำคัญจากเรื่องนี้ด้วย
2.
ดรายเป่าผม ของฮิดดิ้งค์ถึงจะท่าทางดูสงบนิ่ง แต่ถึงเวลาจำเป็น หมีใจดีอย่างกุส ฮิดดิ้งค์ ก็พร้อมจะงัด ดรายเป่าผม ออกมาใช้ตวาดใส่ลูกทีมเหมือนต้นตำหรับอย่างเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เหมือนกัน
งานนี้ไม่มีใครรู้ว่าจะมีข้าวของอะไรเสียหายบ้างหรือเปล่าในห้องแต่งตัวของนักเตะเชลซี
รู้แค่ว่าเขี่ยบอลเล่นครึ่งหลังเท่านั้นแหละ นักเตะสิงห์บลูส์วิ่งกันแบบกลัวตาย เอ๊ย...ลืมตายเลยทีเดียว
3.
แท็คติกของราฟาไม่ใช่ครั้งแรกที่เดอะ ค็อป ต้องหันหน้ามามองคนข้างๆ (หรือแชทถามเพื่อน) เกี่ยวกับการจัดทีมของราฟา ที่เดาไม่ออกว่าตกลงใครเล่นตำแหน่งอะไรกันแน่ เพราะก่อนนี้ก็เคยมีกรณีที่ ฟาบิโอ ออเรลิโอ เล่นกองกลางตัวรับ และอันเดรีย ดอสเซน่า ยืนปีกซ้ายมาแล้ว
ครั้งนี้เขาดร็อปปีกซ้ายทั้งตัวจริงและตัวสำรองอย่าง อัลเบิร์ต ริเอร่า และไรอัน บาเบิล และให้ยอสซี่ เบนายูน ลงมายืนทำเกมรุกแทน
ไม่มีใครบ่นในเกมนี้เพราะว่าลิเวอร์พูล เล่นได้น่าประทับใจโดยเฉพาะครึ่งแรกที่นำไปก่อนถึง 2-0 ชนิดมีหวังจะสร้างปาฏิหารย์เข้ารอบได้ แต่ก็มีคนถามว่าถ้าราฟา ให้ริเอร่า ที่กำลังเล่นได้ท็อปฟอร์มในช่วงนี้ลงตัวจริง
บางทีลิเวอร์พูล น่าจะเอาคืนตัวแสบในเกมที่แล้วอย่าง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช จนเสียคนเลยก็เป็นได้?
4.
พี่เจิดหายไปไม่ได้มีแค่เชลซี เท่านั้นที่เสียกัปตันทีมอย่าง จอห์น เทอร์รี่ไป เพราะฝั่ง หงส์แดง ก็เสีย สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยอดกัปตันไปเหมือนกัน
บางคนก็ว่าการหายไปของสตีวี่จี น่าจะส่งผลร้ายแรงมากกว่าด้วยซ้ำเพราะฟอร์มในช่วงหลังเห็นได้ชัดว่า พี่เจิดคือคนที่นำลิเวอร์พูล กลับมาสู่ฟอร์มระดับสุดยอดอีกครั้ง โดยเฉพาะการได้จับคู่กับเฟร์นานโด ตอร์เรส
ลิเวอร์พูล อาจจะเล่นได้น่าประทับใจในเกมนี้ แต่แฟนหงส์ก็อดคิดไม่ได้ใช่มั้ย
If only....พี่เจิดอยู่ ปาฏิหารย์ครั้งใหม่อาจเกิดขึ้นก็ได้
5.
เช็กจอมเหวอ...เรน่าจอมวืดเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ คงจะไม่มันขนาดนี้ถ้าไม่มีความผิดพลาดของสองนายทวารชั้นนำของพรีเมียร์ลีก ทั้ง ปีเตอร์ เช็ก และโฆเซ่ เรน่า ที่วืดวาดด้วยกันทั้งสองคน
โดยเฉพาะเช็ก ที่ เสียสุนัข ไปจากการโดน ฟาบิโอ ออเรลิโอ ลักไก่ปั่นฟรีคิกเข้าไป ก็ยังดู ประหม่า ตลอดเวลา ทำเอาแนวรับของเชลซี ที่ไม่สมประกอบอยู่แล้วปั่นป่วนไปด้วย
ส่วนเรน่า ความผิดพลาดที่ทำให้เสียประตูแรกในช่วงต้นครึ่งหลัง ความผิดอาจไม่ชัดนักเพราะจะว่าไปลูกยิงของดร็อกบา มันสะกิดเปลี่ยนทางนิดเดียว แต่ขึ้นชื่อเป็นประตูระดับท็อป ลูกแบบนี้มันต้องทำให้ดีกว่านี้
6.
หงส์ลงแดง?สกอร์ 3-1 ที่แอนฟิลด์ ทำให้ลิเวอร์พูล ไม่มีอะไรต้องเสียอีกนอกจากมาเปิดฉากลุยแหลกเพื่อเอาชนะ 3 ลูกขึ้นไปให้ได้ (หรืออย่างแย่ก็ 3-1 เท่าเดิม)
นอกจากนี้การที่ลูกทีมของ ราฟา ไม่มีเกมจะลงเล่นในเกมสุดสัปดาห์เนื่องจากตกรอบเอฟเอ คัพ ไปแล้ว ตรงข้ามกับเชลซี ที่ยังมีห่วงอยู่ในช่วงสุดสัปดาห์ในเกมเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก และยังอาจจะมีเหตุผลอีกเรื่องคือ การต้องการอุทิศชัยชนะให้แก่แฟนบอลที่เสียชีวิตถึง 96 คนจากเหตุโศกนาฏกรรมที่ฮิลส์โบโร่ห์ ด้วย
ด้วยเหตุนี้พี่หงส์เลยเล่นเหมือนคนลงแดงอย่างที่เห็น
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว