ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (Fabio Cannavaro) |
|
นักเตะกองหลังหมายเลขหนึ่งของโลก ที่ผ่านประสบการณ์มากมาย พาทีมเป็นทั้งแชมป์โลก และแชมป์ลีก ต้องการจะสร้างความสำเร็จอีกครั้งในลาลีก้า |
ฟาบิโอ คันนาวาโร่ เป็นลูกคนที่สองในพี่น้องสามคน เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลตอนอายุ 8 ขวบ และพออายุ 11 ขวบก็เข้าไปร่วมฝึกกับทีมเยาวชนของนาโปลี เขาได้พบเห็นการลงเล่นในสนามของมาราโดน่ากับนาโปลี และประทับใจอย่างมาก เขาได้มีโอกาสเป็น Ball Boyของนาโปลี และได้พบกับ ซิโร่ แฟร์ไรร่า นักเตะกองหลังชั้นยอดของทีมชาติอิตาลี ซึ่งเป็นต้นแบบของเขาในเวลาต่อมา 1991-1992 1992-1993 ถึงแม้จะได้ลงเล่นในลีกเพียงไม่กี่นัดแต่เขาก็ถูกเซซาเร่ มัลดินี่โค้ชทีมชาติอิตาลีชุดยู-21 เรียกเข้าสู่ทีม และเป็นจุดเริ่มต้นครั้งรแกของเขาในระดับชาติ 1993-1994 1994-1995 1995-1996 1996-1997 จากการโชว์ฟอร์มดีอย่างต่อเนื่องทำให้เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติอิตาลีเป็นครั้งแรกในเดือนมกราคม 1997 กับไอร์แลนด์เหนือ และก็ถูกเรียกตัวติดทีมเรื่อยมา 1997-1998 แม้ว่าสโมสรจะไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ แต่เขาก็ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงแรก ๆ จะในฐานะตัวสำรองก็ตาม แต่เขาก็ได้เข้าร่วมฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศสในฐานะผู้เล่นชุดแรกของทีมชาติอิตาลีและพาอิตาลีผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยไม่แพ้ทีมใดเลย แต่ก็ต้องมาตกรอบด้วยฝีมือของแชมป์โลกในปีนั้นอย่างฝรั่งเศสด้วยการยิงจุดโทษ 1998-1999 1999-2000 เขาถูกเรียกตัวติดทีมยูโร 2000 ที่ฮอลแลนด์และเบลเยียม และเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมอีกครั้งเขาพาทีมทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งในนัดชิงนี้อิตาลีเจอกับฝรั่งเศสทีมที่เขี่ยพวกเขาตกรอบฟุตบอลโลก1998 เขาและทีมหวังจะล้างตาเอาชนะให้ได้ และทีมของเขาก็น่าจะทำสำเร็จเพราะในนาทีที่ 90 อิตาลียังนำอยู่ 1-0 แต่แล้วสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อวิลตอร์ของฝรั่งเศสยิงตีเสมอก่อนหมดเวลา และในช่วงต่อเวลาก็เป็นเทร์เซเก้ก็ยิงประตูชัย สร้างความช้ำใจให้คันนาวาโร่และทีมชาติอิตาลีอีกครั้ง แต่เขาก็ได้รับการคัดเลือกให้ติดทีมยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม้นท์ 2000-2001 2001-2002 ในฟุตบอลโลก 2002 เขาได้เข้าร่วมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้อิตาลีโชวฟอร์มไม่ดีนัก โดยทำได้แค่อันดับสองในรอบแบ่งกลุ่ม และต้องตกรอบสองด้วยประตูโกลเด้นโกลของเกาหลีใต้เจ้าภาพ 2002-2003 2003-2004 ยูโร 2004 ที่โปรตุเกส อิตาลีต้องขายหน้าอย่างมากด้วยการกระเด็นตกรอบแรก หลังจากเสมอเดนมาร์ก 0-0 และเสมอสวีเดน 1-1 ตามด้วยชนะบัลแกเรีย 2-1 โดยมีคะแนนเท่ากับสวีเดน และเดนมาร์ก แต่ต้องตกรอบด้วยประตูได้-เสีย โดยทัวร์นาเมนท์นี้คันนาวาโร่ได้ลงเล่นเพียง 2 นัดเท่านั้น เพราะโดนโทษแบน 2 ใบเหลือง นับเป็นความผิดหวังของเขาอย่างยิ่ง 2004-2005 2005-2006 ในฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน อิตาลีเข้าร่วมการแข่งขันอีกครั้ง แต่ไม่ได้มาในฐานะเต็งแชมป์เหมือนครั้งก่อน ๆ แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นศักยภาพอันเต็มเปี่ยม ด้วยการผ่านเข้ารอบไปเรื่อย ๆ จนถึงนัดชิงชนะเลิศ โดยนัดชิงนี้เองเขาได้พบกับฝรั่งเศสอีกครั้ง และถือเป็นเหมือนสงครามที่ทั้งสองทีมได้พบกันอีกครั้ง โดยอิตาลีมีมาร์เซโล่ ลิปปี้เป็นกุนซือ ส่วนฝรั่งเศสก็มีเรย์มงด์ โดเมอเน็คคุมทัพอยู่ แต่นักเตะที่นำทัพของฝรั่งเศสคือมิดฟิลด์หมายเลข 1 ของโลก ซีเนอดีน ซีดาน ส่วนอิตาลีก็เป็นกองหลังหมายเลข 1 เช่นกัน ฟาบิโอ คันนาวาโร่ ทั้งสองทีมเสมอกันในเวลาการแข่งขัน แต่ครั้งนี้เป็นอิตาลีที่ยิงจุดโทษเอาชนะไปได้ และนั่นเองทำให้ผู้ที่ขึ้นรับถ้วยเวิร์ลคัพ ฟีฟ่าครั้งนี้คือ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ แต่หลังจากที่ยูเวนตุสได้แชมป์ ก็มีข่าวปัญหาการพัวพันคดีล็อคผู้ตัดสิน และล็อคผลการแข่งขัน หลังจากสมาคมฟุตบอลอิตาลีและศาลตัดสินให้ทีมที่พัวพันอันประกอบด้วยเอซีมิลาน ลาซิโอ ฟิออเรนติน่า และยูเวนตุสมีความผิดจริง ทำให้ยูเวนตุสโดนยึดแชมป์ และถูกปรับตกชั้น นักเตะหลายคนเดินจากไป ซึ่งก็รวมถึง ฟาบิโอ คันนาวาโร่ ด้วย 2006-2007 ด้วยการพาทีมเป็นแชมป์โลก และแชมป์กัลโช่ เซียรีย์ อา ทำให้เขาได้รับการโหวตให้ได้รับรางวัลบัลลง ดอร์ หรือนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรป |
Fabio Cannavaro - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่