(จากซ้าย) ราม่อน เวก้า, ฌอน ดันดี, มาร์โก้ บูเกอร์ส |
แฟนบอลของเชลซีอาจขัดใจอยู่บ้างที่มีชื่อของ แฟร้งก์ ซินแคลร์ ติดโผอยู่ด้วย เพราะเขาเคยคว้าแชมป์เอฟเอคัพ และคัพ วินเนอร์ส คัพ ร่วมกับเชลซีมาแล้ว แถมยังยิงประตูช่วยให้ทีมคว้าถ้วยลีกคัพมาครองได้ด้วย
แต่พอมาเล่นให้ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 1998 ซินแคลร์กลับทำลูกเข้าประตูตัวเอง 2 ครั้ง ใน 3 เกมที่ลงเล่นให้ทีมช่วงต้นฤดูกาล 1999-2000 และในนัดสั่งลากับเลสเตอร์ก็ยังไม่วายทำให้ทีมเสียจุดโทษซะอีก
9.มัสซิโม่ ตาอิบี้ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
หลังย้ายมาจากเวเนเซียในอิตาลี ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 4.4 ล้านปอนด์ เมื่อปี 1999 มัสซิโม่ ตาอิบี้ ก็กลายเป็นฝันร้ายของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อโชว์ฟอร์มเฟอะฟะจนทีมเสียประตูง่ายๆ โดยเฉพาะแมตช์พบกับเซาแธมป์ตันที่ปล่อยให้ลูกแปธรรมดาๆ ของ แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ลอดหว่างขาเข้าประตูไป และ 2 ใน 5 ประตูที่เสียไปในเกมบิ๊กแมตช์ที่พบเชลซี ก็เป็นผลจากการเล่นไม่เอาไหนของนายทวารรายนี้ล้วนๆ โดย 4 นัดที่ได้ลงเฝ้าเสาให้ทีม ตาอิบี้ทำผลงานราวกับเป็นกองหน้าทีมคู่แข่งเสียเอง เมื่อเสียประตูเป็นกอบเป็นกำถึง 12 ประตู
8.มิเกเล่ ปาโดวาโน่ (คริสตัล พาเลซ)
มิเกเล่ ปาโดวาโน่ ย้ายจากยูเวนตุสในอิตาลี มาเล่นให้ คริสตัล พาเลซ ในปี 1997 ด้วยความหวังที่ว่าจะช่วยนำทีมรอดจากการตกชั้นได้ แต่ดาวยิงอิตาเลียนกลับทำผลงานไม่คุ้มค่าตัว 1.7 ล้านปอนด์ในสมัยนั้น โดยทำได้แค่ประตูเดียวจาก 12 นัดที่ลงสนาม ก่อนจะถูกขายทิ้งให้ทีมเม็ตซ์ในลีกฝรั่งเศสฤดูกาลถัดมา
มัสซิโม่ ตาอิบี้ - อาลี ดิยา |
7.ฌอน ดันดี (ลิเวอร์พูล)
ทั้งที่ยิงระเบิดในเยอรมนี (16 ประตูในฤดูกาล 1995-96 และ 17 ประตู ในฤดูกาล 1996-97) แต่พอย้ายมาเล่นให้ ลิเวอร์พูล ในปี 1998 ฌอน ดันดี กลับโชว์ฟอร์มไม่ออกยิงไม่ได้สักประตู จนต้องปล่อยตัวกลับไปเล่นในลีกบุนเดสลีกาตามเดิมโดยมีสตุ๊ทการ์ทรับช่วงต่อ
6.ราม่อน เวก้า (ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์)
หลายคนคิดว่าเซ็นเตอร์แบ๊คชาวสวิสจะมาเป็นกองหลังในฝันคู่กับ โซล แคมป์เบลล์ เมื่อครั้งย้ายจากกายารี่มาอยู่กับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในปี 1997 แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม โดยเฉพาะในเกมที่บุกไปแพ้เชลซี 0-3 ราม่อน เวก้า กลับทำให้ทีมเสียจุดโทษโดยไม่จำเป็นเสียอย่างนั้น
5.โทมัส โบรลิน (ลีดส์ ยูไนเต็ด)
โทมัส โบรลิน ดาวยิงสวีเดนเคยติดอยู่ในท็อป 10 นักเตะหุ่นจ้ำม่ำของ "เดอะ ซัน" มาแล้ว และก็เป็นคนเดียวกับที่เคยยิงประตูทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลยูโร 92 รวมถึงอยู่ในทีมสวีเดนชุดคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก ปี 1994 ด้วย แต่กลับไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อ ลีดส์ ยูไนเต็ด เท่าไหร่นัก เมื่อย้ายมาร่วมทีมในปี 1995 เพราะทั้งอ้วน และฟอร์มห่วย จนต้องปล่อยตัวให้เอฟซี ซูริค ในลีกสวิตเซอร์แลนด์ยืมตัวไปร่วมทีมจนจบฤดูกาล
4.ติตัส บรัมเบิ้ล (นิวคาสเซิล และทุกสโมสรที่เคยเล่นด้วย)
แม้ว่า ติตัส บรัมเบิ้ล จะมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นหนึ่งในกองหลังชั้นเยี่ยมของอังกฤษ แต่ติดอยู่ที่ ปัญหาเดียว คือเรื่อง ความประพฤติอันแสนย่ำแย่ ทั้งในและนอกสนาม อีกทั้งยังเคยถูกโหวตให้เป็นนักเตะยอดแย่แห่งปีของพรีเมียร์ลีกโดย "เดอะ ฟีเวอร์" จดหมายข่าวในเครือของ "เดอะ การ์เดี้ยน" มาแล้ว
3.วินสตัน โบการ์เด้ (เชลซี)
เซ็นเตอร์แบ๊คทีมชาติเนเธอร์แลนด์ผ่านการค้าแข้งกับทีมดังอย่างอายแอ็กซ์, เอซี มิลาน และบาร์เซโลน่ามาแล้ว ก่อนจะย้ายมาซบทีมเชลซีในฤดูกาล 2000-2001 ตามคำแนะนำของเพื่อนร่วมชาติ มาริโอ เมลช็อต แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าการย้ายมาร่วมทีมครั้งนั้น จานลูก้า วิอัลลี่ กุนซือของทีมไม่ได้รับรู้กับเขาด้วย แถมกุนซือใหม่ที่เข้ามาทำทีมแทนอย่าง เคลาดิโอ รานิเอรี่ ก็ไม่ต้องการตัวซะอีก
งานนี้ เจ้าตัวเลยไม่ได้ลงสนามในทีมชุดใหญ่ และแทบไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีม (ได้ลงเล่นแค่ 11 นัด) แต่ก็รับเงินค่าเหนื่อยไปเหนาะๆ 40,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ตลอดสัญญา 4 ปี แถมยังได้โบนัสตามเงื่อนไขในสัญญาที่ระบุเอาไว้ตอนที่เชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วย จึงไม่แปลกที่โบการ์เด้จะพูดว่า "ผมอาจจะติดอยู่ในโผนักเตะที่ซื้อมาเสียเปล่าที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก แต่ผมก็ไม่แคร์"
2.มาร์โก้ บูเกอร์ส (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)
มาร์โก้ บูเกอร์ส ย้ายจากสปาร์ต้า ร็อตเธอร์ดัม ทีมในเนเธอร์แลนด์บ้านเกิด มาเล่นให้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 750,000 ปอนด์ เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 1995 ด้วยสถิติยิง 1 ประตูทุกๆ 3 เกม แต่แค่นัดที่ 2 กับเวสต์แฮม บูเกอร์สก็โดนไล่ออกหลังจากลงมาเป็นตัวสำรองได้แค่ 15 นาที เพราะไปยันขาทั้งสองข้างใส่ แกรี่ เนวิลล์ กองหลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนโดนใบแดง
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ดาวยิงดัตช์รู้สึกเสียใจมากจึงหายหน้าหายตาไปจากทีมนานหลายสัปดาห์ เบ็ดเสร็จแล้วบูเกอร์สได้ลงสนามให้เวสต์แฮม แค่ 4 นัด รวม 95 นาที!
1.อาลี ดิยา (เซาแธมป์ตัน)
การมาของ อาลี ดิยา กองหน้าเซเนกัลในปี 1996 เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของ แกรม ซูเนสส์ กุนซือเซาแธมป์ตันล้วนๆ ที่เข้าใจว่าเป็นคำแนะนำจากยอดตำนานนักเตะไลบีเรีย จอร์จ เวอาห์ ที่เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมปารีส แซงต์ แชร์แมง มาด้วยกัน ทำให้หลงเชื่อเซ็นสัญญาร่วมทีมเป็นเวลา 1 เดือน
แต่แล้วโอกาสของดิยาก็มีเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น เมื่อลงมาเป็นตัวสำรองแทน แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ในนัดพบลีดส์ ยูไนเต็ด ก่อนที่ซูเนสส์จะทนไม่ไหวต้องเปลี่ยนตัวออก หลังปล่อยให้ทำขายหน้าด้วยลีลาที่ต่ำกว่ามาตรฐานอยู่นาน 16 นาที
สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีใครได้เห็นนักเตะรายนี้ลงสนามอีกเลยนับจากวันนั้นเป็นต้นมา!