ศึกเอฟเอคัพ รอบ4 จบไปบางส่วนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีการประกบคู่ รอบ5 ออกมาแล้ว
ในบรรดาทีมบิ๊กโฟร์ เชลซีและแมนยูผ่านเข้ารอบ ขณะที่ลิเวอร์พูลและอาร์เซน่อลต้องเหนื่อยกับการเตะรีเพลย์อีกครั้ง
ก่อนที่แมนยูจะมาดวลสเปอร์ เซอร์อเล็กซ์ เฟอกูสัน สร้างความฮือฮาด้วยการขุดกติกาเก่าแก่ของเอฟเอคัพมาเล่าสู่กันฟัง
กติกาดังกล่าวระบุไว้ว่า เอฟเอคัพไม่จำเป็นต้องเตะรีเพลย์ในทันทีในกรณีที่เสมอกัน สามารถต่อเวลาได้เลย ทีมคู่แข่งต้องแจ้งเอฟเอว่าพร้อมจะต่อเวลาภายใน 7 วันหลังรู้ผลการประกบคู่
ที่เฟอร์กี้ยกกฎนี้ขึ้นมาคงไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลง เพราะรู้ดีว่าเป็นเรื่องยาก เนื่องจากติดขัดเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด สถานีโทรทัศน์ที่ทุ่มเงินซื้อลิขสิทธิ์ราคาแพงคงไม่ยอมแน่ หากไม่มีการเตะรีเพลย์
แต่กุนซือผีแดงต้องการบ่นเรื่องคิวแข่งเพิ่มเติมซึ่งไม่เป็นที่ปรารถนาของทีมยักษ์ใหญ่ โดยเฉพาะทีมของเขาเองที่ยังพัวพันอยู่ถึง 4 รายการ ทั้งพรีเมียร์ลีก,แชมป์เปี้ยนลีก,เอฟเอคัพ และลีกคัพที่เข้าชิงกับสเปอร์ อีกทั้งนักเตะก็บาดเจ็บค่อนทีมอีกด้วย
ต่างจากทีมเล็กๆที่พร้อมจะเตะใหม่ทุกเมื่อ เพราะทำให้พวกเขามีรายได้เพิ่มมากขึ้นยิ่งการเจอกับทีมใหญ่ ได้ถ่ายทอดสด เก็บค่าตั๋วเพิ่มเติมยิ่งดี
ถือว่าแบ่งๆกันไป ช่วยกระจายรายได้ให้ทีมเล็กมีเงินไปจุนเจือสโมสรบ้าง
พอรู้ผลคู่วันอาทิตย์ที่อาร์เซน่อลและลิเวอร์พูลต้องเล่นรีเพลย์กับคาร์ดิฟฟ์และเอฟเวอร์ตันเท่านั้นล่ะครับ ท่านเซอร์ยิ้มแฉ่ง เพราะสองทีมนี้เป็นคู่แข่งในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูลและอาร์เซน่อลยังต้องไปเยือนโอลด์แทรฟเฟิร์ดในพรีเมียร์ลีก เมื่อต้องเตะรีเพลย์เอฟเอคัพ ย่อมเป็นการตัดกำลังไปในตัว
สำหรับหงส์แดงยังฟอร์มฝืดตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา ล่าสุดเสมอกับเอฟเวอร์ตันเป็นนัดที่สองติดต่อกันแล้ว
แต่ผมเชื่อว่า การย้ายไปเตะที่ กูดิสัน พาร์ค ทีมของราฟาเอล เบนิเตซ น่าจะมีโอกาสคว้าชัยมากกว่าเล่นในแอนฟิลด์
เพราะท๊อฟฟี่ตั้งใจมารับแล้วสวนกลับในการเล่นเป็นทีมเยือน ถ้าเล่นในบ้านมีแรงเชียร์มาก เอฟเวอร์ตันย่อมเปิดเกมส์บุกมากกว่า ทำให้หงส์แดงมีช่องทางในการเจาะเข้าไปทำประตูมากขึ้น
เว้นเสียแต่ว่า เดวิด มอยส์ จะกำชับให้ลูกทีมใจเย็น เน้นตั้งรับเหมือนเดิม สร้างความอึดอัดให้ลิเวอร์พูลต่อไป
กรณีของร๊อบบี้ คีน ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาไม่มีชื่อแม้แต่ตัวสำรอง ทำให้เขาผิดหวังถึงกับไม่ร่วมดูเกมส์ริมสนามกับเพื่อนๆ
การที่ราฟามักจะส่ง ลูคัส เลวา ในรายชื่อก่อนเกมส์ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง แต่ไม่ใยดีกับคีน ทำให้ผมมีข้อสังเกตุว่า คีนอาจไม่ใช่นักเตะที่เขาต้องการซื้อมาร่วมทีมอย่างจริงจัง
แต่เป็นการตัดสินใจของ ริค แพร์รี่ ที่ไม่ค่อยกินเส้นกับราฟาอยู่เนืองๆ เมื่อมีเหตุการณ์ที่ราฟาไม่ต่อสัญญาเพราะเขาต้องการสิทธิ์ขาดในการซื้อนักเตะ ยิ่งทำให้เชื่อว่าคีนไม่ใช่เด็กของเขา
ท้ายคอลัมน์วันนี้มีสถิติที่น่าสนใจมาฝากเช่นเคยครับ
2ถดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลและอาร์เซน่อลกลับบ้านมือเปล่าทั้งคู่ ถ้าซีซั่นนี้ชวดแชมป์ทุกรายการอีกก็จะทำแฮตทริกพอดี
หนสุดท้ายที่ลิเวอร์พูลและอาร์เซน่อล ทีมใดทีมหนึ่งที่ไม่ได้แชมป์อะไรเลยในรอบ 3 ปี คงต้องย้อนกลับไปในช่วงปลายทศวรรษที่ 60 ระหว่างปี 1967-69
ก่อนหน้านั้นลิเวอร์พูลได้แชมป์ดิวิชั่น 1 ในปี1966 และอาร์เซน่อลกลับมาคว้าแชมป์แฟรส์คัพ(ยูฟ่า คัพ)ในปี 1970
ขอบคุณบทความคุณภาพดีจากพี่ : โต้ บ้านแหลม