ปีศาจแดงได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 10 ครั้ง ตรงข้ามกับหงส์ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในลีกมา 18 ปีเต็ม เมื่อต้องบี้แย่งแชมป์กันในปีนี้ ทีมของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็เลยได้เปรียบมากกว่าเป็นธรรมดา
ทีมที่เคยเป็นแชมป์มาแล้วมันจะรู้น่ะครับว่า ควรเล่นยังไง ทำใจแบบไหนเวลาคับขัน โดนกดดันมากๆ ก็จะนิ่งกว่าเพราะเคยผ่านมาแล้ว มีบทเรียนมาเรียบร้อยแล้ว
ถ้าลิเวอร์พูลจะเอาชนะแมนฯยูจึงต้องพร้อมในทุกๆ ด้าน ฟอร์มต้องดีสม่ำเสมอ ใจต้องหิน ไม่หวั่นไหวง่าย
ที่สำคัญคือ ต้องไม่กลัวแมนฯยูไนเต็ด
สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์วัดใจหงส์แดงอย่างแท้จริง
ลิเวอร์พูลมีคิวทำศึกเมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้กับ เอฟเวอร์ตัน ในคืนวันจันทร์ ถึงตอนนั้นอาจเสียตำแหน่งจ่าฝูงให้แมนฯยูไปแล้วเพราะปีศาจแดงจะบุกเยือนโบลตันก่อนตั้งแต่บ่ายวันเสาร์
เหมือนงัดสคริปต์เก่าๆ ออกมาเล่นไหมล่ะ, แมนฯยูไนเต็ดเร่งพรวดๆ ขึ้นมาหลังปีใหม่เหมือนที่เคยทำเป็นประจำ และถ้าทะลุขึ้นนำเมื่อไหร่ โอกาสพลาดแชมป์ก็มีน้อยชะมัด ทุกอย่างมาแนวเดิมๆ ตามแผนที่เซอร์อเล็กซ์วางไว้ไม่มีผิด
ปีศาจแดงมาแล้วจริงๆ แต่ก็ไม่แน่ว่าคราวนี้มาเร็วไปหรือเปล่า
ขณะเดียวกัน ก็ยังต้องรอดูการตอบโต้จากลิเวอร์พูลด้วย
มองเผินๆ เหมือนเข้าทางแมนฯยูนะครับ ค่อยๆ ตอดเก็บ 3 แต้ม วันไหนฟอร์มดีก็ชนะขาด ถ้าแย่หน่อยก็เฉือนเบาะๆ แค่ 1-0 อาศัยเกมรับช่วยประคองไป
ปีศาจแดงอาจไม่เปรี้ยงปร้างทุกนัดแต่การที่เกมรับไม่เสียประตูในลีกมา 9 นัดติดต่อกันก็ช่วยทดแทนได้เป็นอย่างดี
ปัญหาคือ เร่งเครื่องพรวดพราดขึ้นมาเที่ยวนี้ใช้พลังงานไปไม่น้อยและต้องชดใช้ด้วยอาการบาดเจ็บของตัวหลักอย่าง เวย์น รูนี่ย์, ปาตริซ เอวร่า, ริโอ เฟอร์ดินานด์ ส่วน คาร์ลอส เตเวซ กับ จอนนี่ เอแวนส์ ก็เจอของแข็งจากนัดชนะวีแกนล่าสุด จนอาจไม่สมบูรณ์พอสำหรับเกมเยือนโบลตันเช่นกัน
แมนฯยูไนเต็ดต้องลงสนาม 3 นัดในรอบ 7 วัน ถึงเซอร์อเล็กซ์พยายามโรเทชั่นยังไง นักเตะก็คงมีอาการล้าบ้างแหละ
เทียบความสดกัน ปีศาจแดงจึงเป็นรองโบลตันแน่แล้วอย่าลืมว่าเจ้าบ้านกำลังเข้าตาจน แพ้รวดมา 3 นัดแบบเกมศูนย์ คะแนนห่างโซนตกชั้นแค่ 3 แต้ม เสาร์นี้จึงน่าจะมีลูกบ้ามากกว่าปกติ
ถ้าแมนฯยูบุกชนะได้ก็ต้องยอมรับว่าแน่ และจะเพิ่มความมั่นใจให้ทีมอีกหลายเท่า
จากนั้นก็จะโยนความกดดันไปบี้ลิเวอร์พูลให้ต้องชนะเอฟเวอร์ตันสถานเดียว
ตรงนี้แหละจะได้วัดใจกันไปเลยว่า หงส์แดงหนักแน่แค่ไหน ดีพอจะเบียดกับผีต่อไปหรือไม่
ถ้ามองตามเกม ลิเวอร์พูลที่มี เฟร์นานโด ตอร์เรส ฟิตกลับมาช่วยยังเหนือชั้นกว่าท็อฟฟี่ ซึ่งตัวแสบอย่าง มารูยาน เฟลไลนี่ ดันติดโทษแบนลงไม่ได้พอดี
แต่ถ้าหงส์เกิด "ใจร้าว" เร่งตัวเองมากไปจนผิดฟอร์ม ปีศาจแดงก็ยิ้มหวานกันเท่านั้น
โปรแกรมแข่งพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 17 ม.ค. แบล๊คเบิร์น-นิวคาสเซิล, โบลตัน-แมนฯยู, เชลซี-สโต๊ก, แมนฯซิตี้-วีแกน, ซันเดอร์แลนด์-แอสตัน วิลล่า, เวสต์บรอม-มิดเดิ้ลสโบรช์, ฮัลล์-อาร์เซน่อล วันอาทิตย์ที่ 18 ม.ค. เวสต์แฮม-ฟูแล่ม, สเปอร์ส-ปอร์ทสมัธ วันจันทร์ที่ 19 ม.ค. ลิเวอร์พูล-เอฟเวอร์ตัน
โปรแกรมถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์
คืนวันเสาร์ที่ 17 ม.ค. เวลา 22.00 น. แบล๊คเบิร์น-นิวคาสเซิล (ทรูสปอร์ต 5), โบลตัน-แมนฯยู (ทรูสปอร์ต 3), เชลซี-สโต๊ก (ทรูสปอร์ต 1), แมนฯซิตี้-วีแกน (ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 2 คลับเอ), ซันเดอร์แลนด์-แอสตัน วิลล่า (ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 2), เวสต์บรอม-มิดเดิ้ลสโบรช์ (ทรูสปอร์ต 1) เวลา 00.30 น. ฮัลล์-อาร์เซน่อล (ทรูสปอร์ต 1) เวลา 02.00 น. บาร์เซโลน่า-ลา คอรุนญ่า (ทรูสปอร์ต 1) เวลา 02.30 น. เอซี มิลาน-ฟิออเรนติน่า (ทรูสปอร์ต 3) เวลา 04.00 น. เซบีญ่า-นูมานเซีย (ทรูสปอร์ต 1) คืนวันอาทิตย์ที่ 18 ม.ค. เวลา 20.30 น. เวสต์แฮม-ฟูแล่ม (ทรูสปอร์ต 1) เวลา 21.00 น. โตริโน่-โรม่า (ทรูสปอร์ต 3) เวลา 23.00 น. สเปอร์ส-ปอร์ทสมัธ (ทรูสปอร์ต 1) เวลา 01.00 น. แอธเลติก บิลเบา-บาเลนเซีย (ทรูสปอร์ต 1) เวลา 02.30 น. ลาซิโอ-ยูเวนตุส (ทรูสปอร์ต 3) เวลา 03.00 น. ลิเวอร์พูล-เอฟเวอร์ตัน (ทรูสปอร์ต 1)