
ต้องบอกว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น บิ๊กโฟร์ของพรีเมียร์ลีกต่างมีอารมณ์คนละแบบกันโดยสิ้นเชิงครับ
“เด็กปืน” เป็นทีมแรกที่ลงสนามในช่วงบ่ายวันเสาร์พบกับโบลตัน วันเดอเรอร์สครับ และก็พยายามอยู่นานกว่าจะได้ประตูชัยจากนิคลาส เบนท์เนอร์ หอกโคนมที่หลายคนไม่ค่อยประทับใจฟอร์มเท่าไหร่
จริงๆแล้วเบนท์เนอร์เองก็ไม่ใช่นักเตะที่ขี้เหร่เลยนะครับ แม้ว่าเราจะเห็นเขาจับบอลยาว ยิงไม่คม ใช้โอกาสเปลือง แต่เบนท์เนอร์ก็เป็นคนยิงประตูตัดสินเกมในหลายๆนัด
เช่นเกมกับดินาโม เคียฟ ในแชมเปี้ยนส์ ลีกรอบแรกถ้าไม่มีหอกตีนชมพู ป่านนี้อาร์เซน่อลอาจเสียคะแนนไปอีก 2 คะแนน และจะเข้ารอบหรือไม่ก็ไม่รู้
ดังนั้นการที่อาร์เซน่อลจะเก็บเบนท์เนอร์ไว้ เป็นความคิดที่ถูกต้องแล้วล่ะครับ ส่วนในเรื่องของเกมนั้น ปืนโตยังมีจุดอ่อนบางจุดครับ ไม่ว่าจะเป็นคู่เซนเตอร์อนาคตยังไม่ชัดเจนทั้งคู่ และฟอร์มที่ยังไม่มีมาตรฐานพอของอาบู ดิยาบี้
ครับนั่นคือสิ่งที่อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือมาดเนี้ยบต้องแก้ไขกันต่อไป ซึ่งถึงอาร์เซน่อลจะไม่ใช่ทีมที่ลุ้นแชมป์อย่างจริงจัง แต่ผมเชื่อว่าอาร์เซน่อลจะเป็นตัวแปรสำคัญของการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอนครับ
ผมเชื่อว่าเด็กปืนทุกคนสู้อยู่แล้วครับ และเมื่อเข้าเส้นชัยปีนี้ยังไงอาร์เซน่อลก็คงได้ที่สี่เป็นอย่างต่ำแน่นอน
ทีมถัดมาที่ลงสนามคือ “จ่าฝูง” ลิเวอร์พูลครับ โดยก่อนเกมมีข่าวเกี่ยวกับสงครามจิตวิทยาของราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือหงส์แดง และเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนฯยูไนเต็ด
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะส่งผลต่อสมาธิและการจัดทีมของราฟารึเปล่านะครับ แต่ที่เห็นๆคือราฟายังคง “มึน” กับการจัดแผนเหมือนเดิม
ข้อแรกคือกองกลางลิเวอร์พูลยังคงไม่มีประสิทธิภาพพอเหมือนเดิม ลูคัส เลวา ยังคงพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ในฐานะจอมทัพ เช่นเดียวกับยอสซี่ เบนายูนซึ่งฝีเท้าน่าจะอยู่กับทีมระดับกลางตารางอย่างเวสต์แฮมน่ะเหมาะที่สุดแล้วครับ ลิเวอร์พูลอาจจะไม่ใช่ทีมที่เหมาะสำหรับเขา
“หงส์แดง” เซทเกมขึ้นไปได้ยากมากครับ และยังคงต้องอาศัยจังหวะการทะลุทะลวงของ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด เหมือนเดิม ซึ่งก็ไม่ได้ผลครับเพราะวันนี้สโต๊กเตรียมตัวมารับได้ดีเหมือนนัดแรกที่แอนฟิลด์เลย บวกกับการที่มีเจอร์ราร์ดแค่คนเดียว บางทีมันก็อาจไม่สามารถช่วยลิเวอร์พูลได้ตลอดครับเพราะเจอร์ราร์ดเองก็ไม่ใช่เทวดาที่ไหน ยังคงต้องอาศัย “ผู้ช่วย” อยู่ดีครับเขาถึงจะทำประตูได้ ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้นักเตะที่ล้วงมาเอาบอลกลางสนามละใช้ความสามารถเฉพาะตัวทะลวงคู่ต่อสู้อย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส น่าจะอยู่ในสนามมากกว่า เดิร์ก เคาท์ ที่ความสามารถเฉพาะตัวอ่อนด้อยกว่าหอกสแปนิชครับ แต่ก็อย่างว่าครับราฟาอาจจะมองว่าตอร์เรสยังไม่ฟิต จึงเหมาะกับการเป็นตัวสำรองมากกว่า
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมขอชมราฟาเลยคือการดึงตัวอัลเบิร์ต ริเอร่าครับ มิดฟิลด์สเปนนี่แหละครับคือจิ๊กซอว์ทางซ้ายที่ลิเวอร์พูลค้นพบซักที ริเอร่ามีทุกอย่างครับทั้งความสามารถเฉพาะตัว ความเร็ว และการครอสบอลที่ค่อนข้างจะแม่นยำครับ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการที่ลิเวอร์พูลอัพเกรดตัวเองจนมาลุ้นแชมป์จริงจังในฤดูกาลนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าฟอร์มของนักเตะสแปนิชรายใหม่ผู้นี้แหละครับ
ขณะที่เกมนี้รอรี่ ดีแล็ป ก็สร้างความปั่นป่วนให้กับลิเวอร์พูลได้เช่นกันแม้ทีมจะไม่ได้ประตูก็ตาม โดยซามี่ ฮูเปียและเจมี่ คาร์ราเกอร์ ต้องคอยเคลียร์คอยโหม่งทิ้งกันจ้าละหวั่น ซึ่งอาวุธที่ไม่เหมือนใครตรงนี้ล่ะครับ น่าจะทำให้สโต๊ค ซิตี้ ไม่ยอมแพ้ยกธงขาวตกชั้นไปง่ายๆ อย่างน้อยๆผมเชื่อว่า สโต๊คน่าจะฮึดสู้ไปถึงท้ายฤดูกาลได้อย่างแน่นอน ถ้าพวกเขายังใจสู้ และเล่นในบ้านได้ดีขนาดนี้
ประเด็นสุดท้ายเกี่ยวกับหงส์แดงนั้น ผมขอพูดถึงร็อบบี้ คีนซักนิดครับ สองนัดแล้วที่ราฟาไม่ส่งคีนลงเป็นตัวสำรองคนสุดท้าย ทั้งๆที่ทีมกำลังต้องการประตู เพราะอะไรครับ? เพราะราฟาไม่มั่นใจในตัวคีนรึเปล่า? ซึ่งถ้าราฟาคิดเช่นนั้นจริง ผมว่าราฟากำลังทำร้ายหอกไอริชโดยไม่รู้ตัวครับ เพราะคีนกำลังต้องการการปรับตัว กำลังใจแลความมั่นใจจากเฮดโค้ชเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งถ้าคีนไม่ได้ตรงจุดนี้มา ผมว่าอนาคตของคีนในถิ่นแอนฟิลด์คงไม่แน่นอนแล้วล่ะครับ คีนน่าจะไปพิสูจน์ตัวเองที่อื่นจะดีกว่า หรือผมว่าถ้าคีนจะสู้ต่อและมีโอกาสอีกซักนัด เขาต้องระเบิดฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาให้ได้ครับ เพื่อให้ราฟาหันเกลับมาสนใจ และใช้คีนเป็นตัวเลือกแรกในแดนหน้าอีกครั้ง
โดยสรุป ผมว่าเกมรุกของลิเวอร์พูลยังไม่มีความหลากหลายพอครับ บวกกับสโต๊กที่เล่นได้เหนียวมาก ทำให้ต้องจบเกมด้วยการแบ่งแต้มไปในที่สุด โดยลิเวอร์พูลทำอะไรไม่ได้ นอกจากลุ้นให้บิ๊กแมตช์ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดในวันถัดมาเสมอกันเท่านั้นครับ
และเวลาดีเดย์ก็มาถึงในที่สุดครับ ห้าทุ่มคืนวันอาทิตย์ และการประกาศทีมชีตของยูไนเต็ดก็สร้างความประหลาดใจให้แฟนๆพอสมควรครับ เพราะเฟอร์กี้เลือกส่ง ไรอัน กิ๊กส์ ลงเป็นมิดฟิลด์คู่กับดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ซึ่งการที่กิ๊กส์เบียดคาร์ริคมาเป็นตัวจริงได้นั้น เพราะอะไรครับ เฟอร์กี้คิดอะไรอยู่ในใจรึเปล่า

สิ่งที่เฟอร์กี้วางแผนคือ ใช้ประสบการณ์และความเก๋าเกมของกิ๊กส์ ทะลุทะลวงคู่แข่งครับ เกมนี้ต้องบอกว่าการจ่ายบอล และการคอนโทรลเกมแดนกลางของกิ๊กส์นั้นสุดยอดมากครับ เขาใช้จังหวะเพียงไม่กี่จังหวะสร้างสรรค์เกมรุกแล้วได้จบ ในขณะที่กองกลางเชลซีจ่ายบอลกันหลายจังหวะมากไป จนสุดท้ายก็สร้างประโยชน์อะไรไม่ได้เสียกันไปเอง
นั่นคือหนึ่งประเด็นที่ทำให้ยูไนเต็ดเป็นต่อเชลซีครับ แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้ผลการแข่งขันออกมาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนั้น คือ “ลูกกลางอากาศ” ครับ เชลซีรับลูกเซทเพลย์ได้แย่มาก และปัญหานี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข อย่างลูกแรกที่ไม่ได้ประตู (โรนัลโด้โหม่งเข้า ) ทำไมถึงปล่อยให้โรนัลโด้โฉบไปโหม่งง่ายๆ และหลังจากนั้นเตะมุมอีกครั้ง ทำไมไม่มีตัวคุมเสาครับ และลูกสุดท้ายของเบอร์บาตอฟ เกมรับเชลซีประกบตัวห่างมาก และทำให้เบิร์บหลุดไปแปง่ายๆ
นั่นคือนโยบายเร่งด่วนที่ “บิ๊กฟิล” ต้องแก้ไขครับ เช่นเดียวกับเกมรุกของเชลซีที่เฟดลงไปชัดเจนในปีนี้ โดยเฉพาะดิดิเย่ร์ ดร็อกบาที่มาตรฐานต่ำลงไปมาก และเดโก้กับแลมพาร์ด สองมิดฟิลด์ตัวสำคัญที่พาเหรดกับฟอร์มตก
ครับ สโคลารี่คงจะต้องนำลูกทีมฮึดสู้และกลับมาเป็นเชลซีทีมเดิมให้ได้ นั่นคือภารกิจสำคัญที่ต้องทำครับ เชลซีที่มีความเขี้ยวลากดิน ชนะได้ทุกทีม เกมรุกดี และเกมรับโคตรเหนียว จะต้องกลับมาครับ หากเชลซียังคงต้องการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่นนี้
และจากผลการแข่งขน แฟนลิเวอร์พูลอาจจะหนาวๆร้อนๆแล้วครับ ซึ่งตรงข้ามกับแฟนบอลยูไนเต็ดที่เริ่มผยองแล้วว่าปีนี้จะกลับมาได้แชมป์แน่ๆ แต่อะไรๆก็ไม่แน่นอน เกมกับวีแกนและฟูแล่มจะเป็น 6 คะแนนเต็มหรือไม่ก็ไม่รู้ และยูไนเต็ดจะเล่นดีแบบนี้ได้ทุกนัดรึเปล่า ? และโปรแกรมหฤโหดที่รออยู่ทั้ง 4 ถ้วย จะทำให้พวกเขาล้าหรือไม่ ? พวกเขาจะฝ่าฟันมันไปได้หมด และยังยืนอยู่ได้หรือไม่ ?
นีคือคำถาม ที่ยูไนเต็ดต้องตอบแฟนบอลทุกคนให้ได้ครับ
ตอนนี้ พวกเขาได้เปรียบที่สุดแล้ว โอกาสที่จะขึ้นนำจ่าฝูง เป็นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแล้ว
แต่พวกเขาจะฉกฉวยมันไว้ได้หรือไม่…
ต้องคอยติดตามครับ

เครดิตคอลัมน์ เจี๊ยบ เคเอฟซี


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday