สัปดาห์นี้แฟนบอลบ้านเราคงหายเหงาไปเยอะ เพราะมีฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชั่นคัพ ถ่ายทอดสดจากเยอรมนีมาให้ดูกันเต็มอิ่มทุกนัด
ศึกคอนเฟดฯอาจจะไม่ใช่ทัวร์นาเมนต์ยอดฮิต แต่ถ้าถามถึงคุณ ภาพก็ไม่น่าจะผิดหวังอะไรอีกเหมือนกัน
ฟีฟ่า คนต้นคิดเขาโปรโมตรายการว่า เป็นมินิเวิรลด์คัพเชียวนะครับ
รายการนี้เสนอตัวเองในฐานะบอลชิงแชมป์ทวีป จับเอาแชมเปี้ยนของยุโรป, โอเชียเนีย อเมริกาใต้, แอฟริกา, เอเชีย รวมทั้งคอนคาเคฟมาเตะกับทีมแชมป์โลก และเจ้าภาพรวมเป็น 8 ทีม โดยกำหนดแข่งกันทุกๆ 2 ปี
ปีนี้ 8 ทีมที่ผ่านเข้ามาถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มเอ มีเยอรมนี เจ้าภาพ, อาร์เจนตินา แชมป์โอลิมปิกและรองแชมป์อเมริกาใต้ซึ่งได้โควตาจากบราซิลที่มาเล่นในฐานะแชมป์โลก ออสเตรเลีย แชมป์โอเชียเนีย รวมทั้งตูนิเซีย แชมป์ทวีปแอฟริกา
ส่วนกลุ่มบี ก็มี บราซิล, กรีซ แชมป์ยุโรป, เม็กซิโก แชมป์คอนคาเคฟ และญี่ปุ่นแชมป์เอเชีย
แน่นอนว่าพวกที่อยู่ในข่ายลุ้นแชมป์ย่อมเป็นพวกซูเปอร์ทีมอย่างบราซิล, อาร์เจนตินา, เยอรมนี สามรายนี้มาตรฐานขึ้นหิ้ง ไว้ใจฝีเท้าได้พอๆ กัน
แต่มันก็น่าเบื่อนะครับ ที่เห็นพวกมหาอำนาจผลัดกันคว้าถ้วยยันป้าย
สู้เปลี่ยนบรรยากาศมาลุ้นทีมเล็กๆ แทนก็ไม่ได้ เร้าใจกว่าเยอะ
คอนเฟดเดอเรชั่นคัพ 2005 คอยจับตาดู ญี่ปุ่นกับออสเตรเลียไว้หน่อยก็ดี
สองทีมนี้ถึงฝีเท้ายังไม่ได้เกรดเวิรลด์คลาส แต่ก็มีทีเด็ดอยู่พอตัวแถมชั่วโมงบินในเกมระดับชาติก็ตุนไว้เยอะ จนค่อนข้างสุกงอมพอสมควร
คุยสบาย สไตส์ เอกราช โดย เอกราช เก่งทุกทาง
ญี่ปุ่นภายใต้การคุมทีมของ ซิโก้ อดีตซูเปอร์สตาร์บราซิล ค่อยๆ สะสมความเก๋ามาหลายปี
สร้างทั้งทีม ทั้งนักเตะไปพร้อมๆ กัน ทีมซามูไรตอนนี้จึงครบเครื่องกว่าเดิม และท้าชนต่อสู้ได้ทุกราย
ส่วนหนึ่งที่ญี่ปุ่นโตไวก็เพราะนักเตะออกไปค้าแข้งในยุโรปกันหลายคน ฝีเท้าก็เลยพัฒนาแบบก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็น ฮิเดะ นากาตะ ชุนสุเกะ นากามูระ จุนชิจิ อินาโมโตะ พวกนี้เอาตัวรอดในเกมระดับโลกได้สบาย แถมยังจะดีขึ้นได้อีกเรื่อยๆ ด้วย
นอกจากทีมเจ๋งจริงแล้ว ญี่ปุ่นยังมีข้อได้เปรียบตรงแฟนบอลที่รักกันแบบสุดใจขาดดิ้น กลายเป็นพลังแฝงที่ส่งผลบวกกับฟอร์มของทีมในสนามเต็มๆ
ดูอย่างตอนมาเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับเกาหลีเหนือที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นนัดล้างบาป โดนฟีฟ่าสั่งให้เตะในสนามเปล่า ไม่มีคนดูแท้ๆ แฟนๆ ญี่ปุ่นยังอุตส่าห์แห่ตามกันมาเชียร์ร่วมหมื่นราย แม้ว่าจะเข้าสนามไม่ได้ก็ตาม ความแน่นของแฟนบอลรวมกับสปิริตสไตล์บูชิโด ทำให้นักเตะซามูไรใกล้เป็นทีมระดับโลกเข้าไปทุกที
ส่วนออสเตรเลียถึงเป็นเสือซุ่มที่ถูกตีค่าต่ำกว่าความเป็นจริงเสมอ แม้ว่าบางครั้งทีมจิงโจ้จะเล่นกันแบบสองสลึงอย่างที่คนอื่นคิดจริงๆ ก็ตาม
นักเตะของกุนซือ แฟรงก์ ฟาริน่า อยู่ด้วยกันมาหลายปี ผลงานในคอนเฟดฯก็ทำไว้ดีพอตัว คว้ารองแชมป์ปี 1997 และได้อันดับ 3 ปี 2001
แต่โดยรวมๆ แล้ว ทีมจิงโจ้มีโอกาสเล่นกับคู่แข่งเจ๋งๆ น้อยเกินไป การอัพเกรดตัวเองก็เลยกินเวลาจนแทบจะหมดไฟไปตามๆ กัน
นักเตะทีมชาติออสเตรเลียมีชื่อคุ้นหูหลายคน เฉพาะพวกที่ค้าแข้งในสหราชอาณาจักรก็ปาเข้าไป 8 ราย อย่างเช่น มาร์ค ชวาร์เตอร์ ประตูมิดเดิลสโบรช์, เบรต เอเมอร์ตัน กับ ลูคัส นีล ของแบล็กเบิร์น รวมทั้ง ทิม เคฮิลล์ มิดฟิลด์จอมบุกเอฟเวอร์ตัน ก็รวมอยู่ในทีมชุดนี้
ออสเตรเลียสมควรได้รับเครดิตมากกว่าที่เป็นอยู่ บางทีการขอย้ายไปลุยบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย อาจช่วยส่งเสริมได้มากขึ้น แต่ถ้ามีตัวเล่นเกมระดับคอนเฟดฯบ่อยๆ ก็จะยิ่งเข้าฝักเร็วกว่าเดิม
ทัวร์นาเมนต์ที่เยอรมนีคราวนี้จึงเป็นโอกาสดีที่พวกซ็อกเกอร์ รูส์จะได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง