สิงโต 2-1,ฟ้าขาว-ตราไก่พัง,อิตาลียำเบียร์ 4-1!! เกมอุ่นเกือก
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 มีนาคม 2549 05:17 น.
สิงโตคำราม อังกฤษ แรงปลายเบียดแซงชนะ อุรุกวัย 2-1 จากประตูชัยของ โจ โคล ด้านทีมใหญ่ อาร์เจนติน่า และ ฝรั่งเศส กอดคอกันพ่ายเหลือเชื่อ แต่ที่แย่กว่าใครเพื่อนคือเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2006 อินทรีเหล็ก เยอรมัน บุกไปถูก อิตาลี ถล่มเละ 1-4 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อคืนวันพุธที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา
ศึกฟุตบอลนัดกระชับมิตร
อังกฤษ 2 - 1 อุรุกวัย
อังกฤษ เปิดรัง แอนฟิลด์ ของสโมสร ลิเวอร์พูล ต้อนรับ อุรุกวัย เพื่อเตรียมตัวไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่ประเทศเยอรมัน ในช่วงกลางปีนี้ เจ้าถิ่นแทบไม่พลิกโผตามที่ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ ดาร์เรน เบนท์ ยืนหอกคู่กับ เวย์น รูนี่ย์ โดยไม่มี แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่เจ็บ ส่วนทีมเยือนมี ดิเอโก้ ฟอร์ลัน และ มาริโอ เรเกอิโร่ นำทัพ
เปิดฉากมาไม่กี่นาที ดิเอโก้ ฟอร์ลัน มีโอกาสลุ้นประตูจากลูกยิงไกลสองครั้งแต่ว่า พอล โรบินสัน ยังรับเอาไว้ได้สบาย จากนั้นนาทีที่ 9 เป็นทีของ อังกฤษ บ้างเมื่อ เดวิด เบ็คแฮม เปิดบอลข้ามฟากจากขวาไปซ้ายให้กับ โจ โคล ดึงบอลก่อนหาช่องยิงแต่ว่าติดเซฟ ฟาเบียง คารินี่
อังกฤษ เริ่มจับจังหวะได้และดาหน้าบุกอย่งหนักนาทีที่ 21 ไมเคิ่ล คาร์ริค จ่ายให้กับ โจ โคล เล่นลูกเก่งคือแตะหนีกองหลัง อุรุกวัย และหาช่องยิงด้วยเท้าขวาแต่ว่าออกหลังไปแบบมีเสียว 2 นาทีถัดมาเจ้าถิ่นน่าได้ประตูแบบสุดๆ เมื่อ โคล โชว์สายตาและการวางบอลจ่ายให้ เบ็คแฮม ไม่ล้ำหน้าแต่ว่าจังหวะกระดกข้าม คารินี่ แรงเกินไปเลยออกหลัง
มาถึงนาทีที่ 26 อุรุกวัย ได้ลูกเตะมุมครั้งแรกทางด้านซ้ายเปิดไปหน้าประตู จอห์น เทอร์รี่ โหม่งเคลียร์ออกมาไปเข้าทาง โอมาร์ ปูโซ่ ที่ฮาล์ฟวอลเลย์แบบไม่จับด้วยเท้าขวาจากระยะ 30 หลาบอลพุ่งแบบใบไม้ร่วงเสียบสามเหลี่ยมสุดสวย อุรุกวัย บุกมานำ 1-0
เกมผ่านไปถึงครึ่งชั่วโมง เวย์น บริดจ์ แบ๊กซ้ายของ อังกฤษ มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง เจมี่ คาร์ราเกอร์ ลงมาเล่นแทน มาถึงนาทีที่ 39 เทอร์รี่ พาบอลเติมขึ้นมาเองจากแดนหลังกองหลัง อุรุกวัย สกัดไม่ขาดมาเข้าทางเขาอีกครั้งก่อนแตะหนีหลุดเดี่ยวไปยิงแต่กลับไปติดตัว คารินี่ อย่างน่าเสียดาย
ช่วงท้ายครึ่งแรก เบ็คแฮม โดนใบเหลืองเมื่อไปเสียบใส่เอ็นร้อยหวายของ มาริโอ เรเกอิโร่ อย่างน่าเกลียด ครบ 45 นาที อังกฤษ ถูกลูบคม อุรุกวัย บุกมานำอยู่ 1-0 ครึ่งหลัง อังกฤษ เปลี่ยนตัวส่ง เล็ดลี่ย์ คิง ลงมาแทน จอห์น เทอร์รี่ และ เจอร์เมน เจนาส ลงมาแทน สตีเว่น เจอร์ราร์ด