หงส์แดงลิเวอร์พูลชุดผสมชั้นไม่ถึงบุกมาเสียท่าให้ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์แบบสู้ไม่ได้โดยเฉพาะแนวรับเล่นพลาดกันน่าเกลียดแพ้ทุลักทุเล 4-2 โดยเฟรเซอร์ แคมป์เบลล์เด็กผีเหมาสองตบเท้าเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายอย่างสบายอุรา
คาร์ลิ่ง คัพรอบ 16 ทีมสุดท้าย
สเปอร์ส 4-2 ลิเวอร์พูล
สนาม : แอนฟิลด์
ประตู : 1-0 พาฟลูเชนโก้ น.38,2-0 แคมป์เบลล์ น.42,แคมป์เบลล์ น.45,3-1 เปลสซิส น. 49,4-2 ฮูเปีย น.64
เป็นการพบกันครั้งที่สองในรอบสองสัปดาห์หลังก่อนหน้านี้สเปอร์สเปิดบ้านเอาชนะแบบโชคช่วยโดยแฮร์รี่ เร้ดแนปป์ส่งชุดใหญ่เกือบทั้งหมดมีแค่เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์,เจมี่ โอฮาร่าที่ไม่ใช่ขาประจำ ส่วนราฟา เบนิเตซอัดดาวรุ่งลงเล่นมากมายทั้งเอ็นก็อก,ไลว่า,เอลซาร์,เปลสซิสรวมทั้งตัวสำรองอย่างเดเก้นและบาเบิ้ลด้วยโดยที่เฟร์นานโด ตอร์เรสตัวจริงเคาะสนิมตามคาด
ช่วงต้นเกมยังไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบเพราะแต่เหมือนสเปอร์สกำลังมั่นใจและนาทัที่ 3 เลนนอนเปิดบอลจากกรอบโทษทางขวาเป็นพาฟลูเชนโก้ขึ้นเทคโขกเผาขนแต่บอลถากออกหลังแบบมีเสียว
แต่ทีมเยือนเริ่มกลับมาครองเกมได้มากขึ้นเรื่อยๆแต่เหมือนลิเวอร์พูลยังมีปัญหากับลูกโด่งเพราะพาฟลูเชนโก้ได้ลุ้นทำประตูจากลูกเปิดด้าข้างอีกแล้ว
สเปอร์สเล่นดูดีกว่ามากขึ้นเรื่อยๆเพราะตัวชุดใหญ่และตัวจี๊ดค่อนข้างเยอะ เรียกว่าเกมรุกของหงส์แดงหายไปเลยจนตอร์เรสหายไปจากเกมเลย
นาที 20 ลิเวอร์พูลเกือบพังเมื่อเบลเปิดบอลจากปีกซ้ายมาถึงเลนอนที่ล็อกหลอกดอสเซน่าจนถลำก่อนยิงด้วยซ้ายจ่อๆแต่แอกเกอร์ล้มตัวบล็อกทั้งหน้าทั้งมือรอดตายหวุดหวิด
เกมเริ่มมายื้อกันกลางสนามากขึ้นโดยไก่เดือยทองยังพยายามออกริมเส้นแล้วโยนเข้ามาแต่ลิเวอร์พูลก็รู้ทันพยายามกันท่าไม่ให้เล่นถนัด
แดนกลางทีมเยือนเป็นรองเยอะเพราะเก็บบอลแทบไม่ได้ เห็นแบบนี้แล้วสงสัยต้องเรียกใช้บริการอลอนโซ่ที่มีขื่อบนม้านั่งสำรองในครึ่งหลังแน่
และแล้วนาที 38 สเปอร์สมาขึ้นนำง่ายๆจากจังหวะที่แคมป์เบลล์ซึ่งตัวเล็กกว่าเบียดกับซามี่ ฮูเปียจนบอลทำท่าจะออกหลังและฮูเปียก็เหมือนจะปล่อยๆทำให้เจ้าหนูยูไนเต็ดทิ้งตัวตวัดเข้ากลางให้พาฟลูเชนโก้ตั้งป้อมยิงแบบไร้ตัวประกบระยะ 9 หลาบอลทะลุกลางประตูผ่านคาวาเลียรี่ไม่มีเหลือ
จากนั้นเขี่ยได้ไม่นานไก่เดือยทองเกือบได้ลูก 2 อีกเมื่อแคมป์เบลล์ทะลุขึ้นมาตรงกลางก่อนไหลตามช่องให้พาฟลูเชนโก้วิ่งสอดตวัดยิงด้วยซ้ายติดบล็อกคาวาเลียรี่ที่พุ่งออกมาเร็ว
เกมนี้ทำท่าจะจบง่ายๆเมื่อก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 3 นาทีโอฮาร่ากระชากขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดย้อยเข้าเขตโทษเป็นเฟรเซอร์วิ่งตีคู่มากับดอสเซน่าแต่คาวาเลียรี่ก็วิ่งออกมาแต่ผิดจังหวะเลยชนกับแบ็คอิตาเลี่ยนจนกลิ้งล้มด้วยกันทั้งคู่ปล่อยให้เฟรเซอร์แปโล่งๆเข้าไปไม่มีเหลือ เจ้าถิ่นนำสบาย 2-0
หงส์แดงจบเห่ตั้งแต่ยังไม่หมดครึ่งแรกหลังนาทีสุดท้ายเมื่อแนวรับวันนี้อ่อนในการรับมือลูกเปิดจากด้านข้างก็เหวออีกเมื่อปล่อยให้เลนนอนเปิดจากกรอบโทษฝั่งซ้ายแต่กองหลังยืนอยู่ตรงนั้น 2 คนกลับไม่ยอมขึ้นปล่อยให้แคมป์เบลล์โขกตรงด้านหลังเสาสองคนเดียวไม่มีเหลือ สเปอร์สนำในครึ่งแรก 3-0 โดยยิง 3 ลูกใน 7 นาที
ครึ่งหลังเริ่มเกมมาแค่ 4 นาทีทีมเยือนตีไข่แตกจากลูกเตะมุมของบาเบิ้ลบอลมาเข้าหัวเปลสซิสที่ไม่ได้เทคตัวอะไรมากแต่ฮันตันไม่ยอมขึ้นแถมโกเมสทำท่ายึกยัก บอลเลยย้อนตัวกระเด้งเข้าไปง่ายๆ สกอร์ไล่มาเป็น 3-1 แล้ว
เกมรับของลิเวอร์พูลยังหมูไม่เลิกทั้งๆที่เป็นจังหวะตั้งเกมขึ้นมาเปลสซิสเงอะงะปล่อยให้โซโกร่าเข้ามาแย่งก่อนกระชากเข้าเขตโทษแล้วตบบอลมาเสาสองให้พาฟลูเชนโก้ยิงง่ายๆเข้าไป จังหวะนี้ดอสเซน่าที่เล่นแย่มากตามไม่ทันอีกแล้ว
ราฟาไม่รอช้าเปลี่ยนเอาตอร์เรสออกมาพักดีกว่า เล่นแบบนี้ยังไงก็แพ้เพราะแนวรับพร้อมโดนตลอดส่วนแดนกลางทำเกมไม่ขึ้น เรียกว่าตอนนี้ทำยังไงถึงจะแพ้น้อยมากกว่าเนื่องจากสเปอร์สกำลังสนุกกับการนวดทีมเยือนจริงๆ
ลิเวอร์พูลที่เจอนวดๆอยู่นั้นมาได้ประตูหน้าตาเฉยในนาที 64 เมื่อลูกเตะมุมของบาเบิ้ลเป็นฮูเปียโขกตัดหน้าโกเมสที่วันนี้เหวอเละชกบอลช้ากว่าเลยตุงตาข่ายเผาขน 6 หลาเข้าไป ทีมเยือนไล่มาห่างๆ 4-2
อีก 3 นาทีลิเวอร์พูลต่อบอลสวยครั้งแรกในเกมนี้หลังบาเบิ้ลให้บอลอินซิวหน้าเขตโทษก่อนเจ้าหนูดาวรุ่งแปะทำชิ่งให้เอลซาร์ยิงไกลนอกเขตแต่บอลไปตรงตัวโกเมสที่นั่งหนีบรับบอลเอาไว้พอดี
ตอนนี้เกมกลายเป็นของลิเวอร์พูลมากขึ้นหลังชาบี้ อลอนโซ่ลงมาแต่นาที 69 เกมหยุดไปหลายนาทีหลังเดเก้นทะลุหลุดเข้ากรอบโทษแต่โกเมสพุ่งออกมาคว้าแต่หน้าเจอสตั๊ดเข้าไปถึงกับสลบ แฟนหงส์ภาวนาอย่าให้เป็นอะไรมากส่วนแฟนไก่อยากให้เจ็บยาวไปเลยแต่ดูจากภาพแล้วไม่อยากแซวเลยเพราะแกท่าทางเจ็บหนัก ตาค้างเหมือนคนเอ๋อน่ากลัวมาก
นาที 80 พาฟลูเชนโก้หลุดทะลุเข้าเขตโทษก่อนยิงมุมแคบแต่ติดคาวาเลียรี่ก่อนฮูเปียมาช่วยควักออกไปได้
เกมช่วงท้ายทั้งคู่พยายามเปิดแลกกันเพราะว่าลิเวอร์พูลก็ลุยแหลกทำให้แนวรับค่อนข้างเปิดแต่ความแน่นอนไม่มีทำให้จบเกมสเปอร์สซึ่งตุนเอาไว้เยอะชนะ 4-2 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายคาร์ลิ่ง คัพอย่างสมศักดิ์ศรีกันไป
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
สเปอร์ส : เฮเรลโญ่ โกเมส(เซซาร์ น.74),อลัน ฮัตตัน,ไมเคิ่ล ดอว์สัน,เวดราน ชอร์ลูก้า,แกเรธ เบล,อารอน เลนนอน,ดิดิเยร์ โซโกร่า,ทอม ฮัดเดิลสตัน,เจมี่ โอฮาร่า,โรมัน พาฟลูเชนโก้
(บัวเต็ง น.90),เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์
(เบนท์ น.90) ลิเวอร์พูล : ดิเอโก้ คาวาเลียรี่,อันเดรีย ดอสเซน่า,ซามี่ ฮูเปีย,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,ฟิลิปป์ เดเก้น(ดาร์บี้ น.84),ไรอัน บาเบิ้ล
,ลูคัส ไลว่า
,เดวิด เอ็นก็อก,ดาเมี่ยน เปลสซิส
(อลอนโซ่ น.66),เฟร์นานโด ตอร์เรส
(อินซัว น.56),นาบิล เอล ซาร์
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday