ฟอร์มยังไม่คงเส้นคงวาสำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้เมื่อขนขุนพลเลี่ยมทองบุกมาพ่ายวีแกนที่แม้พกเงินมาไม่เยอะแต่ได้ลูกหนักเข้าสู้ด้วยสกอร์ 2-1 ส่งผลทำให้ลูกทีมมาร์ค ฮิวจส์ยังรั้งอันดับ 8 ส่วนวีแกนแซงแมนฯยูฯขึ้นมาอยู่ที่ 9 แล้ว
วีแกน 2-1 แมนฯซิตี้
ประตู : 1-0 วาเลนเซีย น.16,1-1 กอมปานีย์ น.22,2-1 ซากี้ น.34 (จุดโทษ)
แม้ว่าจะเป็นทีมเยือนแต่ตัวผู้เล่นเรือใบค่อนข้างเหนือกว่าจึงเป็นฝ่ายครองเกมตั้งแต่ช่วงต้นแต่ยังหาช่องเข้าทำลำบากเพราะวีแกนเล่นเกมรับดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
วีแกนเริ่มคลืบคลานบุกกินแดนมาเรื่อยๆด้วยการใช้ความหนาใหญ่ของเฮสกีย์และซากี้คอยเป็นกันชนเก็บบอล
นาทีที่ 14 เจ้าถิ่นเกือบเฮเมื่อจังหวะเตะมุมบอลล้นไปถึง หน้าเขตโทษทีไม่รู้ทำยังไงเลยลากตัดเข้าในแล้วซัดด้วยซ้ายบอลติดไซด์โค้งเฉี่ยวสามเหลี่ยมบนออกหลังอย่างน่าหวาดเสียว
แต่อีกนาทีเดียวต่อมาวีแกนมาขึ้นหน้าสุดช็อกเมื่อลูกที่กองหลังเรือใบเคลียร์ลูกเปิดฟรีคิกจากริมเส้นฝั่งซ้ายออกนอกกรอบมาเข้าทางวาเลนเซียซึ่งระยะค่อนข้างไกล 25 หลาส่วนปีกรถด่วนก็เหมือนจะเงอะงะช้าเกินไปจนฝูงทีมเยือนวิ่งกรูเข้ามาแต่ก็ยังอุตสาห์ตะบันยิงบอลพุ่งแหวกเสียบหน้าต่างเข้าไปอย่างไม่น่าเชื่อโดยที่โจ ฮาร์ทไม่ได้พุ่งหรือทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
แต่นาที 17 ซิตี้น่าจะตีเสมอได้สุดๆเมือไอร์แลนด์แทงบอลทะลุให้โรบินโญ่วิ่งมายิงบนเส้นกรอบโทษบอลเฉี่ยวเสาออกไปน่าเข้าสุดๆ
อย่างไรก็ตามนาที 22 สกอร์มาเสมอกัน 1-1 จากจังหวะผิดพลาดของเอเมอร์สัน บอยซ์ที่สกัดลูกเปิดฟรีคิกริมเส้นของเอลาโน่ที่เสาแรกไม่ดีบอลเลยไปชนเข่ากอมปานีระยะเผาขนเข้าไปง่ายๆ
เกมที่เริ่มกลับมาสูสีกลายเป็นว่าในนาที 33 การ์ริโด้มาเสียรู้เมื่อไปเข้าช้าสะกิดพาลาซิออสที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงจนล้มลงแบบแต๋งแตกมีกางแขนแอ่นตัวลอยหลับตาพริ้มในเขตโทษกรรมการให้จุดโทษทันทีและซากี้รับอาสายิงไม่มีพลาดและทำให้เขานำเดี่ยวดาวซัลโวยิงไปแล้ว 5 ประตู จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือเรือใบพยายามโหมจะทวงคืนอีกรอบแต่วีแกนใช้ลูกขยันยันอยู่หมด 45 นาทีแรกวีแกนนำอยู่ 2-1
ครึ่งหลังวีแกนยังมาแบบเดิมคือเน้นตั้งรับและรอสวนกลับโดยใช้เฮสกีย์,ซากี้,วาเลนเซียและปาลาซิออสเป็นตัวนำทัพทำให้ซิตี้เริ่มเจอกับปัญหาการเข้าทำมากขึ้นเรื่อยๆ
นาที 61 เอลาโน่เก็บตกบอลที่เจ้าถิ่นเคลียร์มาเข้าทางหน้าเขตโทษเลยสับไกอัดเปรี้ยงเดียวสไตล์แซมบ้าบอลพุ่งแหกเสาออกไปนิดเดียว
ทีมเยือนยังตั้งหน้าตั้งตาทำเกมรุกอย่างต่อเนื่องนาที 66 บอลยาวจากตรงกลางเข้ากรอบเขตโทษเป็นไอร์แลนด์ที่วิ่งทำท่าจะถึงก่อนแต่เจอกองหลังตัดหน้าบอลเกือบเข้าประตูตัวเอง
นาที 73 เรือใบยังโหมบุกหนักไม่เลิกและจากลูกชุลมุนในเขตโทษเป็นไรท์ ฟิลลิปส์อัดเต็มข้อแต่เคิร์กแลนด์พุ่งปัดออกหลังไปได้
ตอนนี้เกมมันสุดๆเพราะเปิดเกมแรกกันมันหยดทำให้ลูกวางยาวของทีมเยือนเข้ากรอบเกือบเป็นประตูเมื่อกองหลังปล่อยให้เชด อีแวนส์ตัวสำรองแหวกไปแหย่บอลระยะเผาขนยังดีที่เคิร์กแลนด์ออกมาเร็วเลยบล็อกทันก่อนที่กองหลังจะช่วยกันเตะทิ้งทัน
ช่วงท้ายเกมวีแกนเล่นโหดมากเรียกว่าลูกเต้าเหล่าใครไม่สนใจหวดไม่เลี้ยงทั้งบอลทั้งคนทำให้โรบินโญ่หรือเอลาโน่กระโดดเป็นกุ้งกันถ้วนหน้า
ช่วงเวลาที่เหลือวีแกนช่วยกันวิ่งไล่และเสียบหนักเกือบทุกจังหวะทำให้เรือใบที่เน้นการต่อบอลต้องยอมสิโราบพ่ายแพ้นัดที่สามของฤดูกาลส่วนเดอะลาติกส์ชนะนัดที่สองขยับจากอันดับ 16 แซงหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นมาอยู่ถึงที่ 9 เลยทีเดียว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
วีแกน : คริส เคิร์กแลนด์,มาริโอ เมลช็อต ,ไตตัส บรัมเบิ้ล,เอ็มเมอร์สัน บอยซ์,เมย์เนอร์ ฟิกูเอรัว,อันโตนิโอ วาเลนเซีย ,วิลสัน ปาลาซิออส,ลี คัทเทอร์โมล(บราว์น น.53 ),โอลิวิเยร์ กาโป,เอมิล เฮสกีย์,อาเมอร์ ซากี้
แมนฯซิตี้ : โจ ฮาร์ท,พาโบล ซาบาเลเต้,ไมคาห์ ริชาร์ดส์ ,ริชาร์ด ดันน์,ฆาเบียร์ การ์ริโด้ ,แวงซ็องต์ กองปานีย์ (เฟอร์นานเดส น.90),เอลาโน่ (สเตอร์ริดจ์ น.84),ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์,สตีเฟ่น ไอร์แลนด์,โรบินโญ่ ,โจ(อีแวนส์ น.74)
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee