โจ โคลยิงเรียกค่าตัวหลังสวมบทฮีโร่ซัดประตูตีเสมอให้อังกฤษไม่แพ้คาบ้านในนาทีสุดท้ายรักษาหน้าจอห์น เทอร์รี่กัปตันทีมคนใหม่โดยสาธารณรัฐเช็กเกมนี้มาดุยิงขึ้นนำสองครั้งสองคราแต่ลงท้ายเสมอ 2-2
บรรยายเกมโดยลูกแม่กิ่ง
อังกฤษ 2-2 เช็ก
สนาม : เวมบลีย์
ประตู : 0-1 มิลาน บารอส น.22 , 1-1 เวส บราวน์ น.45, 1-2 มาเร็ค แยนคูลอฟสกี้ น.48, 2-2 โจ โคล น.90
ผู้ชม : 69,738 คน
อังกฤษ ลงทำการอุ่นเครื่องครั้งสำคัญก่อนหน้าจะถึงเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในเดือนหน้า ซึ่งเกมนี้ทางด้านฟาบิโอ คาเปลโล่ ส่งผู้เล่นชุดใหญ่เต็มสูบโดยในแดนหน้าให้เจอร์เมน เดโฟ ลงคู่กับเวย์น รูนี่ย์ ขณะที่แนวรับจอห์น เทอร์รี่ สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงบัญชาอย่างเป็นทางการด้วย
ด้านเช็ก เกมนี้ทางด้านโค้ชใหม่ ปีเตอร์ ราดา ซึ่งจะฉลองวันเกิดครบรอบอายุ 50 ปีด้วย ก็ใส่ผู้เล่นชุดใหญ่มาด้วยเช่นกัน แม้จะขาดโทมัส โรซิคกี้ ที่ยังไม่ฟื้นตัวก็ตาม แต่ในแนวรุกยังมีมิลาน บารอส ค้ำอยู่
เกมออกสตาร์ทมาสมกับเป็นเกมอุ่นเครื่อง เมื่อรูปเกมค่อนข้างที่จะสูสีไม่ได้มีใครเหนือกว่าใครอย่างชัดเจน แม้ว่าทางเช็กจะดูวูบวาบมากกว่าตามประสาบอลยุโรปตะวันออกก็ตาม
ถึงนาทีที่ 15 อังกฤษ ก็โดนทดสอบครั้งแรกของเกม เมื่อบารอส ได้บอลในเขตโทษก่อนที่จะตวัดยิงมุมแคบให้เจมส์ ต้องออกแรงเซฟครั้งแรก ซึ่งแม้จะปัดไม่พ้นแต่เวส บราวน์ ยังตามมาช่วยเคลียร์ออกไปได้ทันเวลา
แนวรับอังกฤษดูจะเริ่มมีปัญหากับความสามารถเฉพาะตัวของบารอส และถึงนาทีที่ 22 ก็พลาดเต็มๆ โดยเฉพาะเทอร์รี่ ที่ประกบห่างทำให้อดีตกองหน้าลิเวอร์พูลพลิกบอลได้ในเขตโทษก่อนจะสับไกด้วยขวาลูกไปแฉลบขาแอชลี่ย์ โคล เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป ทำให้เช็กออกนำก่อน 1-0
หลังจากนั้นอังกฤษพยายามจะรวบรวมเกมตัวเองกลับมา ซึ่งลูกทีมของคาเปลโล่ก็ค่อยๆทำได้ดีขึ้นในจังหวะการดันเกมขึ้นมา โดยเฉพาะเจอร์ราร์ด ที่ยืนอยู่หลังกองหน้าคอยช่วยแจกจ่ายบอลให้เดโฟ ที่ใช้ความเร็วหาพื้นที่ว่างได้ดี
อังกฤษบดหนักในช่วง 15 นาทีสุดท้าย แต่กว่าจะมาได้ประตูตีเสมอก็ก่อนหมดครึ่งแรกไม่กี่อึดใจและเป็นลูกเซ็ตเพลย์ที่ได้จากเดวิด เบ็คแฮมอีกครั้ง เมื่ออดีตกัปตันเปิดเตะมุมเข้ามาให้บราวน์ เทคตัวโขกเข้าไปให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1
แต่ครึ่งหลังกลับมาเล่นกันไม่ทันไร เช็ก ก็มาฉวยโอกาสหนีห่างเป็น 2-1 อีกครั้ง เมื่อได้ฟรีคิกในระยะอันตรายและเป็นมาเร็ค แยนคูลอฟสกี้ ที่รับอาสาสังหารเข้าไปอย่างสุดมัน
จากนั้นทั้งสองทีมก็เริ่มทยอยเปลี่ยนตัวสำคัญๆออกมาพักและส่งตัวสำรองลงไปแทน ซึ่งทำให้เกมของอังกฤษขาดตอนไปด้วย และยังเกือบเสียประตูที่ 3 อีกเมื่อเฮสกีย์ ที่เพิ่งลงสนามมาไม่นานเกิดพลาดทำให้เช็กสวนกลับ และเป็นสเวอร์คอส กองหน้าสำรองเช็กที่โชว์สปีดสุดเทพวิ่งจากแดนตัวเองสวนขึ้นไปในจังหวะที่แนวรับอังกฤษชะงักกันหมดแล้ว ก่อนจะจิ้มบอลหลบเจมส์ที่พยายามออกมาตัดบอลแต่ก็ไม่ทัน โชคดีของทีมสิงโตที่มุมมันแคบและสเวอร์คอสก็ขาอ่อนจากการวิ่งระยะไกล ทำให้ยิงหลุดกรอบไปเอง
เกมดำเนินไปแบบไม่ได้มีลุ้นอะไรมากนัก แม้ว่าทางอังกฤษจะพยายามจะตีเสมอให้ได้ก็ตาม จนทำท่ว่าเกมจะจบลงด้วยชัยชนะของเช็ก แต่แล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บทีม สิงโตคำราม ก็มาตามตีเสมอจนได้จากลูกเตะมุมอีกครั้ง คราวนี้เบนท์ลี่ย์ เปิดเข้ามากลางประตูลูกขลุกขลิกไปมาเข้าทางโจ โคล แปจ่อๆลูกไปแฉลบเช็กเข้าประตูไป ทำให้เกมจบลงด้วยการเสมอกัน 2-2
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อังกฤษ : เดวิด เจมส์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินันด์ (โจนาธาน วู้ดเกต น.57) , จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, เดวิด เบ็คแฮม (เจอร์เมน จีนัส น.79) , แกเร็ธ แบร์รี่, แฟรงค์ แลมพาร์ด (เดวิด เบนท์ลี่ย์ น.79) , สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด (โจ โคล น.57) , เจอร์เมน เดโฟ (เอมิล เฮสกีย์ น.46) , เวย์น รูนี่ย์ (สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง น.69)
ใบเหลือง : แบร์รี่ น.12
เช็ก : ปีเตอร์ เช็ก, ซเดเน็ค กรีเกร่า (ซเดเน็ค พอสเพ็ค น.46) , โทมัส อูฟาลูซี่, ดาวิด โรเซนาล, มาเร็ค แยนคูลอฟสกี้, สตานิสลาฟ วลาเซ็ค (ดาวิด ยาโรลิม น.46) , ราโดสลาฟ โควัค (แยน ไรนอช น.75) , แยน โพลัค, ยาโรสลาฟ พลาซิล, ราเด็ค เชิร์ล (มิชาล คาดเลช น.75) , มิลาน บารอส (วาคลาฟ สเวอร์คอส น.46)
ใบเหลือง : -
ผู้ตัดสิน : เทอร์เย่ เฮาเก้ (นอร์เวย์)
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee