พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ
และนายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บจก.โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวการเป็นผู้สนับสนุนหลักนักกีฬาทีมชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 29 ที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยทางโตโยต้าจะร่วมอัดฉีดให้กับนักกีฬา
ที่ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน “ปักกิ่งเกมส์” ดังต่อไปนี้ เหรียญทอง จะได้รับรถกระบะไฮลักซ์ วีโก้ รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 4 ประตู มูลค่าประมาณ 768,000 บาท เหรียญเงิน จะได้รับรถกระบะไฮลักซ์ วีโก้ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง 2 ประตู มูลค่าประมาณ 677,000 บาท และเหรียญทองแดง จะได้รับรถกระบะไฮลักซ์วีโก้ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ 2 ประตู ราคา 595,000 บาท นอกจากนี้ยังจะได้มอบรถตู้คอมมิวเตอร์ 1 คัน ให้แก่สมาคมกีฬาที่มีนักกีฬาได้รับเหรียญทอง มูลค่า 1,100,000 บาทด้วย
ขณะที่ พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า
ตอนนี้เงินอัดฉีดของนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ซึ่งหากดูเฉพาะเหรียญทอง ก็มีเข้ามารวมๆ เป็นเงินสด 13,000,000 บาทแล้ว แบ่งเป็น จากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ 10,000,000 บาท (เงินสด 5,000,000 บาท และเงินเดือน 5,000,000 บาท ซึ่งแบ่งจ่ายระยะ 20 ปี) แมคโดนัลด์ 1,000,000 บาท เอไอเอส 1,000,000 บาท โอสถสภาเอ็ม-150 อีก 1,000,000 บาท รวมทั้งจะมีเงินจากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ให้เป็นรายเดือนอีก เหรียญทอง 12,000 บาท เหรียญเงิน 10,000 บาท และเหรียญทองแดง 8,000 บาท
พล.ต.จารึกกล่าวต่อว่า
เงินจำนวนดังกล่าว ถือเป็นจำนวนที่สูง ซึ่งหากนักกีฬาคว้าเหรียญรางวัลมาได้ ก็สามารถพลิกชีวิตได้ทันที แต่สิ่งที่อยากเตือน และเป็นบทเรียนตลอดมา คือการใช้จ่ายหลังจากนั้น ซึ่งเราพยายามช่วยควบคุมนักกีฬา โดยการแบ่งจ่ายรายเดือน เกรงจะใช้อย่างฟุ่มเฟือย จุดนี้ต้องระวังอย่างมาก นักกีฬาทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่า ในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ อย่าว่าแต่เงินล้านเลย เงินแสนยังหายาก กับนักกีฬาไทยบางคน จึงอาจเป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่ได้จับเงินล้าน
“สำหรับนักกีฬาไทยเมื่อได้เหรียญและได้เงินมา ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง อย่าประมาท ต้องทำตัวให้ติดดินเหมือนเดิม โดยสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ การพนัน และผู้หญิง เนื่องจากฮีโร่โอลิมปิกไทยมักสูญเงินไปกับเรื่องดังกล่าว” พล.ต.จารึกกล่าว