ถึงฏีกา!กระทิงยิงเป้าโค่นเลี่ยน

ทีมชาติสเปนทำลายอาถรรพ์

วันที่ 22 อย่างฉิวเฉียดหลังทำอะไร"แชมป์โลก"อิตาลีที่หนังเหนียวสุดๆยันเสมอ 0-0 ก่อนมาเอาชนะจากการดวลจุดโทษ 4-2 เข้าไปล้างตากับรัสเซียในรอบรองชนะเลิศวันพฤหัสนี้อีกครั้ง

บรรยายเกมโดยดา ขาเดฟ

สเปน 0-0 อิตาลี

(ต่อเวลาครบ 120 นาทีเสมอ 0-0 สเปนชนะจุดโทษ 4-2)

สนาม :แอร์นส์ ฮัปเปิล สเตเดี้ยม,เวียนนา

ประตู :-

เริ่มเกม ทั้ง2 ทีมเล่นกันเกร็งๆ ต้องรอถึงนาทีที่ 8 โอกาสลุ้นประตูครั้งแรกจึงเกิดขึ้นซึ่งเป็นของฝั่งสเปน ซิลบายิงนอกเขตโทษบอลไปแฉลบเด รอสซี่ แต่บุฟฟ่อนยังรับกินสบายๆ

เมื่อถึงนาที 19 อิตาลีมีลุ้นบ้าง อัมโบรซินี่เปิดบอลจากด้านซ้าย บอลข้ามหัวปูโยลมาและแปร์ร็อตต้าก็สอดขึ้นโขกกดลงพื้นจากระยะ12หลา แต่คาซิญาสสมาธิดีเยี่ยมรับติดมือได้เช่นกัน

สเปนได้เสียวกันอีกครั้ง เมื่อบีญ่ากระหน่ำฟรีคิกเรียด27หลาเต็มกำลัง แต่บุฟฟ่อนยังดักทาง ล้มตัวเซฟได้ไม่พลาด ในนาที 25

เริ่มครึ่งหลังได้ 5 นาที อิตาลีเกือบโดนลงโทษ
 
เมื่อปานุชชี่สกัดบอลไปติดเด รอสซี่ บอลกระดอนเข้าทางแข้งซิลบาซึ่งได้ยิงเต็มแข้งในเขตโทษ ทว่าคิเอลลินี่ยังตามมาสไลด์บล็อกไว้ได้

นาที 61 อิตาลีได้เสียวสุดๆ เมื่อเด รอสซี่ตักบอลเข้าเขตโทษให้คาโมนาเรซี่โหม่งชงให้โทนี่กระดกยิง ทว่าคาซิญาสผวามาบล็อกได้ แต่บอลไม่พ้นอันตราย โทนี่ได้โหม่งต่ออีกครั้ง บอลลอยไปเข้าทางคาโมราเนซี่เปรี้ยง 6 หลา ทว่าคาซิญาสโชว์ซูเปอร์เซฟ ใช้เท้าสกัดจากปากประตูได้อย่างเหลือเชื่อ

นาที 81 เซนน่าตะบันจากระยะไกล30หลาเต็มตีน บุฟฟ่อนถึงกับซองแตก บอลหมุนกลิ้งไปชนเสา แต่บุฟฟ่อนกระโจนมารับอีกครั้งนึงได้ จบ 90 นาทียังเจาะกันไม่เข้า ต้องไปวัดกันอีกยกในช่วงต่อเวลาพิเศษ

สตาร์ตช่วงต่อเวลาพิเศษ กระทิงดุได้ขู่ก่อน เมื่อบีญ่าเปิดจากทางซ้ายมาให้กีซ่าแปะบอลย้อนใส่พานให้ฟาเบรกาสสับไกเน้นๆ แต่บอลไปติดปานุชชี่ จากนั้นบอลกระดอนมาเข้าทางปืนซิลบาซัดสวนจากแถวสองทันที ทว่าบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 95 อัซซูรี่สวนกลับทันควัน ซัมบร็อตต้าบอมบ์จากด้านขวา ดิ นาตาเล่ทะยานโขกเต็มกบาลระยะ 12 หลา แต่คาซิญาสบินปัดข้ามคานไปได้

สเปนตั้งเกมจนทะลวงเข้าใกล้โซนอันตรายของอิตาลีได้อีกครั้ง ซิลบาแทงบอลให้บีญ่าหลุดเข้าล่อเป้ามุมแคบด้านขวาระยะ10 หลา แต่ บุฟฟ่อนขยับออกมาเซฟไว้ได้ นาทีที่ 110 จากนั้นก็ยังเจาะกันไม่เข้า ต้องพิพากษาด้วยการดวลจุดโทษ

ช่วงดวลจุดโทษ สเปนพกดวงมาเยอะกว่าเอาชนะไป 4-2 โดยที่เชสก์ ฟาเบรกาสเป็นคนยิงคนสุดท้ายเข้าไปตุงตาข่าย หลังจากที่ฝั่งอิตาลี ทั้ง เด รอสซี่และดิ นาตาเล่ยิงพลาด สเปนเข้ารอบรองฯไปชนกับรัสเซียคู่รักคู่แค้นจากรอบแบ่งกลุ่มและยังเป็นการปลดล็อกทำลายอาถรรพ์ 22 มิถุนายนหลังก่อนหน้านี้ต้องตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในการเมเจอร์ในวันที่ 22 มิย.ถึงสามครั้งสามคราเลยทีเดียว

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

สเปน : อิเคร์ คาซิญาส 8.5*,เซร์คิโอ รามอส 7.5,คาร์เลส ปูโยล 7,คาร์ลอส มาร์เชน่า 6.5,โจน คัปเดบีล่า 6,อันเดรส อินิเอสต้า 6(ซานติ คาซอร์ล่า น.60,6),มาร์กอส เซนน่า 6.5,ชาบี้ เอร์นันเดซ 6(เชสก์ ฟาเบรกาส น.60,7),ดาวิด ซิลบา 8,ดาวิด บีญ่า 6.5,เฟอร์นานโด ตอร์เรส 5.5(ดาเนี่ยล กีซ่า น.85,6.5)

ใบเหลือง :อันเดรส อินิเอสต้า น.12,ดาวิด บีญ่า น.72,ซานติ คาซอร์ล่า น.113

อิตาลี :จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน 6.5,จิอันลูก้า ซัมบร็อตต้า 7,คริสเตียน ปานุชชี่ 7,จอร์จิโอ คิเอลลินี่ 8,ฟาบิโอ กรอสโซ่ 6.5,อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ 4(อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ น.108),ดานิเอเล่ เด รอสซี่,มัสซิโม อัมโบรซินี่ 6,ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า 5(เมาโร คาโมราเนซี่ น.58,6.5),ลูก้า โทนี่ 3,อันโตนิโอ คาสซาโน่ 5.5(อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ น.75,5.5)

ใบเหลือง :มัสซิโม อัมโบรซินี่ น.31

ผู้ตัดสิน : เฮอร์เบิร์ต ฟานเดล (เยอรมัน)

รายละเอียดการยิงจุดโทษ

1-0 บีญ่า (เข้า)

1-1 กรอสโซ่ (เข้า)

2-1 คาซอร์ล่า (เข้า)

2-1 เด รอสซี่ (ไม่เข้า)

3-1 เซนน่า (เข้า)

3-2 คาโมราเนซี่ (เข้า)

3-2 กีซ่า (ไม่เข้า)

3-2 ดิ นาตาเล่ (ไม่เข้า)

4-2 ฟาเบรกัส (เข้า)