ดิด้า นายทวารมิลาน ขอก้าวใหญ่ในถ้วยยุโรปและบอลโลก

"ผมอยากลบล้างบางสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน" เนลสัน ดิด้า



หากจะย้อนถึงความสำเร็จของ เอซี มิลาน ในช่วงไม่กี่ขวบปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี หรือที่เรียกว่า สคูเด็ตโต้ และ แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แน่นอนว่า เนลสัน ดิด้า ย่อมเป็นส่วนสำคัญยิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

ด้วยการที่เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ และมีฝีไม้ลายมือที่ไม่เป็นรองใคร นั่นทำให้นักเตะรอสโซเนรี่ทุกคน โดยเฉพาะในแนวรับ อุ่นใจขึ้นเมื่อมี นายทวารวัย 32 ปี อยู่เฝ้าเสาหน้าปากประตู เพราะเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่คู่แข่งจะสามารถส่งลูกบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้

ไม่ว่าบอลจะมาทิศทางใด หรือมาในลักษณะไหน ดิด้า แทบจะสามารถปัดป้องเอาไว้ได้ทั้งหมด แต่น่าแปลกที่แม้จะโชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมเพียงใด เรามักจะเห็นใบหน้าอันเรียบเฉยของเจ้าตัวที่ดูสงบนิ่งอยู่ตลอดเวลา

ผมประสบความสำเร็จอยู่เสมอด้วยการควบคุมความตื่นเต้นเอาไว้ นั่นรวมถึงในสถานการณ์อันเร่าร้อน และยากมากด้วย ผมเชื่อว่ามันเป็นคุณลักษณะที่สำคัญสำหรับผู้รักษาประตู การอยู่คนเดียว และคอยเก็บความรู้สึกเอาไว้ก็ช่วยด้วยเช่นกัน

แต่บางทีผมควรต้องแสดงออกให้เห็นถึงความรู้สึกสนุก หรือตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อสามารถป้องกันประตูได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้คนส่วนมากปรารถนาให้ผู้รักษาประตูแสดงออกถึงแรงกระตุ้น แต่ผมชอบมากกว่ากับการเก็บความรู้สึกพิเศษสุดไว้ภายใน หลังจากทำผลงานได้เป็นอย่างดี โกล์ทีมชาติบราซิล เริ่มกล่าว


อันที่จริง ดิด้า เกือบจะต้องหมดอนาคตกับ มิลาน เสียแล้ว


เมื่อเขาทำพลาดอย่างมหันต์ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อหลายปีก่อน เมื่อเซฟลูกยิงของ ลี โบวเยอร์ ในช่วงท้ายเกมไม่สำเร็จ ส่งผลให้ทีมแพ้ และจากนั้นเจ้าตัวก็ถูกปล่อยไปให้ทีมอื่นยืมตัว ก่อนจะกลับมาแจ้งเกิดได้อีกครั้งในถิ่น ซาน ซิโร่

ประตูที่เสียไปให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ยังคงอยู่ในความทรงจำของผม เพราะว่าลูกบอลมันหลุดมือเข้าประตูไป หลังจากรับไว้ได้แล้วบนเส้น จังหวะนั้นได้ส่งผลกระทบตามมาอย่างมากมาย

อย่างไรก็ตาม หากจะพูดถึงการป้องกันประตูอันสุดยอดก็มีเช่นกัน แน่นอนว่าต้องมีเกมที่ กลาสโกว์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการเซฟจังหวะยิงของ โรแบร์โต้ บารอนิโอ ที่เวโรน่า รวมถึงลูกโหม่งของ พาเวล เนดเวด ในเกม มิลาน-ยูเวนตุส เมื่อหลายปีก่อน

แต่มีอยู่ 2 ครั้งที่ถือว่ายากมาก อันแรกเป็นลูกยิงของ มิชาเอล บัลลัค ในเกมกับ บาเยิร์น มิวนิค ส่วนอีกลูกเป็นเกมที่ ซาน ซิโร่ เราพบกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มันเป็นไปตามสัญชาตญาณ แต่การเซฟที่ผมตั้งใจมากสุดกลับได้รับการจดจำกันน้อย

ตอนนั้นเป็นเกมอุ่นเครื่องกับ เซอร์เวีย ที่มอนซ่า ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามคนหนึ่งยิงบอลเข้ามา ผมเหินไปปัดได้อย่างไม่น่าเชื่อ อันที่จริงไม่คิดว่าจะป้องกันได้ด้วยซ้ำ มันเป็นจังหวะการเซฟยากมากสุดตั้งแต่เคยเจอมาเลยทีเดียว นายด่านชาวแซมบ้า ร่ายยาว

นอกจากความผิดพลาดส่วนตัวที่ได้กล่าวไปแล้ว หากพูดถึงความผิดหวังของทั้งทีม เกมที่พ่ายให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงชนะเลิศถ้วยสโมสรใบใหญ่สุดของยุโรปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ดูจะไม่สามารถลบล้างออกไปจากใจได้ง่ายๆ และ ดิด้า ก็เป็นประเด็นให้ต้องพูดถึงกับจังหวะที่เสียประตูไป

ความพ่ายแพ้ที่ ลา คอรุนญ่า และอิสตันบูล เป็นเรื่องยากจะยอมรับ แต่ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว สำหรับผมมันเป็นสิ่งสวยงาม และน่ายินดีเสมอในการก้าวลงไปบนสนาม และเล่นด้วยหัวใจในทุกนัด เกมที่เคยเกิดขึ้นนั้นเลวร้าย และเจ็บปวดมาก

หากไม่มีอะไรผิดพลาด ดิด้า จะได้ลงเฝ้าเสาให้กับทีมชาติ บราซิลในการป้องกันแชมป์เวิลด์ คัพ



หากมองถึงการแข่งขันอันเป็นที่น่าจดจำก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะในคัมปิโอนาโต้ นั่นคือทุกเกมที่เป็นดาร์บี้แมตช์ เพราะว่ามันให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากเกมนัดอื่น หากท้ายที่สุดคุณเป็นฝ่ายชนะ 3-2 หลังจากถูกนำไปก่อน 2-0 เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับเรา มันก็เป็นบรรยากาศอันสุดยอดไปเลย

ส่วนในระดับยุโรปนั้น ผมจำได้แม่นกับแมตช์ที่เราเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ไปได้ 2-1 มันเป็นเกมวิเศษสุด เป็นชัยชนะที่สมควรต่อทีมอันยิ่งใหญ่ และในสนามอันยอดเยี่ยม ดาวเตะบราซิเลียน ร่ายยาวอีกครั้ง

ในช่วงกลางปีหน้า หากไม่มีอะไรผิดพลาด ดิด้า จะได้ลงเฝ้าเสาให้กับทีมชาติบราซิลในการป้องกันแชมป์เวิลด์ คัพ ที่ประเทศเยอรมัน พร้อมทั้งไล่ล่าตำแหน่งแชมป์โลกสมัยที่ 6 ให้กับประเทศบ้านเกิด เพราะเขานั้นรู้ดีว่าฟุตบอลโลกมีความหมายมากเพียงใด

ตอน บราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเมื่อปี 2002 ถือเป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกมีความสุขมากสุดในอาชีพค้าแข้งที่ผ่านมาเลย มันไม่ใช่เรื่องง่ายในการจินตนาการสำหรับใครซึ่งไม่เคยผ่านประสบการณ์เหล่านั้น

ทุกคนต่างรู้สึกยินดีกันที่สุดเมื่อตอน คาฟู ชูถ้วยเวิลด์ คัพ เราเป็นเหมือนตัวแทนของชาวบราซิเลียนทั้งหมด และความสุขได้ส่งผ่านไปถึงทุกคน แม้ว่าผมไม่ได้เป็นตัวจริงก็ตาม แน่นอนว่าช่วงเวลาที่ แมนเชสเตอร์ ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน แต่ฟุตบอลโลกเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้

ตอนนี้แชมป์ฟุตบอลโลก 2006 เป็นเป้าหมายสำคัญของเรา ผมอยากจะมีส่วนสำคัญ และลบล้างบางสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อนด้วยการลงเฝ้าเสาเป็นมือ 1 ให้กับทีม ดิด้า กล่าวตบท้าย

แม้จะต้องโดนวิจารณ์บ้างในช่วงนี้จากฟอร์มที่หล่นหายลงไปเล็กน้อย แต่ชื่อของ เนลสัน ดิด้า ไม่อาจจะขาดหายไปจากทีมได้เลย ไม่ว่าจะเป็นทั้ง เอซี มิลาน และทีมชาติบราซิล หากยังหวังที่จะประสบความสำเร็จในอนาคตข้างหน้า

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์