แมนเชสเตอร์ อีฟนิง นิวส์ ตีพิมพ์บทความของ พอล ฮินซ์ แฟนฟุตบอลตัวยงของทีมเรือใบสีฟ้ามานานกว่า 50 ปี โดยโจมตีการเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร ของ พ.ต.ท.ทักษิณ บุคคลที่ฮินซ์มองว่า เป็นคนจากแดนไกล ที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับฟุตบอลอังกฤษ
ของ พ.ต.ต.ทักษิณ ชินวัตร กับการเข้ามาเทคโอเวอร์ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ตระกูลเกลเซอร์ว่า มีความแตกต่างกันอย่างมาก ฮินซ์ กล่าวว่า การเข้ามาของตระกูลเกลเซอร์ ส่งผลดีต่อแมนฯยูฯ และตระกูลเกลเซอร์ ไม่เคยเข้ามาแทรกแซงทีม ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการจัดตัวผู้เล่น และเมื่อเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องการงบประมาณในการทำทีม ตระกูลเกลเซอร์ ก็ไม่เคยขัด
ฮินซ์ ยังกล่าวว่า
ตระกูลเกลเซอร์ เข้ามาบริหารทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยพยายามทำธุรกิจของตนอย่างเงียบๆไม่พยายามทำตัวเป็นข่าว และในที่สุดก็เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า การเข้ามาของตระกูลเกลเซอร์ ส่งผลดีต่อทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขณะที่ แมนฯยูฯ ก็ให้ผลตอบแทนทางธุรกิจแก่ตระกูลเกลเซอร์เช่นกัน
ฮินซ์ ระบุว่า
ในสัญญาของ สเวน โกรัน อิริคส์สัน ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า อิริคส์สัน เป็นผู้ที่มีอำนาจในการจัดทีมและกำหนดนักเตะที่เป็นเป้าหมายที่ต้องการได้ตัวมาร่วมทีม แต่ในความเป็นจริง กลับมิได้เป็นเช่นนั้น ซึ่งไม่ว่ากุนซือคนใหม่ของทีมแมนฯ ซิตีจะเป็นใครก็ตาม ไม่ว่า โชเซ มูรินโญ หรือ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ก็คงจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ต่างจาก อิริคส์สันนัก และคงเป็นเพียงแค่ กุนซือหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น
ฮินซ์ ทิ้งท้ายว่า
พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร น่าจะออกไปจากทีม และกลับไปประเทศไทย และหวังว่าเจ้าของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี คนใหม่ จะเป็นคนที่รู้เรื่องฟุตบอลมากกว่านี้ และหวังว่า สเวน โกรัน อิริคส์สัน จะได้กลับมาคุมทีมอีกเพื่อสานต่องานที่เขาทำค้างไว้ให้สำเร็จ
**อ่านบทความชิ้นนี้โดยละเอียดได้ที่
http://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/manchester_city/s/1048422_hince_thaksin_has_moved_goalposts