ระทึกนัดท้าย!เชลซีบุกตบนิว2-0
พรีเมียร์ลีกต้องหาตัวแชมป์กันในวันสุดท้ายของฤดูกาลอย่างสุดยอดหลังเชลซีซึ่งสะบักสะบอมเอาตัวรอดจากการเสียประตูในครึ่งแรกมายิงปิดเกม 2-0 ในครึ่งหลังจากประตูของบัลลัคและมาลูด้าแตะ 84 แต้มเท่าแมนฯยูไนเต็ดอย่างสุดระทึกขวัญ
บรรยายเกมโดยนาฬิกาทราย
นิวคาสเซิล 0-2 เชลซี
สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค
ประตู : 0-1 มิชาเอล บัลลัค น.60,0-2 ฟลอรองต์ มาลูด้า น.82
ผู้ชม : 52,305 คน
เกมนี้จะเป็นนัดสุดท้ายที่นิวคาสเซิลเล่นในเซนต์เจมส์พาร์ก ในซีซันนี้แล้ว ทำให้เควิน คีแกน ส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด ลงมาเอนเตอร์เทนแฟนบอลอย่างเต็มที่ ตัวหลักทั้งวิดูก้า,โอเว่น และมาร์ตินส์ ลงสนามได้อย่างครบครัน
ในขณะที่ทางเชลซี กลับพักตัวหลักอย่างแฟรงค์ แลมพาร์ด กับโจ โคล อย่างน่าเซอร์ไพรส์ ทั้งๆที่เป็นนัดชี้เป็นชี้ตายของการแย่งแชมป์แท้ๆ อย่างไรก็ตาม โอบี มิเกล กับอเนลก้า ที่ลงเล่นแทน ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร
ออกสตาร์ตเกมขึ้นมา ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกันสักเท่าไหร่ นิวคาสเซิลวางเกมรับ รัดกุม ทำให้เชลซีสามารถโจมตีได้แค่การยิงไกลนอกกรอบเพียงเท่านั้น
ฟลอรองต์ มาลูด้า และนิโคลาส อเนลก้า มีโอกาสซัดจะจะ นอกเขตโทษ แต่ทั้งคู่ก็ยังยิงได้ไม่ดีพอ จึงไม่ผ่านมือสตีฟ ฮาร์เปอร์ทั้งหมด
เข้าสู่นาทีที่ 28 นิวคาสเซิลก็ได้จังหวะหวาดเสียวสุดๆ เมื่อโจอี้ บาร์ตันวางบอลยาวจากกลางสนาม โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ ควบไปเอาบอล แต่ก่อนจะยิงโดนคาร์วัลโญ่แซะได้ ทว่ายังไม่พ้นอันตราย ไมเคิล โอเว่น ปรี่เข้ามายิงสวนทันที บอลผ่านมือปีเตอร์ เช็กไปแล้ว แต่เทอร์รี่ที่ยืนคุมเส้นอยู่เคลียร์ออกไปได้
ในครึ่งแรกโอกาสที่ดีที่สุดของเชลซีเกิดขึ้นในนาทีที่ 36 เมื่อเอสเซียงแทงทะลุให้บัลลัคไปดวลกับฮาร์เปอร์ และบัลลัคก็เลือกยิงเอง บอลเหินข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้น ซึ่งถ้าเขามองให้กว้างในจังหวะนี้จะเห็นทั้งอเนลก้า และดร็อกบา ที่ยืนโล่งๆ เรียกขอบอลอยู่
ตอนนี้เชลซี เริ่มครองเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแผงหลังแม็กไพส์เข้าไปหาจังหวะยิงได้ สุดท้ายจึงจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
ในครึ่งหลังสิงห์ไฮโซ ยังครองเกมได้เด็ดขาดเหมือนเดิม และเกือบจะพังประตูนำได้ในนาทีที่ 53 เมื่อได้คอร์เนอร์ ฟลอรองต์ มาลูด้า เปิดเข้ามากลางประตู เทอร์รี่ ทะยานโขกเน้นๆ บอลกระแทกคานโครมเบ้อเร้อ
อย่างไรก็ตาม อีกเพียงแค่ 7 นาทีหลังจากนั้น เชลซีก็มาขยับสกอร์เป็น 1-0 จนได้ จากจังหวะเซตพีซที่ยอดเยี่ยม ดร็อกบาปั่นฟรีคิก ไปให้บัลลัคโฉบไปขวิดผ่านมือฮาร์เปอร์อย่างสวยงามเหลือเกิน
พอเสียประตูปั๊บ นิวคาสเซิลจึงเปิดหน้าแลกหมัดต่อหมัดทันที และมีโอกาสได้ประตูถึงสองจังหวะซ้อนๆ จากโอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ ที่ยิงเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว กับอีกครั้งเป็นไมเคิล โอเว่น ที่เข้าชาร์จลูกเปิดของเฌเรมี่ไม่โดนแบบเสียวไส้สุดๆ
นอกจากจะโดนบุกหนักแล้ว ตอนนี้เชลซีป่วนหนักไปกว่าเดิมซะอีก เพราะริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนสำคัญ ดันมาเจ็บ จนต้องส่งอเล็กซ์ลงไปเล่นแทน
แต่แล้วเกมที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยดี กลับมาปิดฉากได้อย่างเด็ดขาด ในนาทีที่ 82 นี่เอง เมื่อแฟรงค์ แลมพาร์ด แทงบอลทะลุให้มาลูด้า ยิงสวนตัวฮาร์เปอร์เข้าไปอย่างง่ายดาย ส่งให้ เชลซีนำนิวคาสเซิลไปแล้ว 2-0
ช่วงเวลาที่เหลือเชลซีปิดเกมคว้าชัยถึงเซนต์ เจมส์ พาร์คคว้า 3 แต้มขึ้นไปทาบเท่าแมนฯยูไนเต็ดและต้องตัดสินกันในเกมสุดท้ายของฤดูกาลในวันอาทิตย์นี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม/คะแนนความสามารถ
นิวคาสเซิล : สตีฟ ฮาร์เปอร์ 6,ฮาบิบ เบย์ 6,สตีเว่น เทย์เลอร์ 7,อับดุลลาเย่ ฟาย 7,โจเซ่ เอ็นริเก้ 5(,เฌเรมี่ 6(แดเมียน ดัฟฟ์ น.71,5),นิกกี้ บัตต์ 6,โจอี้ บาร์ตัน 6,มาร์ก วิดูก้า 6(อลัน สมิธ น.46,5),ไมเคิล โอเว่น 6,โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ 8
สำรองไม่ได้ลงสนาม : เคลาดิโอ กาซาป้า,เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก 6,เปาโล แฟร์ไรร่า 6,จอห์น เทอร์รี่ 7,ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ 6(อเล็กซ์ น.79),เวย์น บริดจ์ 6,มิกาเอล เอสเซียง 8,จอห์น โอบี มิเกล 6,มิชาเอล บัลลัค 8*,นิโคลาส อเนลก้า 6(แฟรงค์ แลมพาร์ด น.66,7),ดิดิเยร์ ดร็อกบา 5(อังเดร เชฟเชนโก้ น.86),ฟลอรองต์ มาลูด้า 7
สำรองไม่ได้ลงสนาม : คาร์โล คูดิชินี่,โจ โคล
ผู้ตัดสิน : สตีฟ เบนเนตต์