เพราะโดยส่วนตัวประหลาดใจเป็นอย่างมากที่ "สเวนนิส" จะถูกปลด
เพราะเขาน่าจะนำทีมจบซีซั่นด้วยอันดับ 9 เป็นอย่างน้อย ทั้งที่ฤดูกาลก่อน "เรือใบสีฟ้า" ต้องหนีตกชั้น ก่อนจะจบด้วยอันดับ 14 และแม้เขาจะอยู่ภายใต้การเจ้าของทีมชาวต่างชาติเช่นกัน ทว่า อเลกซานเดอร์ เกย์ดามัค เจ้าของทีมชาวฝรั่งเศส เข้าใจว่าในโลกของฟุตบอลเป็นอย่างไร
"เจ้าของทีมชาวต่างชาติเข้ามาที่นี่ และได้ทำบางสิ่งผิด พวกเขาต้องการจบฤดูกาลด้วย 4 อันดับแรก และจะไม่ยอมเข้าใจว่าทำไมเขาต้องอยู่อันดับ 7 หรือ 8 ซึ่งเช่นเดียวกับ ซิตี้ พวกเขาไม่เข้าใจทั้งที่ผลงานในฤดูกาลนี้ไม่ได้ขี้เหร่อะไร พวกเขาพิสูจน์แล้วว่าทำผลงานได้ดี"
"อะไรเกิดขึ้นกับประเทศนี้ในรอบปีที่ผ่านมา เรามีมหาเศรษฐี 20 คน ที่เข้ามาเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลเล็ก-ใหญ่ แตกต่างกันไป และพวกเขาต่างต้องการเป็นผู้ชนะ แต่พวกเขาไม่สามารถชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้ในโลกของฟุตบอล จริงอยู่ผมก็เป็นหนึ่งในกุนซือที่อยู่ภายใต้เจ้าของทีมชาวต่างชาติ ทว่าผมโชคดี เพราะแม้เขาจะไม่เข้าใจในโลกของฟุตบอลมากนัก แต่เขาเรียนรู้มันและสนุกกับมัน และรู้ว่าสำหรับทีมฟุตบอลขนาดกลางในลีกต้องค่อยเป็นค่อยไป เขาพร้อมจะสนับสนุนและค่อยเป็นค่อยไปกับเรา"
ก่อนหน้านี้ เรดแนปป์ ก็เคยทำงานร่วมกับเจ้าของทีมชาวต่างชาติมาก่อน
ในการคุมทัพ "ปอมปีย์" หนแรก ได้แก่ มิลาน มันดาริช ลูกครึ่งเซอร์เบีย-อเมริกัน ที่แต่งตั้ง เวลิเมียร์ ซาเอช อดีตนักฟุตบอลทีมชาติโครเอเชีย มานั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการทีม และก่อให้เกิดความบาดหมางกับ เรดแนปป์ จนต้องลาออกจากทีมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2004 ทว่า มันดาริช ก็ประสบความล้มเหลวจนเกือบตกชั้นจึงต้องขอลาออกในเดือนกันยายน 2006 ก่อนที่ เกย์ดามัค จะนำตัว เรดแนปป์ กลับมาคุมทีมอีกครั้ง
ขณะที่ หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี เทรนเนอร์ทีมชาติโปรตุเกส เป็นเต็งหนึ่งในสายตาสื่อเมืองผู้ดีที่จะมารับงานคุมแมนฯ ซิตี้ ต่อจาก อีริคส์สัน ทว่า "บิ๊กฟิล" ปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องใดๆ และยังไม่สนใจรับข้อเสนอต่างๆ จนกว่าจะหมดภารกิจคุมทีมชาติโปรตุเกสสู้ศึก "ยูโร 2008" รอบสุดท้ายก่อน
"เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเรื่องดังกล่าว ผู้จัดการส่วนตัวของผมก็ยังอยู่กับผมที่ลิสบอน แต่ผมจะคุยทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงการตัดสินใจต่ออาชีพกุนซือฟุตบอลหลังเสร็จศึกยูโร 2008 นี้เท่านั้น"