โครแอตตกชั้น! สิงโตแซงดับ 2-1 ลิ่วตัดเชือกเนชั่นส์ลีก
หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ sport โครแอตตกชั้น! สิงโตแซงดับ 2-1 ลิ่วตัดเชือกเนชั่นส์ลีก
สิงโตคำรามพลิกสถานการณ์กลับมาแซงชนะพร้อมซิวแชมป์กลุ่ม 4 ของลีก A รวมถึงยังเป็นการเขี่ยตาหมารุกร่วงลงสู่ลีก B อีกด้วย
ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2018-2019 เป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายของกลุ่ม 4 ในลีก A ระหว่าง อังกฤษ เปิดรังเหย้าสนามเวมบลีย์ต้อนรับการมาเยือนของ โครเอเชีย
แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือเจ้าถิ่น เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 โดยใช้สามประสานแนวรุกเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง, แฮร์รี เคน และ มาร์คัส แรชฟอร์ด
ด้านผู้มาเยือนของ ซลัตโก้ ดาลิช วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ด้วยการใช้ อันเต้ เรบิช เล่นหน้าเป้าคอยทำเกมรุกร่วมกับ อังเดรจ์ ครามาริช, นิโกลา วลาซิช และ อิวาน เปริซิช
เกมในช่วง 45 นาทีแรก เป็นฝั่งของอังกฤษที่ครองบอลบุกเข้าใส่ได้เหนือกว่า แต่ยังขาดความเฉียบคมในการจะยิงประตูขึ้นนำ ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันแบบไร้สกอร์อยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลังกลายมาเป็นโครเอเชียที่สามารถพังประตูขึ้นนำได้สำเร็จ ในนาทีที่ 57 จากจังหวะที่ ครามาริช พยายามล็อคหาเหลี่ยมยิงกลางวงล้อมแนวรับอังกฤษ ก่อนจะได้สับไกด้วยขวาไปแฉลบขาของ เอริค ไดเออร์ แล้วบอลย้อยหนีมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ตุงตาข่าย ส่งให้รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 บุกนำ 1-0
เมื่อสกอร์ตกเป็นรอง ทำให้อังกฤษไม่มีทางเลือกต้องโหมบุกหนักเพื่อหวังตีเสมอให้ได้ ก่อนจะมาทำสำเร็จในนาทีที่ 78 จากจังหวะที่ โจ โกเมซ ทุ่มไกลทางทางกราบขวาเข้าไปในเขตโทษ แล้วบอลขลุกขลิกชุลมุนไปเข้าทาง เจสซี ลินการ์ด ตัวสำรองที่ลงมาแทน ฟาเบียน เดลฟ์ ก่อนหน้านั้นแค่ 5 นาที ได้โอกาสแปด้วยซ้ายหน้าปากประตูโล่งๆเข้าไป ทำให้ผลเปลี่ยนมาอยู่ที่ 1-1
จากนั้นช่วงท้ายเกมนาทีที่ 85 สิงโตคำรามมาจัดการพลิกขึ้นนำได้บ้าง จากลูกฟรีคิกทางกราบซ้ายที่ เบน ชิลเวลล์ เปิดเข้ากลางแล้วบอลลึกเลยมาถึง เคน พุ่งแหย่เท้าขวาชาร์จลูกเช็ดโคนเสาเข้าไป ช่วยให้เจ้าบ้านแซงนำ 2-1สุดท้ายไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ก่อนจบเกมเป็นอังกฤษเฉือนชนะหวุดหวิด 2-1
ทำให้บทสรุปในกลุ่ม 4 ของลีก A กลายเป็นที่คว้าแชมป์กลุ่มด้วยการมี 7 คะแนน พร้อมตีตั๋วผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะแข่งขันในช่วงเดือนมิถุนายนปีหน้า
ส่วนสเปนจบอันดับ 2 ด้วยการมี 6 คะแนน ขณะที่โครเอเชียต้องตกชั้นไปเล่นในลีก B เพราะเก็บได้เพียง 4 คะแนน จบอันดับ 3 สุดท้ายของกลุ่ม 4
Cr:::Goal.com/th
เกมในช่วง 45 นาทีแรก เป็นฝั่งของอังกฤษที่ครองบอลบุกเข้าใส่ได้เหนือกว่า แต่ยังขาดความเฉียบคมในการจะยิงประตูขึ้นนำ ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันแบบไร้สกอร์อยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลังกลายมาเป็นโครเอเชียที่สามารถพังประตูขึ้นนำได้สำเร็จ ในนาทีที่ 57 จากจังหวะที่ ครามาริช พยายามล็อคหาเหลี่ยมยิงกลางวงล้อมแนวรับอังกฤษ ก่อนจะได้สับไกด้วยขวาไปแฉลบขาของ เอริค ไดเออร์ แล้วบอลย้อยหนีมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ตุงตาข่าย ส่งให้รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 บุกนำ 1-0
เมื่อสกอร์ตกเป็นรอง ทำให้อังกฤษไม่มีทางเลือกต้องโหมบุกหนักเพื่อหวังตีเสมอให้ได้ ก่อนจะมาทำสำเร็จในนาทีที่ 78 จากจังหวะที่ โจ โกเมซ ทุ่มไกลทางทางกราบขวาเข้าไปในเขตโทษ แล้วบอลขลุกขลิกชุลมุนไปเข้าทาง เจสซี ลินการ์ด ตัวสำรองที่ลงมาแทน ฟาเบียน เดลฟ์ ก่อนหน้านั้นแค่ 5 นาที ได้โอกาสแปด้วยซ้ายหน้าปากประตูโล่งๆเข้าไป ทำให้ผลเปลี่ยนมาอยู่ที่ 1-1
จากนั้นช่วงท้ายเกมนาทีที่ 85 สิงโตคำรามมาจัดการพลิกขึ้นนำได้บ้าง จากลูกฟรีคิกทางกราบซ้ายที่ เบน ชิลเวลล์ เปิดเข้ากลางแล้วบอลลึกเลยมาถึง เคน พุ่งแหย่เท้าขวาชาร์จลูกเช็ดโคนเสาเข้าไป ช่วยให้เจ้าบ้านแซงนำ 2-1สุดท้ายไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ก่อนจบเกมเป็นอังกฤษเฉือนชนะหวุดหวิด 2-1
ทำให้บทสรุปในกลุ่ม 4 ของลีก A กลายเป็นที่คว้าแชมป์กลุ่มด้วยการมี 7 คะแนน พร้อมตีตั๋วผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะแข่งขันในช่วงเดือนมิถุนายนปีหน้า
ส่วนสเปนจบอันดับ 2 ด้วยการมี 6 คะแนน ขณะที่โครเอเชียต้องตกชั้นไปเล่นในลีก B เพราะเก็บได้เพียง 4 คะแนน จบอันดับ 3 สุดท้ายของกลุ่ม 4
Cr:::Goal.com/th
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น