โรมาริโอ หัวหอกสุดเก๋าของวาสโก ดา กาม่า และอดีตขุนพลทีมชาติบราซิล
ซึ่งเพิ่งทำประตูครบ 1,000 ลูก ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 42 ปี หลังจากโลดแล่นในวงการลูกหนังมานาน 23 ปี
โดยเจ้าตัวเปิดเผยถึงสาเหตุของการตัดสินใจในครั้งนี้ว่า
"ถ้าหมายถึงการเล่นอย่างเป็นทางการ ผมจะไม่เล่นอีกต่อไปแล้ว เวลาของผมหมดลงแล้ว ตลอดระยะเวลา 20 กว่าปีที่ผ่านมา ผมสนุกกับการเล่นมาก แต่พูดตามตรงว่าสภาพร่างกายของผมไม่พร้อมที่จะเล่นอีกต่อไปแล้ว ผมไม่ได้เล่นมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน นั่นทำให้น้ำหนักผมเพิ่มมา 3-4 กิโลกรัม และด้วยอายุขนาดนี้ มันเป็นเรื่องยากที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม"
โรมาริโอเกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1966 ที่ริโอ เดอ จาเนโร และเคยออกมายอมรับหลายครั้งว่า
เกลียดการลงสนามฝึกซ้อมเป็นที่สุด เพราะไม่เห็นว่าจะได้ประโยชน์อะไรมากมาย นอกจากทำให้เหนื่อย ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าตัวยังค้นพบว่าการได้ท่องราตรีในคืนก่อนลงสนาม จะทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ายิ่งกว่าปกติอีกด้วย และก็เพราะการเที่ยวกลางคืนนี่เอง ที่ทำให้ในปี 1999 โรมาริโอ เคยถูกสโมสรฟลาเมงโก้ไล่ออกจากทีมมาแล้ว เพราะแอบหนีเที่ยวทั้งที่สโมสรเพิ่งพ่ายในเกมสำคัญ ที่ส่งผลต่อการลุ้นแชมป์
ตลอดชีวิตการค้าแข้งโรมาริโอติดทีมชาติบราซิลมาแล้วทั้งสิ้น 73 นัด ยิงไป 56 ประตู เป็นหนึ่งในทีมชุดคว้าแชมป์โลกปี 1994 ที่สหรัฐ และยังได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าประจำปีเดียวกันอีกด้วย โรมาริโอผ่านการเล่นให้กับสโมสรดังๆ มาแล้วหลายทีม ไม่ว่าจะเป็น พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, บาร์เซโลน่า, บาเลนเซีย, ฟลาเมงโก้, ฟลูมิเนเซ่, ซาอัดของกาตาร์ ไมอามี่ เอฟซี ของสหรัฐและอาดิเลด ของออสเตรเลีย
โรมาริโอได้ลงสนามครั้งล่าสุดให้กับสโมสรวาสโก ดา กาม่า ต้นสังกัดในเดือนพฤศจิกายนในฐานะตัวสำรอง ก่อนจะถูกแบนจากการแข่งขันในเดือนธันวาคม เป็นเวลา 120 วัน หรือ 4 เดือน หลังถูกตรวจพบว่ามีสารต้องห้าม "ฟิแนสเทอไรด์" ในกระแสเลือด และการยื่นอุทธรณ์ขอลดโทษถูกปฏิเสธ แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าใช้สารดังกล่าวเพื่อลดอาการผมร่วงก็ตาม ส่งผลให้เจ้าตัวตัดสินใจแขวนสตั๊ด
ปิดฉากฉายา "หนึ่งในสุดยอดนักเตะที่ขาดระเบียบวินัย" ลงในที่สุด