ชีวิต โปรเม กว่าจะมีวันนี้ พ่อขายบ้าน-ขายรถ ส่งลูกตีกอล์ฟ!!

ถือเป็นข่าวดีที่น่าภาคภูมิใจ และ ควรปรบมือให้ดังๆกับการเป็น ผู้หญิงไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนแรก ที่ก้าวขึ้นเป็น "นักกอล์ฟหญิงหมายเลข1ของโลก" ของ โปรเม เอรียา จุฑานุกาล แต่รู้หรือไม่? กว่าที่ชีวิตของเธอจะประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้นั้น โปรเม ต้องผ่านอุปสรรคมาแล้วมากมาย ซึ่ง 1 ในอุปสรรคชีวิตของ โปรเม นั้น ถูกเปิดเผยและบอกเล่าผ่าน "อุ๋ย บุดด้า เบลส " นักร้องชื่อดังที่โพสต์เล่าถึงชีวิตของโปรเม ทาง Facebook Natee Ekwijit โดยระบุว่า

"กว่าจะมีวันนี้ พ่อขายรถ ขายบ้าน ส่งลูกตีกอล์ฟ นับถือทั้งครอบครัวเลยครับ  น่ายินดีด้วยจริงๆ"

ซึ่งหากย้อนดูประวัติของ โปรกอล์ฟหญิง มือ 1 ของโลกที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติคนนี้ นั้น ต้องยิ่งน่าชื่นชมเธอมากขึ้นไปอีก

     โปรเมเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อกีฬาแห่งหนึ่งว่าเธออยู่กับกอล์ฟมาตั้งแต่เกิดเพราะที่บ้านเธอเป็นร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟ และเริ่มจับไม้เหล็กหวดวงสวิงตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ทุกวันหลังเลิกเรียนพ่อแม่ที่รักกีฬากอล์ฟจะพาเธอติดไปด้วยที่สนามไดรฟ์กอล์ฟเสมอ ถ้าใครเป็นคอกีฬาจะทราบดีเธอมีพี่สาวคือ "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล ที่เล่นกอล์ฟอาชีพเช่นกัน

ฟังเผินๆดูเหมือนเธอจะอยู่ในครอบครัวที่สบาย แต่แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้น เมื่อโปรเม-โปรโม มีความฝันอยากเป็นนักกอล์ฟอาชีพอย่างแท้จริง พ่อแม่ไม่ได้ปฏิเสธความฝันของเธอกลับส่งเสริม ถึงขนาดขายบ้าน ขายรถ ขายกิจการ ทุกอย่าง เพื่อนำเงินมาสนับสนุนให้ลูกสาวทั้งสอนได้เทิร์นโปรเป็นนักกอล์ฟอาชีพ ถือว่าเป็นความเสี่ยงและความเสียสละที่สุดของครอบครัวที่มอบให้แก่ความฝันลูกสาวทั้งสองคน

นอกจากนั้นพ่อของเธอยังผันตัวมาเป็นโค้ชคนแรกในชีวิตด้วย เธอติดทีมชาติตั้งแต่ในระดับประถมศึกษา โดยแบกภาระทั้งการเรียนและการฝึกซ้อม จนเมื่อถึงเส้นทางที่ต้องเลือกหลังจากจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 เธอจึงเลือกเริ่มต้นเส้นทางสายนักกอล์ฟอาชีพ

จากวันเทิร์นโปรสู่มือ1ของโลกไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

พอก้าวสู่มืออาชีพสิ่งต่างๆ เริ่มไม่ง่ายเพราะแปลว่าต้องใส่เต็มร้อยไปกับมัน หากใครเป็นแฟนกีฬาจะทราบดีว่าปัญหาในช่วงแรกที่โปรเมขึ้นมาเล่นอาชีพใหม่ๆ จะมีปัญหาเรื่องสมาธิ คือนำมาก่อนในหลายวันและมาพลาดวันสุดท้ายเสมอ เธอยอมรับว่าที่เจ็บใจที่สุดคือปี 2013 พลาดแชมป์ Honda LPGA Thailand แชมป์ระดับ LPGA ครั้งแรกในชีวิตจนโดนสบประมาทมากมายว่ารักษาระดับไว้ไม่ได้

บททดสอบอีกครั้งหนึ่งของเธอคือเมื่อบาดเจ็บที่หัวไหล่จนต้องรักษาร่างกาย 1 ปีเต็มเพราะต้องผ่าตัดและพักฟื้น คะแนนสะสมที่เคยมีก็ยิ่งลดลงพร้อมกับอันดับที่รูดลงเรื่อยๆ หากเป็นคนอื่นในวัย 17 ปีคงถอดใจไปแล้วแต่โปรเมเลือกที่จะฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง และมันก็ไม่ง่ายเมื่อเธอกลับมาในปี 2015 เจอปัญหาฟอร์มตกอย่างแรง โดยโปรเมตกรอบ 10 รายการติดต่อกัน

จากวันนั้นถึงวันนี้โปรเมเธอเดินมาไกลมาก เธอให้สัมภาษณ์เมื่อกลางปีก่อนว่าเธอตั้งเป้าไว้จะใช้เวลา 1-2 ปีเพื่อที่จะก้าวขึ้นสู่บัลลังก์มือ1ของโลก และ 12 มิ.ย.นี้ คือวันที่เธอทำได้ตามเป้าหมายของชีวิตเธอ และเมื่อมองย้อนกลับไปจะพบว่าไม่มีอะไรได้มาอย่างง่ายๆ สำหรับมือ 1 ของโลกชาวไทยคนนี้

ขอบคุณ ::::: news.voicetv.co.th