ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 5 ของฤดูกาล ที่คิงส์ พาวเวอร์ สเตเดี้ยม แชมป์เก่า เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เบิร์นลีย์
เคลาดิโอ รานิเอรี กุนซือเจ้าถิ่นลงรอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ ลงเฝ้าเสาแทนแคสเปอร์ ชไมเคิล ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมถึงหมดสิทธิ์ใช้งานเจฟฟรีย์ ชลุปป์ รวมถึงนัมพาลีย์ เมนดี้ ที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม แดนนี ซิมพ์สัน หายจากอาการบาดเจ็บและกลับลงมาประจำการในตำแหน่งแบ็คขวาอีกครั้ง ที่เหลือยังคงเป็นขุมกำลังหลักที่ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับทีมก่อนหน้านี้ ทั้งโรเบิร์ต ฮูธ, เวส มอร์แกน และคริสเตียน ฟุชส์ ในแดนหลัง กองกลางเลือกใช้งานแดนนี ดริ๊งวอเตอร์ และดาเนียล อามาร์เตย์ ขณะที่แนวรุกมี ริยาด มาห์เรซ, เจมี วาร์ดี้ รวมถึงอิสลาม สลิมานี หัวหอกตัวใหม่ลงประสานเกมร่วมกัน ในระบบ 4-4-2
ด้านทีมเยือนของ ฌอน ไดค์ ที่ลงสนาม 5 นัดหลังสุด ชนะเพียง 1 เกม ขาดเพียงผู้เล่นในแดนหลังอย่าง แอชลีย์ บาร์นส์ คนเดียวเท่านั้นที่ยังมีอาการบาดเจ็บ นอกนั้นไม่มีปัญหาในการจัดทัพ พร้อมส่ง 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามครบครัน เลือกทอม ฮีตัน ลงเฝ้าเสา ที่เหลือมี ไมเคิล คีน, เบน มี จับคู่กันในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง สตีเฟน เดโฟร์, เจฟฟ์ เฮนดริค เป็นตัวชูโรงในแดนกลาง โดยมีอังเดร เกรย์ ยืนค้ำในแดนหน้า ในระบบ 4-5-1
ตลอดเกมในครึ่งเวลาแรกเป็นขุนพลจิ้งจอกสยามที่รูปเกมดูเหนือกว่าทีมเยือนเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการครองบอลและการสร้างสรรค์เกมรุก ทว่าเลสเตอร์กลับมีโอกาสบุกลุ้นประตูไม่บ่อยครั้ง เพราะบรรดาแนวรับของเบิร์นลีย์แสดงให้เห็นถึงสมาธิในเกมรับเป็นอย่างดี โดยโอกาสบุกน่าลุ้นประตูของเจ้าถิ่นเกิดขึ้นช่วงท้ายครึ่งแรกในนาทีที่ 38 จากริยาด มาห์เรซ ที่ได้โอกาสโขกเหน่งๆหน้าปากประตูทีมเยือน จากกการครอสเข้ามาของคริสเตียน ฟุชส์ แต่บลกัลบหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ดี ความพยายามลุ้นประตูอย่างต่อเนื่องของเลสเตอร์มาประสบความสำเร็จชวงทดเจ็บนาทีที่ 45+1 เมื่อฟุชส์ บรรจงครอสบอลจากลูกตั้งเตะบริเวณมุมธงฝั่งขวาของเขตโทษทีมเยือนมาเข้าทางอิสลาม สลิมานี จัดการเทกตัวขึ้นโขกเต็มศีรษะเหนือตัวประกบอย่างเบน มี เข้าประตู ชนิดที่ทอม ฮีตัน หมดสิทธิ์ป้องกัน เจ้าถิ่นออกนำ 1-0 และหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้