เยอรมนีฟอร์มแชมป์ไล่ถล่มสโลวะเกีย-ฉลุย 8 ทีมยูโร

เยอรมนีฟอร์มแชมป์ไล่ถล่มสโลวะเกีย-ฉลุย 8 ทีมยูโร


การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2016" รอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่ที่ 2 วันที่ 26 มิ.ย. ระหว่าง "อินทรีเหล็ก"เยอรมนี แชมป์โลก 2014 อดีตแชมป์ยูโร 3 สมัย ปี 1972, 1980 และ 1996 ดวลกับทีมสโลวะเกีย ที่สต๊าด ปิแอร์-มัวรอย เมืองลีลล์

เยอรมนี ภายใต้การนำของโยอาคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ ถอดมาริโอ เกิตเซ่ กองกลางตัวรุกเป็นแค่ตัวสำรอง และส่งมาริโอ โกเมซลงทำหน้าที่ศูนย์หน้าตัวเป้า ส่วนแดนกลางอยู่กันครบ ทั้ง เมซุต โอซิล, โทนี่ โครส, โธมัส มุลเลอร์


ขณะที่สโลวะเกีย เกมนี้นำทีมโดย มาเร็ก ฮัมซิก ดาวดังจากสโมสรนาโปลี ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

สำหรับรายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

 เยอรมนี เล่นระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย - มานูเอล นอยเออร์(กัปตันทีม), โยชัว คิมมิก, เฌโรม บัวเต็ง, โยนาส เฮ็กเตอร์, โทนี่ โครส, ซามี่ เคดิร่า, โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, มาริโอ โกเมซ, จูเลียน ดรักซ์เลอร์


ส่วนสโลวะเกีย ระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย มาตุส โคซาชิก, ปีเตอร์ เปคาริก, มาร์ติน สเคอร์เทล(กัปตันทีม), ยาน ดูริช่า, นอร์เบิร์ต กยอมแบร์, มาเร็ก ฮัมซิก, มิชาล ดูริส, วลาดิมีร์ ไวส์, มิลาน สคริเนียร์, ปาทริก ฮโรซอฟสกี้, ยูไร คุชก้า

เริ่มเกม ครึ่งแรก เยอรมนีครองบุกมากกว่า นาทีที่ 6 โทนี่ โครสเปิดฟรีคิกจากด้านขวามาที่เสาแรก เคดิร่าขึ้นโขก บอลเกือบเสียบเพดานตาข่าย แต่โคซาชิกพุ่งปัดออกหลังไปได้
จากจังหวะเตะมุมด้านซ้าย โครสเตะเข้ามาในเขตโทษ กองหลังสโลวะเกียโหม่งสกัดออกมาเข้าทางเฌโรม บัวเต็ง ซัดจากระยะ 20 หลา บอลแฉลบสคริเนียร์เบียดเสาแรกเข้าประตู ทำให้เยอรมนีขึ้นนำ 1-0

หลังจากนั้นเยอรมนียังบุกหนัก นาทีที่ 12 ลูกทีมของโยอาคิฟ เลิฟได้จุดโทษ เมื่อสเคอร์เทลผลักโกเมซจนล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินให้เยอรมนีได้จุดโทษ พร้อมแจกใบเหลืองให้สเคอร์เทล พร้อมเมซุต โอซิล รับหน้าที่สังหาร แต่โคซาชิกพุ่งปัดไว้ได้ 


สโลวะเกียต้องเป็นฝ่ายตั้งรับ และพยายามตัดบอลทำเกมโต้กลับ

นาทีที่ 18 โอซิลมีโอกาสยิงจากด้านขวาบอลข้ามคาน
ขณะที่สโลวะเกียมีลุ้นบ้าง ในนาทีที่ 19 เมื่อฮัมซิกทำชิ่งให้ไวส์หลุดไปยิงในเขตโทษ แต่นอยเออร์คว้าไว้ได้ 


เยอรมนีเน้นขึ้นเกมทางด้านขวา โดยมีดรักซ์เลอร์ประสานงานกับคิมมิก สร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับของสโลวะเกีย


นาทีที่ 23 อินทรีเหล็กขึ้นเกมทางซ้าย เฮ็คเตอร์กระชากขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะเปิดมาที่เสาแรก แต่โคซาชิกออกมาตัดไว้ได้

อีก 1 นาทีถัดมาโอซิลได้ยิงด้วยเท้าขวาในกรอบเขตโทษ แต่เฉี่ยวเสาออกไป
ทัพนักเตะอินทรีเหล็กบุกเป็นระลอก นาทีที่ 27 โอซิลได้จังหวะเปิดบอลจากด้านซ้าย เข้ามาในเขตโทษ มุลเลอร์ขึ้นโหม่ง บอลข้ามคานไม่ได้ลุ้น
เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง เยอรมนียังเหนือกว่า ครองบอลมากถึง 66 เปอร์เซ็นต์ นาทีที่ 39 ดรักซ์เลอร์มีจังหวะตวัดยิง บอลผ่านหน้าประตูออกไป

นาทีที่ 41 สโลวะเกียบุกโต้กลับ เปคาริกพาบอลขึ้นมาถึงริมเส้นด้านขวา ก่อนจะเปิดมาที่เสาสอง คุชก้าขึ้นโขก บอลกำลังจะเสียบตาข่าย แต่นอยเออร์พุ่งปัดข้ามคานออกไปได้อย่างหวุดหวิด


เมซุต โอซิลยิงจุดโทษพลาด

จากนั้นอีกไม่ถึงนาที สโลวะเกียมีลุ้นอีกครั้ง เมื่อสคริเนียร์ลากไปยิงจากหน้ากรอบประตู แต่บอลไม่ตรงกรอบ 


นาทีที่ 43 เยอรมนีต่อบอลบุกขึ้นมาทางซ้าย ดรักซ์เลอร์โชว์ทักษะกระชากหนีคุชก้าเข้ามาในเเขตโทษ ก่อนจ่ายเข้ากลางให้โกเมซยิงเข้าประตู เยอรมนีนำห่าง 2-0 จนจบครึ่งแรก

ครึ่งหลัง สโลวะเกีย ปรับแผน ถอน วลาดิมีร์ ไวส์ออก และส่งยาน เกรกุส ลงเล่นแทน เกมช่วงต้นครึ่งหลัง มีลุ้นได้ประตูในนาทีที่ 48 เมื่อ คุชก้าได้จังหวะยิงจากระยะ 20 หลาหน้าเขตโทษ แต่บอลตรงตัว นอยเออร์

นักเตะสโลวะเกียทำเกมได้มากขึ้น แต่เจาะแนวรับของของเยอรมนีไม่ได้

นาทีที่ 63 ทีม"อินทรีเหล็ก"ได้เตะมุมด้านขวา โครสเปิดบอลมาในเขตโทษ ฮุมเมิลส์ขึ้นโขก บอลมาถึงดรักซ์เลอร์ที่ยืนโล่งๆตวัดยิงเสียบตาข่าย เยอรมนีทิ้งห่าง 3-0
หลังเสียลูกที่ 3 สโลวะเกียเปลี่ยนให้สตานิสลาส เซสตัก กองหน้าตัวเก๋าลงเล่นแทน มิคาล ดูริส
นาทีที่ 65 สโลวะเกียได้ฟรีคิก ฮัมซิกเขี่ยให้ดูริช่ายิง แต่ไม่ตรงกรอบ

เยอรมนีนำห่าง โยอาคิม เลิฟ พักนักเตะหลัก โดยถอดบัวเต็งออก และส่งเบเนดิกซ์ โฮเวเดส ลงแทน นอกจากนี้ยังดรักซ์เลอร์ ออก และส่งลูคัส โพโดลสกี้ หัวหอกตัวเก๋าลงแทน ในนาทีที่ 72

จากนั้นนาทีที่ 76 เยอรมนีเปลี่ยนตัวนักเตะคนที่ 3 ส่งบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางจากแมนฯยูลงเล่นแทนเคดิร่า นาทีที่ 77 โพโดลสกี้เปิดบอลจากด้านซ้ายมาที่เสาแรก แต่ไม่มีเพื่อนเข้าชาร์จ โคซาชิกออกมาคว้าไว้ได้

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โทนี่ โครสมีโอกาสยิงในเขตโทษ แต่โคซาชิกเซฟไว้ได้

 จบเกมเยอรมนีถล่มสโลวะเกีย 3-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย รอพบผู้ชนะระหว่างสเปน กับ อิตาลี ที่สนามสต๊าด เดอ บอร์โดซ์ ในวันที่ 2 ก.ค.นี้
////


ชมไฮไลต์ด้านล่าง>>


ขอบคุณ khaosod.co.th

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์