ปรีวิวการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016
อังกฤษ - เวลส์
เวลา: 20.00น.
"สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ปะทะกับ "มังกรแดง" ทีมชาติเวลส์ ซึ่งจะดวลแข้งรายการสำคัญเป็นครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้ปะทะแข้งกันมาทั้งสิ้น 103 นัด อังกฤษ ชนะ 68 เสมอ 21 และเวลส์ ชนะได้เพียง 14 ครั้งเท่านั้น
ความพร้อมในเกมนี้ "สิงโตคำราม" ที่เสมอมาในเกมแรกกับ รัสเซีย 1-1 อาจมีการปรับทัพในเกมรุก เมื่อจะดร็อป ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ฟอร์มไม่ดีออกจากทีม แล้วส่ง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หรือ เจมี่ วาร์ดี้ คนใดคนหนึ่งลงเล่นกองหน้าคู่กับ แฮร์รี่ เคน โดยมี เวย์น รูนี่ย์ ประสานเกมกับ อดัม ลัลลาน่า และเดเล่ อัลลี่ เดินเกม
ทางฝั่ง เวลส์ รอลุ้นอาการบาดเจ็บของ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ นายประตูมือ 1 ที่เจ็บหลังจนชวดเกมแรก หากผ่านฟิตจะได้กลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง ส่วนตำแหน่งอื่นน่าจะมี โจ เล็ดลี่ย์ กลับมาทำเกมในแดนกลางร่วมกับ โจ อัลเลน และแอร่อน แรมซี่ย์ ขณะที่เกมรุก แกเร็ธ เบล เป็นตัวความหวัง และน่าจะให้ ฮาล ร็อบสัน-คานู ลงกองหน้าตัวจริง หลังจากสังหารประตูชัยในเกมที่แล้ว
ทั้งนี้ก่อนเกมการแข่งขันจะเริมขึ้นนั้น มีการเปิดศึกน้ำลายกันจากตัวแทนทั้งสองฝ่าย โดย แกเร็ธ เบล ซูเปอร์สตาร์ค่าตัวแพงที่สุดของโลกชาวเวลส์ ประกาศว่า ไม่มีนักเตะคนใดของอังกฤษที่ดีพอจะเหมาะสมมาติดทีมชาติเวลส์ ส่วน แจ๊ค วิลเชียร์ กองกลางของอังกฤษ ก็ยืนยันว่า พวกเขาไม่ชอบหน้าพวกเวลส์เช่นกัน
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะสนามเกมนี้
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท-ไคล์ วอล์คเกอร์, แกรี่ เคฮิลล์, คริส สมอลลิ่ง, แดนนี่ โรส-เอริค ดายเออร์, เวย์น รูนี่ย์, เดเล่ อัลลี่, อดัม ลัลลาน่า, แฮร์รี่ เคน และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
เวลส์ : เวย์น เฮนเนสซี่ย์-เจมส์ เชสเตอร์, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, เบน เดวีส์-คริส กันเตอร์, โจ อัลเลน, โจ เล็ดลีย์, นีล เทย์เลอร์-แอร่อน แรมซี่ย์-แกเร็ธ เบล และ ฮาล ร็อบสัน-คานู
สกอร์ที่คาด: อังกฤษ 2-1 เวลส์
ยูเครน - ไอร์แลนด์เหนือ
เวลา: 23.00น.
นัดนี้ ยูเครน ยังยึดผู้เล่นตัวจริงจากนัดก่อนลงเล่นเหมือนเดิม หลังจากทำผลงานได้น่าพอใจ เพียงแต่ต้านความแกร่งของ เยอรมนี ไม่ไหว โดยตัวหลักยังเป็น เยฟเฮน โคโนปียันก้า, อันเดร ยาโมเลนโก้ และทาราส สเตปาเนนโก้
ทางฝั่ง ไอร์แลนด์เหนือ ที่เกมแรกเน้นรับจนเกือบแชร์แต้มกลับได้ แต่สุดท้ายก็พ่ายไป ทำให้นัดนี้จะปรับระบบใหม่มาเล่น 3-5-2 โดยให้ คอนอร์ วอชิงตัน ยืนหน้ากับ ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้ ส่วนแผงกลางวาง สตีเว่น เดวิส, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด และคอนอร์ แม็คลาฟห์ลิน เหมือนเดิม สำหรับคู่นี้เจอกันมา 4 นัด ยูเครน ชนะ 2 เสมอ 2 และไอร์แลนด์เหนือ ไม่เคยชนะเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามมีดังนี้
ยูเครน : อังเดร ปิยาตอฟ-อาร์เต็ม เฟเดตสกี้, เยฟเฮน คาเชริดี้, ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้, วยาเชสลาฟ เชฟชุค-เซอร์เก รีบัลก้า, ทาราส สเตปาเนนโก้-เยฟเฮน โคโนเปียนก้า, อังเดร ยาร์โมเลนโก้, รุสลาน โรตาน และโรมัน โซซุลย่า
ไอร์แลนด์เหนือ : ไมเคิ่ล แม็คโกเว่น-คอเนอร์ แม็คลาฟลิน, แกเร็ธ แม็คออลีย์, เคร็ก แคทคาร์ท, จอนนี่ อีแวนส์-สตีเว่น เดวิส, คริส แบร์ด, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด-เจมี่ วอร์ด, คอนอร์ วอชิงตัน และไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้
สกอร์ที่คาด: ยูเครน 1-0 ไอร์แลนด์เหนือ
เยอรมนี - โปแลนด์
เวลา: 02.00น.
"อินทรีเหล็ก" ทีมชาติเยอรมนี ปะทะกับ ทีมชาติโปแลนด์ โดยต่างฝ่ายต่างกำชัยมาได้ในเกมแรกทั้งคู่ ซึ่งเกมนี้ ช่อง 3 จะทำการถ่ายทอดสด
เกมนี้ "อินทรีเหล็ก" จะได้ มัตส์ ฮุมเมิลส์ ปราการหลังที่หายเจ็บกลับมาช่วยคุมแนวรับ นอกนั้นน่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เมซุต โอซิล, ยูเลี่ยน แดร๊กซ์เลอร์, โธมัส มุลเลอร์ และมาริโอ เกิทเซ่ ลงประจำการเหมือนเดิม
ทางฝั่ง โปแลนด์ ที่เอาชนะได้อย่างหืดจับในเกมก่อน ก็น่าจะไม่มีการเปลี่ยนตำแหน่งแต่อย่างใด แต่อาจปรับการยืนมาเป็น 4-4-1-1 เพื่อเน้นแดนกลางบดกับ เยอรมนี ซึ่งทีมนำโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกก้านยาวจาก บาเยิร์น มิวนิค เป็นหัวหอกตัวเป้า
สำหรับสถิติคู่นี้เจอกันมาทั้งสิ้น 19 นัด เยอรมนี เอาชนะไปได้ถึง 12 เกม เสมอกัน 6 เกม และโปแลนด์ ชนะได้เพียงแค่หนเดียวเท่านั้น
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามมีดังนี้
เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์, เบเนนิค โฮเวเดส, มัตส์ ฮุมเมลส์, เยโรม บัวเต็ง, โยนาส เฮคเตอร์, ซามี เคห์ดิรา, โทนี โครส -โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ และมาริโอ เกิทเซ่
โปแลนด์ : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้-ลูคัสซ์ พิสเซ็ค, คามิล กลิค, บาร์ตอสซ์ ซาลามอน, ยาคุบ วาเวอร์ซีเนียค-ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค, คามิล กรอสซิคกี้-โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค
สกอร์ที่คาด: เยอรมัน 3-1 โปแลนด์