ด้านยูเครน แนวรุกตัวหลักได้ลงพร้อมหน้า ทั้งอังเดร ยาร์โมเลนโก้ ปีกจากทีมดินาโม เคียฟ, เยฟเก้น โคโนเปลียนก้า และกองกลางจากทีมเซบีญ่า ในลา ลีกา สเปน
สำหรับนักเตะ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม "อินทรีเหล็ก"เยอรมนี เล่นระบบ (4-2-3-1) - มานูเอล นอยเออร์(กัปตันทีม), เบเนดิกท์ โฮเวเดส, เฌโรม บัวเต็ง, สโคดราน มุสตาฟี่, โยนาส เฮคเตอร์, โทนี่ โครส, ซามี่ เคดิร่า, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์, โทมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, มาริโอ เกิตเซ่
ส่วน ยูเครน เล่นระบบ(4-3-3) -อังเดร เปียตอฟ, อาร์เต็ม เฟเดตสกี้, เยฟเก้น คาเชริดี้, ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้, เวียเชสลาฟ เชฟชุก (กัปตันทีม), ตาราส สเตปาเนนโก้, เซอร์เก ซีดอร์ชุก, วิกเตอร์ โควาเลนโก้, อังเดร ยาร์โมเลนโก้, เยฟเก้น โคโนเปลียนก้า, โรมัน โซซูลย่า
เยอรมนีเป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อน และนาทีที่ 5 เกิตเซ่ลากเข้ามายิงบริเวณกรอบเขตโทษ แต่ติดตัวกองหลังยูเครน ก่อนที่ดรักซ์เลอร์จะยิงซ้ำ แต่ติดบล็อก
หลังจากนั้นยูเครนโต้กลับเร็ว และมีโอกาสได้ประตู จากจังหวะที่ โคโนเปลียนก้าได้ยิงบริเวณกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่นอยเออร์พุ่งชกบอลออกไปได้
ทัพนักเตะเยอรมนีครองบอลบุกมากกว่า ขณะที่ ยูเครนตั้งรับแน่น และคอยสวนกลับ
นาทีที่ 11 มุลเลอร์โหม่งย้อนเข้ามาในเขตโทษให้เฮคเตอร์เอี้ยวตัวยิง แต่บอลแฉลบไม่เต็มเท้า พลาดได้ประตู
นาทีที่ 19 เยอรมนีได้ประตู เมื่อโทนี่ โครสเปิดฟรีคิกจากทางด้านขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ มุสตาฟี่เติมเกมขึ้นมาโขกสะบัด บอลเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม