รวมเรื่อง ′พลิกล็อก′จากซีเกมส์ ′ลอดช่อง′ เซอร์ไพรส์ ไทยแลนด์!

รวมเรื่อง ′พลิกล็อก′จากซีเกมส์ ′ลอดช่อง′ เซอร์ไพรส์ ไทยแลนด์!

"กีฬา สงคราม ความรัก เป็นเรื่องที่คาดเดาผลลัพธ์ไม่ได้" ประโยคนี้เป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าจริง โดยเฉพาะเรื่องของกีฬา ถึงแม้จะพอคาดเดาสถานการณ์และผลการแข่งขันล่วงหน้าได้บ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปตามที่คาดเสมอไป


สำหรับกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ แม้จะแข่งยังไม่ถึงครึ่งทาง แต่ก็มีหลายชนิดกีฬาที่เรียกว่า "พลิกล็อก" ที่คว้าเหรียญทองได้แบบเหนือความคาดหมาย ทั้งๆ ที่ก่อนการแข่งขันโอกาสมีน้อยมากทีเดียว

กีฬาแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ เทเบิลเทนนิส "น้องหญิง-สุธาสินี เสวตรบุตร" นักปิงปองสาวไทยที่ทำเซอร์ไพรส์หลายชุดเหลือเกินในซีเกมส์หนนี้
เริ่มจากจับคู่กับ "ไบรท์-ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล" ลงแข่งในประเภทคู่ผสม พลิกชนะคู่ของ "ลี่ หู-โจว อี้ฮาน" สองนักตบลูกเด้งที่โอนสัญชาติจากจีนเป็นสิงคโปร์ และเป็นมือ 1 ของรายการไปแบบสุดมัน 3-2 เกม 1-11, 5-11, 11-9, 6-11, 11-9, 11-5, 11-8 เข้าชิงเหรียญทองไปพบกับคู่มือ 2 สิงคโปร์ "หยู เมิ่งหยู-หยาง จี้" ที่โอนสัญชาติจากจีนเช่นกัน แต่รอบนี้คู่ของไทยสู้ไม่ไหวพ่ายไป ได้เหรียญเงินมาปลอบใจ

รายการต่อมาของ "น้องหญิง" เป็นประเภทหญิงเดี่ยว การแข่งขันประเภทนี้ จะแบ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มมี 4 คน ซึ่งแต่ละคนจะต้องเล่น 3 แมตช์ในรอบนี้ แชมป์เท่านั้นที่จะมีสิทธิเข้ารอบรองชนะเลิศ

นัดสุดท้ายของกลุ่ม นักปิงปองสาวจอมพลิกล็อกต้องเจอกับ "เฟิ่ง เทียนเหว่ย" มือ 4 ของโลก ของสิงคโปร์ที่โอนสัญชาติมาจากจีนอีกคน เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2008 และ 2 ทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2012 โดยชนะเจ้าภาพได้ 3-1 เกม 9-11, 12-10, 11-7, 11-9 ทำให้ "สุธาสินี" ชนะ 3 นัดรวด คว้าแชมป์กลุ่มเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศแบบพลิกความคาดหมายจริงๆ เพราะนักตบลูกเด้งจากระนองเป็นมือ 107 ของโลก การพลิกล็อกครั้งนี้ถือว่าสั่นสะเทือนเกาะสิงคโปร์เลยทีเดียว

หลังจากที่เธอคว้าชัยเหนือเจ้าภาพ เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ "น้องหญิง" ก็สวมหัวใจสิงห์ไล่แซงชนะสาวเวียดนามได้อีก 4-3 เกม 16-18, 10-12, 9-11, 13-11, 11-5, 11-9, 11-9 แม้จะโดนหิ้งห่างไปก่อน 3 เกม จนเข้าไปชิงชนะเลิศกับ "อึ่ง ซ็อก คิม" จากมาเลเซีย และต้องลุ้นกันถึง 7 เกม ก่อนที่ "สุธาสินี" จะชนะไป 4-3 เกม 7-11, 11-5, 11-8, 9-11, 11-6, 9-11, 11-4 คว้าเหรียญทองประเภทหญิงเดี่ยวให้ไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี ต่อจาก "พัชรินทร์ ลอยไสว" ในซีเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่สิงคโปร์ เมื่อปี 2526

"หญิงดีใจที่ได้เหรียญทอง แต่การชนะเฟิ่ง เทียนเหว่ย เป็นสิ่งที่ดีใจและสะใจกว่ามาก" นักตบลูกเด้งจอมพลิกล็อกกล่าวหลังจบการแข่งขัน
อีกเหรียญที่ดราม่าไม่น้อย คือ เหรียญทอง วิ่งมาราธอน 42.195 กม.หญิง "ฝน-ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์" หรือ "สายฝน เปี้ยวง" นักวิ่งปอดเหล็กไทย วิ่งฝ่าสายฝนเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก เธอก้าวผ่านเส้นชัยพร้อมน้ำตา เพราะสิ่งที่พยายามทำมา 20 ปีประสบความสำเร็จจนได้

ตัวเต็งมาราธอนหญิงก่อนแข่งขันเป็น "เจน วงษ์วรโชติ" นักวิ่งจอมอึดที่ไปโตในสหรัฐอเมริกา หนึ่งในความหวังสูงสุดของไทย เพราะสถิติของ "เจน" ก่อนหน้านี้ดีพอจะคว้าโควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ด้วยซ้ำ แถมยังมี "มยิน มยิน อเย" จากพม่า เจ้าของเหรียญเงินครั้งที่แล้ว แล้วยังมีสองนักวิ่งเจ้าถิ่นที่คุ้นเคยเส้นทางเป็นอย่างดี เป็นขวากหนามอยู่

แต่ "ฝน" ที่ไม่เคยได้เหรียญรางวัลในการวิ่งระยะไกลซีเกมส์มาก่อนเลย แม้จะรับใช้ชาติมาถึง 20 ปีแล้ว ก็ปราบเซียน คว้าเหรียญทองไปได้แบบสะใจตัวเอง

"ณัฐธยาน์" บอกว่า ไม่ว่าจะวิ่งระยะไกลในรายการไหนๆ ลองมาหมดแล้ว แต่ไม่เคยได้เหรียญในซีเกมส์หรือในนามทีมชาติ มีเพียงทวิกีฬาที่ต้องปั่นจักรยานและวิ่งระยะไกลด้วย ที่เคยทำได้ในซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่โคราช เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ครั้งนี้เหมือนเป็นการบอกให้ทุกคนรู้ว่าตัวเองทำได้

"ก่อนมาแข่งก็หวังอยู่ลึกๆ ว่าจะได้เหรียญ เพราะซ้อมมาดี แต่ก่อนหน้านั้นเกือบไม่ได้มาแข่ง เพราะที่ทำงานไม่เข้าใจว่าทำไมถึงลางานไปซ้อมไปแข่งเป็นเวลานาน แต่ตอนนี้ทุกคนเข้าใจและสนับสนุนเป็นอย่างดี ถือว่าเป็นการพิสูจน์และตอบแทนความช่วยเหลือของทุกคนที่มีให้กัน" ปอดเหล็กสาวไทยกล่าวทั้งน้ำตาคลอเบ้า

ปิดท้ายที่ยิงปืน นักแม่นปืนไทยรวมใจกันกวาดมาแล้ว 6 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้เพียง 2 เหรียญทองแบบไม่เห็นฝุ่น แถมยังมีรายการให้ลุ้นอีกจำนวนหนึ่ง

ที่ผ่านมา สมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทยฯ มีความขัดแย้งมาตลอด 8 ปี ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้บริหารกับนักกีฬา หรือแม้แต่ผู้บริหารที่ชิงเก้าอี้กันอย่างดุเดือด ทำให้สมาคมเป็นสุญญากาศ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) เหรียญทองยิงปืนที่เคยได้เป็นกอบเป็นกำนับ 10 เหรียญในช่วงที่รุ่งเรือง เหลือเพียง 1 เหรียญทอง ในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และ 2 เหรียญทอง ซีเกมส์ครั้งที่แล้วที่พม่า
มาซีเกมส์ครั้งนี้ ปัญหาก็ยังมีอยู่ นักกีฬาไม่ได้รับการสนับสนุนกระสุนในการฝึกซ้อม จนถึงขั้นต้องขอบริจาคจากหน่วยงานที่มีอยู่ ปัญหาความขัดแย้งที่ดูเหมือนจะคลี่คลายกลับตึงเครียดขึ้นมาอีก

แต่ถึงกระนั้น นักยิงปืนทีมชาติไทยก็กลับมาสร้างผลงานในซีเกมส์แบบคาดไม่ถึง สาเหตุน่าจะมาจากการที่พวกเขารู้ดีว่า จะปวดหัวกับปัญหาไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา สิ่งที่ต้องทำคือการช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด เพื่อสร้างผลงานให้ดีที่สุด หรือจะเรียกว่า มีภูมิต้านทานจากความขัดแย้งคาราคาซังก็ว่าได้ ดูเหมือนว่าแนวคิดนี้จะไปได้สวย เมื่อดูจากผลงาน

ซีเกมส์ยังเหลืออีกเกินครึ่งทาง เซอร์ไพรส์ของนักกีฬาไทยยังมีอีกมาก ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังไม่ได้ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ในตารางเหรียญ เพราะโดนเจ้าภาพขวางทางอยู่ แต่เมื่อจบการชิงชัยเหรียญสุดท้าย มั่นใจได้เลยว่า ทัพไทยจะจบด้วยการเป็นเจ้าเหรียญทองอีกสมัย

แต่ถ้าทำไม่ได้แล้วล่ะก็ ถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์ที่ยิ่งกว่าเซอร์ไพรส์เลยทีเดียว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์