โทนี่เบิ้ลม่วงมหากาฬขย่มมิลาน-ลาซามพ์อัดอินทรี

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2548 23:01 น.

ลูก้า โทนี่ ศูนย์หน้าตัวเก่งโขกเบิ้ลสกอร์ช่วยให้ ม่วงมหากาฬ ฟิออเรนติน่า เปิดบ้านบี้เอาชนะ เอซี มิลาน ไปได้ 3-1 ด้าน ลาซามพ์ ซามพ์โดเรีย เปิดรังไล่อัด อินทรีฟ้าขาว ลาซิโอ 2-0 ในศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

ศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
ฟิออเรนติน่า 3-1 เอซี มิลาน

เริ่มเกมขึ้นมาเป็นทาง มิลาน พยายามเปิดเกมบุกใส่ก่อนแต่เมื่อ ฟิออเรนติน่า ตั้งตัวได้ก็ตั้งหน้าตั้งตาบุกคืนสวนไปทันที ยอร์เกนเซ่น ได้จังหวะสับในเขตโทษบอลพุ่งเฉี่ยวเสาไกลออกไป แต่มาถึงนาทีที่ 10 แฟนๆ ม่วงมหากาฬได้เฮไปก่อนเมื่อ ปาสกวา เปิดลูกฟรีคิกไปเสาสองให้ โทนี่ หัวหอกดีกรีทีมชาติอิตาลีที่หลุดโล่งอยู่คนเดียวตั้งหัวโหม่งบอลผ่านมือ ดิด้า เข้าไปเสียบตาข่ายเสาไกลช่วยให้เจ้าบ้านทะยานนำไปก่อน 1-0

พอเสียประตูไปขุนพลปีศาจแดงดำ ดาหน้าทำเกมบุกใส่เจ้าถิ่นทันที กาก้า เริ่มจะแจกจ่ายบอลได้มากขึ้นแต่ยังไปไม่ถึงคู่กองหน้าอย่างเชฟเชนโก้ และจิลาร์ดิโน่ ทำให้ เซดอร์ฟ ต้องอาศัยการยิงไกลด้วยตัวเองซึ่งก็ได้ลุ้นเหมือนกันแต่ยังไม่เป็นประตู

แต่มาถึงนาทีที่ 25 แซร์จินโญ่ เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนโยนบอลไปหน้าประตูให้ จิลาร์ดิโน่ สะบัดหัวโขกเสาแรกเปลี่ยนทางเล็กน้อยพุ่งเข้าไปเสียบตาข่ายเสาไกลสกอร์มาเท่ากันที่ 1-1 ผ่านครึ่งชั่วโมงไป เป็นทางทีมเยือนที่ดูจะวูบวาบกว่าโดยเฉพาะเชฟเชนโก้ ได้จังหวะสับไกสองหนแม้จะยังไม่เข้ากรอบแต่ก็ทำให้แฟนๆ มิลานที่ตามมาเชียร์ถึงเมืองฟลอเรนซ์ได้ลุ้นทีเดียว

เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก มิลานฉวัดเฉวียนอยู่หน้าประตูฟิออเรนติน่า บ่อยครั้งเรียกได้ว่ามาเป็นระลอกทีเดียว กาก้า เริ่มโชว์จังหวะลากเลื้อยหลบอูฟาลูซี่ ก่อนสับด้วยขวาเล่นที่เสาแรกแต่เฟรย์ ไม่หลงล้มตัวรับเอาไว้ได้ ก่อนที่จะจบ 45 นาทีแรก ด้วยการเสมอกันอยู่

เปิดฉากครึ่งหลังแค่ 30 วินาที แฟนๆ เจ้าถิ่นได้เฮกันอีกครั้ง ปาสกวา เปิดบอลจากกราบซ้ายเข้ากลางเนสต้า สกัดบอลไม่ขาดเลยไปให้ ยอร์เกนเซ่น กระทุ้งด้วยซ้ายจ่อๆ หมดสิทธิที่ดิด้า จะป้องกันไว้ได้ ฟิออเรนติน่า ออกนำเป็น 2-1

ผ่านหนึ่งชั่วโมงรูปเกมของมิลานยังไม่ดีขึ้นทำให้ คาร์โล อันเชล็อตติ ต้องเปลี่ยนแปลงส่ง รุย คอสต้า อดีตขวัญใจแฟนๆ ม่วงมหากาฬลงไปช่วยกาก้า ปั้นเกมแทนเซดอร์ฟ นอกจากนี้ยังส่ง มาร์กอส คาฟู มาช่วยขึ้นเกมทางขวาแทนสตัม ซึ่งเติมเกมไม่ผ่านปาสกวา และก็เกือบจะได้ผลเมื่อคอสต้า ยัดบอลให้เชฟเชนโก้ ทำชิ่งกับจิลาร์ดิโน่ ก่อนหลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายแต่ต้องรีบยิงทำให้บอลไม่ตรงกรอบ

เข้าสู่ช่วงท้าย มิลานเดิมพันครั้งสำคัญถอดกาก้า ซึ่งติดใบเหลืองอยู่ด้วยและก็เริ่มทำเกมไม่ได้ออกพร้อมกับเติมแผงหน้าอย่าง ฟิลิปโป้ อินซากี้ ลงไปช่วยงานเพื่อน และก่อนจบเกมแค่ 5นาที คอสต้า เปิดบอลจากกราบขวาให้จิลาร์ดิโน่ พุ่งโขกบอลเข้าไปตุงตาข่ายแต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นกองหน้าทีมเยือนไปดึง ดิลอเรโต้ ในจังหวะแย่งโหม่งเสียก่อนทำให้พลาดประตูตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย

เท่านั้นไม่พอนาทีที่ 87 จูเซ็ปเป้ ปันคาโร่ ตัวสำรองโหม่งตั้งให้โทนี่ โขกบอลสวนตัวดิด้า เข้าไปซุกก้นตาข่ายทำให้ ฟิออเรนติน่า เอาชนะ 3-1 พร้อมกับเก็บสามแต้มเข้ากระเป๋า รั้งอันดับ 3 มีเพิ่มเป็น 28 คะแนน เท่ากับมิลานแต่ลูกได้-เสียเป็นรอง ส่วนที่ยิ้มเห็นจะเป็นยูเวนตุส ที่ทิ้งห่างทั้งคู่เป็น 5 แต้ม

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ฟิออเรนติน่า : เซบาสเตียน เฟรย์ , โทมัส อูฟาลูซี่ , ดาริโอ ดายเนลลี่ , มาร์โก ดิ ลอเรโต้ , มานูเอล ปาสกวา , คริสเตียน บร็อคคี่ , มาร์โก โดนาเดล , สเตฟาโน่ ฟิออเร่ , ริคคาร์โด้ มอตโตลิโว่ , มาร์ติน ยอร์เกนเซ่น , ลูก้า โทนี่

เอซี มิลาน : เนลสัน ดิด้า , ยาป สตัม , อเลสซานโดร เนสต้า , เปาโล มัลดินี่ , แซร์จินโญ่ , เจนนาโร่ กัตตูโซ่ , อันเดรีย ปิร์โล่ , คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ , ริคาร์โด้ กาก้า , อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ , อังเดร เชฟเชนโก้

สรุปผลการแข่งขันฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน

คิเอโว่ 1-1 อัสโคลี่
[1-0 : แซร์โจ้ เปลลิซซิเย่ร์ (น.14) , 1-1 : จิอันลูก้า โคม็อตโต้ (น.43)]

ฟิออเรนติน่า 3-1 เอซี มิลาน
[1-0 : ลูก้า โทนี่ (น.10) , 1-1 : อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ (น.25) , 2-1 : มาร์ติน ยอร์เกนเซ่น (น.46) , 3-1 : ลูก้า โทนี่ (น.87)]

เลชเช่ 3-0 เซียน่า
[1-0 : มีร์โก วูซินิซ (น.16) , 2-0 : เซดริก โคนัน (น.53) , 3-0 : จูเซ็ปเป้ คอสโซลิโน่ (น.90)]

ลิวอร์โน่ 2-0 เอ็มโปลี
[1-0 : สเตฟาโร่ มอร์โรเน่ (น.31) , 2-0 : คริสเตียโน่ ลูคาเรลลี่ (น.87)]

เรจจิน่า 3-1 กายารี่
[1-0 : นิโกล่า อโมรูโซ่ (น.2) , 2-0 : ฟรานเชสโก้ คอสซ่า (จุดโทษ น.38) , 2-1 : เนลสัน อเบฮอน (น.66) , 3-1 : คาร์ลอส ปาเรเดส (น.80)]

ซามพ์โดเรีย 2-0 ลาซิโอ
[1-0 : อายโม่ ดิอาน่า (น.72) , 2-0 : ฟรานเชสโก้ ฟลาคี่ (น.73)]

เตรวิโซ่ 2-2 ปาแลร์โม่
[1-0 : เรจจินัลโด้ (น.2) , 2-0 : เรจจินัลโด้ (น.6) , 2-1 : มิเชล เฟอร์รี่ (น.28) , 2-2 : ฟรังโก้ บริเอนซ่า (น.69)]