จิงโจ้แม่นโทษดับจอมโหดคว้าตั๋วบอลโลก 2006

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2548 19:05 น.

จิงโจ้ ออสเตรเลีย คว้าตั๋วฟุตบอลโลก 2006 รอบสุดท้ายที่เยอรมัน มาครองได้สำเร็จหลังเปิดบ้านเฉือนชนะ จอมโหด อุรุกวัย ไปได้ 1-0 สกอร์รวมเสมอ 1-1 แต่แข้งออสซี่ดวลจุดโทษแม่นยำกว่าเอาชนะไปได้ 4-2

ฟุตบอลโลก เพลย์ออฟ นัดที่ 2
ออสเตรเลีย 1-0 อุรุกวัย (ต่อเวลาพิเศษสกอร์รวมยังเสมอกัน 1-1)
* ดวลลูกที่จุดโทษ ออสเตรเลีย ชนะไป 4-2 *

กุส ฮิดดิ้งก์ มีการเปลี่ยนแปลงโผให้ออสเตรเลีย 2 ตำแหน่งด้วยกันเพื่อลุ้นทวงประตูที่ตามหลังอยู่ 0-1 คืนให้ได้จึงจัดการส่ง มาร์ค เบรสชาโน่ พร้อมกับ ทิม เคฮิลล์ ลงเล่นแทน แฮร์รี่ คีเวลล์ และอาร์ชี่ ธอมป์สัน ส่วนพลังสังหารยังเป็นหน้าที่ของ มาร์ค วิดูก้า กองหน้ากัปตันทีม

ด้านทีมเยือน ฮอร์เก้ ฟอสซาติ มีข่าวดีเมื่อ ดีเอโก้ ลูกาโน่ เซ็นเตอร์ตัวเก่งพ้นโทษแบนกลับมาลงสนามได้ แต่เกมนี้หันมาเสริมกลางให้แน่นขึ้นถอด มาร์เซโล่ ซาลาเยต้า รวมถึง ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ที่ไม่สมบูรณ์ออกพร้อมกับส่ง กุสตาโว่ บาเรล่า และมาริโอ เรเกโร่ มาเสริมเกมริมเส้นหนุน ริชาร์ด โมลาเรส หัวหอกตัวเป้าแทน

ท่ามกลางแฟนบอลกว่า 83,000 คน ออสเตรเลีย เดินเกมบุกใส่อุรุกวัย ผู้มาเยือนทันที วิดูก้า มีโอกาสแต่งบอลให้คูลิน่า ได้ยิงแต่ยังไม่ผ่านเซฟของคารินี่ ผ่านช่วง 20 นาทีแรก แม้เจ้าถิ่นจะเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าแต่ก็ยังทำอะไรไม่ถนัดนักเนื่องจากแท็คติกของทีมเยือนค่อนข้างจะมาตัดเกมแดนกลางเป็นหลัก

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ฮิดดิ้งก์ เห็นสถานการณ์ไม่ดีจึงเปลี่ยนแท็คติกให้ทีมทันทีถอด โปโปวิช ซึ่งเป็นกองหลังออกพร้อมกับส่ง แฮร์รี่ คีเวลล์ ลงมาช่วยปั้นเกมบุกมาถึงนาทีที่ 35 แฟนๆ ออสซี่ได้เฮกันลั่นสนามเมื่อ คีเวลล์ ประสานงานกับวิดูก้า อย่างเข้าขาก่อนที่บอลจะหลุดไปให้เบรสชาโน่ กระทุ้งตุงตาข่ายให้ ออสเตรเลีย ทะยานนำ 1-0 ตามต้องการในช่วงครึ่งเวลาแรก

เข้าสู่ครึ่งเวลาหลัง อุรุกวัย เริ่มมีจังหวะลุ้นทำประตูเช่นกันและก็ได้ลุ้นเสียด้วยเมื่อ เรโคบา ไหลบอลให้โมราเลส ตั้งป้อมยิงบอลพุ่งแรงทีเดียวแต่ก็เฉี่ยวคานออกไปหวุดหวิด เจ้าบ้านได้โอกาสเช่นกันเมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม เบรสชาโน่ คนเดิมลองวอลเล่ย์ในเขตโทษแต่บอลห่างไปพอสมควร

ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ฟอสซาติ ปรับเปลี่ยนแท็คติกถอดเอา เรโคบา ซึ่งเริ่มจะมีอาการล้าออกพร้อมกับส่ง มาร์เซโล่ ซาลาเยต้า ลงมาเติมเกมรุก แต่เป็นออสเตรเลียที่ได้ลุ้นปิดท้ายจากการยิงของคีเวลล์ แต่ไม่ผ่านเซฟคารินี่ ครบ 90 นาที เจ้าถิ่นทวงคืนมาได้ 1-0 ทำให้สกอร์รวมมาเท่ากันที่ 1-1 ต้องแข่งขันในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที

ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก ฟอสซาติ ตัดสินใจเติมเกมบุกอีกครั้งเพื่อลุ้นทำประตูเช่นกันส่ง ฟาเบียน เอสโตยานอฟฟ์ มาทำหน้าที่แทน เรเกโร่ และพวกเขาก็เกือบตีเสมอสำเร็จเมื่อ โรดริเกซ ปราการหลังผู้ทำประตูในนัดก่อนได้โหม่งแต่คราวนี้ ชวาร์เซอร์ ใช้เท้าสกัดทิ้งออกไปได้หวุดหวิด

การต่อเวลาพิเศษในครึ่งหลัง ฮิดดิ้งก์ มีการแก้เกมให้เจ้าถิ่นเช่นกันส่ง โจซิป สโกโก้ ลงไปแทนเอเมอร์ตัน ที่ล้าลงไปและก็เกือบได้ผลทันเมื่อ มิดฟิลด์ที่ไปค้าแข้งในลีกเติร์กได้จังหวะยิงจังๆ ในเขตโทษแต่ก็เป็นคารินี่ ที่ปัดป้องไว้ได้อีกครั้งและผลใน 120 นาที สกอร์รวมยังกินกันไม่ลงเช่นเดิมทำให้ต้องตัดสินถึงฎีกาดวลลูกที่จุดโทษ

แต่เป็นฝ่ายออสเตรเลียที่ได้เฮคว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายที่เยอรมันเมื่อเอาชนะไปได้ 4-2 โดยพวกเขายิงเข้าไปถึง 4 คน พลาดเพียงคนเดียวเท่านั้นคือ วิดูก้า ส่วนอุรุกวัย ซึ่งเป็นฝ่ายยิงทีหลังพลาดไปถึง 2 คน โดยโรดริเกซ และซาลาเยต้า ยิงไปติดเซฟชวาร์เซอร์ ทำให้ต้องน้ำตาตกในอดไปฟุตบอลโลก

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ออสเตรเลีย : มาร์ค ชวาร์เซอร์ , ลูคัส นีลล์ , โทนี่ โปโปวิช , โทนี่ วิดมาร์ , เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน , มาร์ค เบรสชาโน่ , สก็อตต์ ชิปเปอร์ฟิลด์ , ทิม เคฮิลล์ , วินเชนโซ่ เกรลล่า , เจสัน คูลิน่า , มาร์ค วิดูก้า

อุรุกวัย : ฟาเบียน คารินี่ , คาร์ลอส ดิโอโก้ , ดีเอโก้ ลูกาโน่ , เปาโล มอนเตโร่ , ดาริโอ โรดริเกซ , กุสตาโว่ บาเรล่า , ปาโบล การ์เซีย , กิเยร์โม่ โรดริเกซ , มาริโอ เรเกโร่ , อัลวาโร่ เรโคบา , ริชาร์ด โมราเลส