ฮือฮา!พรีเมียร์ลีกเตะนอกประเทศ

ฮือฮา!พรีเมียร์ลีกเตะนอกประเทศ

ฮือฮา!พรีเมียร์ลีกเตะนอกประเทศ
10คู่แยกย้ายเตะนับแต้มลุ้นแชมป์


พรีเมียร์ลีกโลภจัดหลังคลอดแผนเอาแมทช์ไปเตะนอกอังกฤษโดยมีผลแพ้ชนะจะนับมานับในอันดับตารางด้วยโดย20 สโมสรมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบกับไอเดียนี้เรียบร้อยแล้ว

ไอเดียดังกล่าว ก็คือการนำสองทีมในพรีเมียร์ลีก ไปเตะในเกมทางการ ตามเมืองต่างๆทั่วโลก ซึ่งแตกต่างจากพรีเมียร์ โทรฟี่ ที่เคยจัดในไทย,มาเลเซีย และฮ่องกง หรือนัดกระชับมิตรต่างๆที่ไม่มีความหมายอะไร โดยเกมทั้งหมดจะเน้นไปที่ เมืองใหญ่ในเอเชียตะวันออก, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้,ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา

ซึ่งลักษณะของการแข่งขัน จะถูกจัดขึ้นในสัปดาห์เดียว ของเดือนมกราคมในซีซัน 2010/11 โดยจะมี 10 คู่ และแต่ละคู่ก็จะกระจายไปตามเมืองต่างๆดังกล่าว

แนวคิดอันนี้ เกิดขึ้นเพื่อกระตุ้นความสนใจของพรีเมียร์ลีกให้กระจายไปทั่วโลก และจะมีการแบ่งค่าลิขสิทธิ์ทางโทรทัศน์ ให้กับ 20 สโมสรอย่างเท่าๆกัน

มีเสียงเรียกร้องออกมาว่า ถ้ามีการสุ่มเลือกแมตช์ ในแมตช์หนึ่งใน 38 เกมออกมา จะทำให้บางทีมเสียประโยชน์ เพราะจะไม่ได้เล่นในบ้านของตัวเอง ซึ่งทางพรีเมียร์ลีก ก็ยังพิจารณาอยู่ว่า จะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี ระหว่างเจรจากับทั้ง 20 สโมสร แล้วเลือกแมตช์ใดแมตช์หนึ่งใน 38 นัด หรือว่า จะเลือกเป็นเกมที่ 39 โดยใช้การแรนดอม สุ่มทีมที่จะลงปะทะกันเอา

แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็จะเป็นเกมทางการทั้งสิ้น ที่มีผลถึงอันดับในตารางคะแนนเมื่อจบฤดูกาล

โดยทางริชาร์ด สคิวดามอร์ ผู้บริหารของพรีเมียร์ลีกก็ออกมาให้คอมเมนต์ในเรื่องนี้ว่า การออกไปแข่งขันตามเมืองต่างๆทั่วโลก เป็นการประชาสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว

เราต้องการให้แฟนๆทั่วโลกได้เห็นถึงเกมการแข่งขันที่สู้กันแบบเต็มร้อยของทีมในลีก ซึ่งย่อมแตกต่างแน่นอน กับเกมกระชับมิตร

ทางพรีเมียร์ลีกมองเห็นว่า นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะตอกย้ำถึงความเป็นแบรนด์ระดับโลกของพรีเมียร์ลีก ซึ่งไม่มีลีกไหนในโลก สามารถทำแบบนี้ได้แน่นอน

อนึ่ง แนวคิดลักษณะนี้ของพรีเมียร์ลีก มีความคล้ายคลึงกับอเมริกันฟุตบอล NFL ที่ในซีซันที่แล้ว ทีมนิวยอร์ก ไจแอนท์ส มาแข่งในเกมทางการกับไมอามี ดอลฟินส์ ที่สนามเวมบลีย์ แต่ทว่าในเคสนี้นับว่าใหญ่กว่ามาก เพราะทั้ง 20 ทีมในพรีเมียร์ลีก จะลงแข่งพร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน แต่จะกระจายไปคนละเมือง


ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีจากซ๊อคเกอร์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์