Always กู!โอ้กดเบิ้ลโชว์มิลานซิวปาแลร์โม่ 2-0

Always กู!โอ้กดเบิ้ลโชว์มิลานซิวปาแลร์โม่ 2-0 

ยิงได้ยิงดีสำหรับชายคนนี้ มาริโอ บาโลเตลลี่กลายเป็นฮีโร่ของทีมอีกแล้วจัดการเหมาสองลูกเป็นประตูที่ 7 จาก 6 เกมและช่วยพาให้เอซี มิลานเอาชนะปาแลร์โม่ไปได้ 2-0 แต่ช่องว่างกับนาโปลีรองจ่าฝูงยังคงห่าง 2 แต้มเท่าเดิมทำให้อยู่อันดับ 3 ตามเดิม 

ฟุตบอลเซเรีย อา อิตาลี 

สนาม : ซาน ซิโร่ 

วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2556 

เอซี มิลาน 2:0 ปาแลร์โม่ 

ประตู : 1-0 บาโลเตลลี่(จุดโทษ) น.8, 2-0 บาโลเตลลี่ น.65 

 
คลิปไฮไลท์ กัลโช่ เซเรีย อา เอซี มิลาน 2-0 ปาแลร์โม่ 

ครึ่งแรก 

แต่หัววัน!โอ้ซัดโทษมิลานออกนำ 
เริ่มเกมมา 8 นาที"รอสโซเนรี่"ก็ได้ออกนำไปก่อนเลยจากจังหวะเตะมุมที่บาโลเตลลี่โดนอโรนิก้าดึงล้มลงเป็นจุดโทษจากกรรมการ ก่อนจะเป็นเจ้าตัวลุกขึ้นมารับหน้าที่ยิงเข้าเสาซ้ายมือซอร์เรนติโน่พุ่งไม่ทัน มิลานออกนำไปเรียบร้อยแล้ว 1-0 

บาโลฯได้โอกาสสับไกอีกแล้วข้ามคาน 
หลังจากนั้นเกมก็ดูคึกกันกว่าช่วงต้นเกม หนนี้มิลานได้ลุ้นอีกแล้วเป็นบอลมาฝากให้กับบาโลเตลลี่หน้าเขตโทษโดนบังไว้แต่ยังยึกยักจนได้โอกาสสับไกสุดท้ายส่งบอลลอยข้ามคานออกหลังไปพอสมควร 

หนูเอลหลุดมายิงเจอตัวบล็อก 
โอกาสเกือบได้ประตูที่สองมาอีกแล้วจาบอลที่ทิ้งมาทางขวาให้บัวเต็งก่อนจะเปิดไปสุดริมเส้นซ้ายที่มีมุนตารี่เติมมาแล้วฝากต่อเข้าเขตโทษให้กับเอล ชาราวี่พริ้วหลบตัวประกบได้แล้วจัดการสับไกทันทีแต่ยังเจอตัวมาช่วยบล็อกออกหลังไปได้ก่อน 

มอนโตลิโว่ยิงไกลบ้างหลุดเสา 
จังหวะโต้กลับขึ้นมาของปาแลร์โม่เองก็มีเหมือนกันแต่ไม่ได้ลุ้นจริงจังเท่าไหร่ ส่วนของมิลานยังมาเรื่อยกับโอกาสง้างไก คราวนี้เป็นมอนโตลิโว่บ้างได้บอลหน้าเขตโทษเยื้องมาทางขวาตัดสินใจยิงเลยบอลไปหลุดเสาไกลออกหลัง 

อับเบียติพุ่งเซฟลูกยิงปาแลร์โม่ 
นาที 38 มีจังหวะที่ปาแลร์โม่ทำให้อับเบียติต้องออกแรงจากการพาบอลขึ้นมาของมอร์กาเนลล่าจนถึงหน้าเขตโทษแล้วทำชิ่งกับอิลิซิชตัดเข้าในมาแล้วสับไกยิงเรียดมาเสาแรกแต่อับเบียติยังพุ่งมาเซฟเอาไว้ได้อยู่

ท้ายครึ่งมิลานยังได้ลุ้นแต่ไม่มีเพิ่ม 
ก่อนหมดครึ่งแรกก็ยังมีโอกาสได้ลองอีกครั้งจากการซัดไกลของมอนโตลิโว่แต่ก็ไม่ได้ทำอันตรายซอร์เรนติโน่อะไรมากทำให้จบครึ่งแรกเจ้าบ้านนำอยู่ 1-0 

ครึ่งหลัง 

อิลิซิชยิงแฉลบแต่อับเบียติยังเซฟทัน 
ครึ่งหลังกลับมาเกมก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนักแต่โอกาสได้หวาดเสียวกลับเป็นของปาแลร์โม่ก่อนจากอิลิซิชที่เลี้ยงผ่านเด ชีโญมาก่อนจะตัดสินใจยิงเลย บอลไปแฉลบซาปาต้าทำเอาอับเบียติมีหลงทางไปหน่อยแต่ยังวกกลับมาเซฟได้ทัน 

อับเบียติช่วยอีกแล้วเซฟด้วยขา 
นาที 54 เกือบมีลูกตีเสมอของปาแลร์โม่อีกแล้วจากอิลิซิชไปตัดบอลได้จากเด ชีโญก่อนพาเข้าในแล้วบอลมันไปแฉลบเข้าทางดีบาล่าในเขตโทษได้หลุดไปมุมแคบสับไกเน้นๆแต่ยังเจออับเบียติเซฟเอาไว้ด้วยขาได้อีก 

แจกโชค!หลังปาแลร์โม่พลาดโอ้เก็บตกลูกสอง 
หลังปาแลร์โม่บุกกดดันได้อยู่นานสุดท้ายดันมาทำพลาดกันเองส่งให้เจ้าบ้านได้ประตูเพิ่มจากจังหวะที่เนียงกระชากเข้าหาเขตโทษทางซ้ายแล้วเปิดเรียดอัดไปเสาแรก อโรนิก้าพยายามพุ่งเข้ามาสกัดเปลี่ยนทางดันกลายเป็นพุ่งเข้าหาตัวของซอร์เรนติโน่ก่อนบอลไม่ไปไหนเจอบาโลเตลลี่วิ่งมาอัดบอลหายเข้าประตูเต็มข้อ มิลานนำห่างเป็น 2-0 เรียบร้อย 

เนียงได้ส่องบ้างยังห่างไกล 
เข้าช่วง 15 นาทีสุดท้ายแล้วมิลานตอนนี้เปลี่ยนมาเน้นรอสวนกลับลูกเดียวเปิดช่องให้ปาแลร์โม่ได้บุก แต่ก็ยังไม่มีประตูเพิ่มจังหวะยิงก็มีแค่ของเนียงได้สับไกจากหน้าเขตโทษแต่บอลก็หลุดกรอบไปแบบไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่ 

มิลานต่อบอลปิดเกมแล้ว 
เข้าท้ายเกมมิลานก็ไม่เร่งแล้วจริงๆเน้นเคาะบอลไปมาขึ้นหน้าไม่ได้ก็ลงไปต่อบอลกันในแนวรับหรือไม่ก็ฝากไปให้กับอับเบียติเลย บาโลเตลลี่มีจังหวะจะลักไก่ยิงจากครึ่งสนามด้วยแต่ก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับประตูเลย 

โอ้ยิงฟรีคิกส่งท้ายก็ยังไม่เข้าเป้า 
ทดเจ็บบาโลเตลลี่มีโอกาสจะได้แฮตทริกด้วยจากฟรีคิกริมกรอบเขตโทษทางขวาเจ้าตัวรับหน้าทีเองแล้วตัดสินใจยิงเข้ามาเลยแต่บอลก็ข้ามคานออกหลังไป 

จบเกมมิลานก็เอาชนะปาแลร์โม่ไป 2-0 เป็นชัยชนะนัดที่ 3 ต่อเนื่องของพวกเขาและทำให้ยังรักษาระยะห่างกับนาโปลีเอาไว้ได้ที่ 2 คะแนนรวมถึงห่างจากฟิออเรนติน่าทีมที่ไล่มาอยู่ 3 แต้ม ส่วนปาแลร์โม่นอนจมบ๊วยตารางต่อไปเหมือนเดิม 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

เอซี มิลาน : คริสเตียน อับเบียติ, มัตเตีย เด ชีโญ, คริสเตียน ซาปาต้า, อิกนาซิโอ อบาเต้, ดานิเอเล่ โบเนร่า, ซัลเลย์ มุนตารี่, มาติเยอ ฟลามินี่, ริคาร์โด้ มอนโตลิโว่, เควิน-ปรินซ์ บัวเต็ง (ตราโอเร่ น.82), มาริโอ บาโลเตลลี่, สเตฟาน เอล ชาราวี่ (เนียง น.57) 

ปาแลร์โม่ : สเตฟาโน่ ซอร์เรนติโน่, ซัลวาตอเร่ อโรนิก้า, เอเซเกล มุนญอส, สตีเฟ่น ฟอน เบร์เก้น, เอกิดิโอ อาเรวาโล่, มัสซิโม่ โดนาติ (วิโอล่า น.82), จัสมิน คูร์ติช (ฟาบบรินี่ น.70), ซานติอาโก้ การ์เซีย (เนลสัน น.45), มิเชล มอร์กาเนลล่า, เปาโล ดีบาล่า, โจซิป อิลิซิช