หลังคุยฟุ้งมาทั้งสัปดาห์ทั้งเจ้านายและลูกน้องล่าสุดหงส์แดงลิเวอร์พูลบุกมาแพ้เซาแธมป์ตันแบบสู้ไม่ได้ 3-1 หล่นมาอยู่ที่ 7 โอกาสไปแชมเปี้ยนส์ลีกเลยน้อยเต็มทนส่วนนักบุญขยับหนีโซนตกชั้นออกไปเป็น 7 แต้มแล้ว
พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2556
เซาแธมป์ตัน 3-1 ลิเวอร์พูล
สนาม : เซนต์ แมร์รี่
ประตู : 1-0 มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน น. 6, 2-0 ริคกี้ แลมเบิร์ต น. 33, 2-1 ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ น. 45+1, 3-1 เจย์ โรดริเกซ น. 80
นักบุญฟอร์มไม่ค่อยดีชนะแค่ 1 จาก 8 นัดหลังสุดแต่นัดสุดท้ายที่คว้า 3 แต้มได้คือการถลุงทีมหัวตารางอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1
เกมนี้ปอเช็ตติโน่ส่งขุนพลชุดใหญ่ลงสนามเต็มอัตราศึกมีรามิเรซกับลัลลาน่าคอยทำเกมตรงกลางสนามส่วนศูนย์หน้าเป็นหน้าที่ของแลมเบิร์ตกับโรดริเกซที่กำลังฟอร์มแรง
ด้านทีมเยือนชนะในพรีเมียร์ลีกมา 3 นัดรวดมีความหวังไล่ล่าอันดับ 4 อยู่เหมือนกันแต่เกมนี้เรน่ายังไม่สามารถเรียกความฟิตกลับมาได้ทำให้โจนส์ได้ลงเฝ้าเสาต่อไป
กองหลังคาร์ราเกอร์หายไปโดยมีสเคอร์เทลลงมาจับคู่กับแอ็กเกอร์แทนส่วนแบ็คยังเป็นเอ็นริเก้กับจอห์นสันเหมือนเดิม
กองกลางวันนี้ลูคัสเป็นแค่ตัวสำรองโดยอัลเลนที่มีข่าวว่าจะเข้ารับการผ่าตัดหัวไหล่ลงมาคุมเกมกลางสนามกับเจอร์ราร์ดส่วนปีกด้านข้างเป็นดาวนิ่งและคูตินโญ่ที่ฟอร์มดีทั้งคู่
ส่วนกองหน้าวันนี้สเตอร์ริดจ์กลับมามีชื่อลงสนามคู่กับซัวเรซที่กำลังเข้าฝักยิงไปแล้ว 22 ประตูในพรีเมียร์ลีก
ครึ่งแรก
เจ้าบ้านส่องก่อนได้แค่เสียว
โอกาสยิงจังหวะแรกเป็นของเจ้าบ้านในนาทีที่ 5 เมื่อชอว์หลอกล่อจอห์นสันอยู่ตรงริมเส้นด้านซ้ายก่อนเปิดเร็วมาตรงบริเวณจุดโทษแกสตัน รามิเรซวิ่งกลับหลังมาเอี้ยวตัววอลเล่ย์แต่บอลก็ไม่พ้นมือของโจนส์
ง่ายเกิน...นักบุญเปิดหัวนำก่อนเลย
ถัดมานาทีเดียวนักบุญออกนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะโต้กลับเมื่อรามิเรซเปิดบอลให้โรดริเกซได้โขกตั้งในกรอบเขตโทษด้านขวาบอลลอยมาตกใส่เท้าของชไนเดอร์ลินที่วิ่งตัดหน้าสเคอร์เทลเข้ามาจิ้มเล่นทางไปทางเสาไกลทำให้โจนส์หมดสิทธิ์ป้องกัน
หลังเหวอะ!แลมเบิร์ตหลุดเดี่ยวยิงไม่ได้
กองหลังหงส์แดงทำป่วนอีกแล้วเมื่อจอห์นสันเช็คล้ำหน้าพลาดปล่อยให้แลมเบิร์ตหลุดเข้าไปล่อเป้าโจนส์แบบเดี่ยวๆแต่จังหวะยิงพยายามจะลอดขามือกาวออสซี่ทว่าไม่พ้นทำให้โอกาสทองหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย
นักบุญกดมิดหงส์ไม่ได้ลืมตาเลย
ผ่านพ้นไป 15 นาทีเซาแธมป์ตันยังตั้งหน้าตั้งตาบุกต่อเนื่องเรียกว่าหงส์แดงแทบครองเกมไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวและเป็นรามิเรซที่เก็บตกได้หน้าปากเขตโทษก่อนกดด้วยซ้ายข้างถนัดแต่โจนส์ยังรับเข้าซองไว้
ถัดมาอีกไม่กี่นาทีนักบุญได้ยิงอีกแล้วจากจังหวะซัดเลียดของโรดริเกซตะบันกว่า 30 หลาโจนส์รับจังหวะแรกไม่อยู่แต่ตามมาตะครุบเอาไว้ได้
นักบุญโหดจริงเกือบได้อีกแล้ว
เจ้าบ้านไม่ได้ประตูอย่างน่าเขกหัวตัวเองเมื่อลัลลาน่าได้บอลหลุดไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนตวัดยิงแต่ไปติดมือโจนส์กระดอนมาถึงโรดริเกซกลับหลังตวัดยิงทว่าบอลเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 25 หงส์เพิ่งได้ลุ้น
โอกาสลุ้นครั้งแรกของทีมเยือนมาจากจังหวะโยนจากริมเส้นด้านซ้ายของเอ็นริเก้บอลเลยซัวเรซกำลังจะถึงสเตอร์ริดจ์แต่ชอว์เข้ามาปาดหน้าสกัดเอาไว้ได้เสียก่อนในนาทีที่ 25
หลังจากนั้นสเตอร์ริดจ์รับบอลหลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษด้านขวาทว่าโดนไลน์แมนยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าไปแล้วทั้งที่ไม่น่าจะล้ำ
โดนอีก!แลมเบิร์ตอัดฟรีคิกแฉลบเข้าเฉย
เจ้าบ้านมาขึ้นนำอีกจนได้จากจังหวะฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษระยะราว 25 หลาแลมเบิร์ตอาสายิงเองบอลไปแฉลบหริดที่ยืนเป็นกำแพงแต่ดันกระโดดหันหลังก่อนเปลี่ยนทางไปเข้าทางเสาขวามือขณะที่โจนส์หลงทางไปแล้วกลับมาไม่ทัน
เหนื่อยใจ...หัวขิงพลาดโรดริเกซยิงไม่เข้า
นาทีที่ 39 เจอร์ราร์ดเปิดเกมพลาดบอลไปติดรามิเรซที่จ่ายต่อมาให้โรดริเกซจับบอลลงหนึ่งจังหวะแต่มีสเคอร์เทลเบียดอยู่ทำให้เขายิงไม่ถนัดบอลหลุดออกเสาซ้ายมือไปนิดเดียวเท่านั้น
คูตินโญ่หลุดเดียวยิงไม่ได้!
ทีมเยือนมาพลาดโอกาสทองบ้างเมื่อจอห์นสันกระดกบอลให้คูตินโญ่หลุดเดี่ยวไปดวลกับโบรุคแบบโล่งๆ ทว่าจังหวะยิงไปติดบล็อคของนายด่านโปแลนด์ชนิดเจ้าตัวต้องกุมหัวทีเดียว
เอาจนได้...หงส์ตีตื้นคูตินโญ่ซ้ำหน้าประตู
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บหงส์แดงมาได้ประตูสำคัญจริงๆจากจังหวะที่ซัวเรซขยับลงมาเปิดบอลกลางสนามฝั่งขวาไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายให้เจอร์ราร์ดโหม่งตั้งกลับมาบอลเลยมาถึงสเตอร์ริดจ์หมุนตัวยิงบอลไปติดบล็อคฟอนเต้กระดอนไปเข้าทางคูตินโญ่ยิงเหน่งๆไม่มีพลาดเป็นประตูที่ 2 ของเขาในสีเสือแดงเพลิง
ครึ่งหลัง
ปรับเกม...ลูคัสคุมกลางแทนอัลเลน
เปิดเกมครึ่งหลังเบรนแดน ร็อดเจอร์สทนเห็นกองกลางของตัวเองโดนโขกสับอยู่ฝ่ายเดียวไม่ไหวต้องส่งลูคัสลงมาตัดเกมแทนอัลเลนที่วันนี้แทบเล่นไม่ออกทันที
หริดได้ยิงน่าผิดหวัง
ผ่านมา 10 นาทีเจอร์ราร์ดเตะมุมจากริมเส้นด้านซ้ายโดนเคลียร์ทิ้งออกมาบอลเข้าทางเขาอีกครั้งก่อนหลอกไปเปิดด้วยซ้ายสุดเส้นหลังบอลยาวไปถึงสเตอร์ริดจ์ที่จับบอลได้ก่อนยิงไม่ดีบอลหลุดออกหลังไป
เกือบไป...เหยินเกี่ยวไม่ติดไม่งั้นมีเรื่อง
ต้องชมลูคัสเลยในจังหวะนี้เมื่อเปิดบอลทะลุช่องตรงกลางสนามบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วแต่ซัวเรซพยายามเหยียดบอลไปแต่ไม่ถึงบอลเลยไปเข้ามือของโบรุคที่ออกมารับนอกเส้นได้ทันเวลา
เหยินส่องฟรีคิกโบรุครับสบาย
เกมของหงส์แดงมีลุ้นมากขึ้นเรื่อยๆนาทีที่ 65 หลุยส์ ซัวเรซลองปั่นฟรีคิกระยะไกล 35 หลาบอลโค้งข้ามกำแพงเข้ากรอบแต่ก็ไปเข้าซองของโบรุคที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี
ผลัดกันบุกเกือบได้ทั้งคู่
ก่อนหมดเวลา 15 นาทีหงส์แดงพยายามบุกหนักโดยเอ็นริเก้เปิดบอลเข้ากลางให้สเตอร์ริดจ์ได้ยิงตรงกลางแต่ไปติดบล็อคเจอร์ราร์ดวิ่งเข้ามาซัดอีกครั้งนอกกรอบเขตโทษทว่าบอลไปเข้ามือของโบรุค
ถัดมาไม่กี่นาทีเจ้าบ้านได้ลุ้นบ้างเมื่อลัลลาน่าได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนยิงไปติดตัวของโจนส์ที่พุ่งมาบล็อคสเคอร์เทลตามมาเคลียร์บอลออกไปได้
สมควรโดน...หงส์ปล่อยโรดริเกซลากครึ่งสนามไปยิง
เจ้าบ้านได้ประตูนำห่างจนได้จากจังหวะที่โรดริเกซลากบอลเดี่ยวจากวงกลมกลางสนามผ่านลูคัสแล้วหนีสเคอร์เทลเข้าไปยิงติดโจนส์ในจังหวะแรกก่อนตามซ้ำอีกทีไม่มีพลาดในนาทีที่ 80
ลุ้นไม่ขึ้นหงส์บุกไร้จังหวะยิง
ช่วง 10 นาทีสุดท้ายแม้ลิเวอร์พูลจะพยายามตั้งหน้าตั้งตาบุกแต่โอกาสยิงจะๆแทบไม่มีให้เห็นเลยตรงกันข้ามเมื่อเจ้าบ้านบุกขึ้นมาเรียกเสียงกองเชียร์ได้เป็นระยะ
โดยช่วงทดเวลาบาดเจ็บจอห์นสันลากบอลถึงสุดเส้นหลังก่อนโยนมาตรงเสาสองให้เอ็นริเก้เติมมายิงแต่ออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น
นักบุญสุดยอดทุบหงส์ห่างโซนตกชั้น 7 แต้ม
สุดท้ายนักบุญเก็บอีก 3 แต้มที่สุดล้ำค่าทำให้พวกเขาหนีห่างจากโซนตกชั้นเป็น 7 แต้มแล้วส่วนหงส์แดงดับความหวังชนะ 4 นัดรวดในรอบ 2 ปีพร้อมห่างไกลความหวังตีตั๋วไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลหน้าออกไปอีก
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
เซาแธมป์ตัน : อาร์เทอร์ โบรุค, นาธาเนียล ไคลน์, มายะ โยชิดะ, จอส ฮอยเวลด์ (โฆเซ่ ฟอนเต้ น. 32), ลุค ชอว์, มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน , เจย์ โรดริเกซ , แกสตัน รามิเรซ (สตีเฟ่น เดวิส น. 55), แจ็ค คอร์ค, อดัม ลัลลานา (กีเฮอร์เม่ โด ปราโด้ น. 84), ริคกี้ แลมเบิร์ต
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : เคลวิน เดวิส, เวการ์ด ฟอร์เรน, เจมส์ วอร์ด-พราวส์, เจสัน พันเชี่ยน
ลิเวอร์พูล : แบรด โจนส์, เกล็น จอห์นสัน, โฆเซ่ เอ็นริเก้, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ , สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, โจ อัลเลน (ลูคัส เลว่า น. 46), หลุยส์ ซัวเรซ , ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น. 84)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ปีเตอร์ กูลัคซี่, อังเดร วิสดอม, จอนโจ้ เชลวี่ย์, จอร์แดน อิเบ้, ซูโซ่