พลาดแล้วจะเสียใจ! ศึกชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จัดเต็มชุดใหญ่
ดวลเดือด “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ส่งดาวดังลงสนามครบถ้วย โดยทั้งสองทีมประกาศคว้าชัยเอาฤกษ์ก่อนฤดูกาลจะเปิดอย่างเป็นทางการ
การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก ประจำปี 2556 หรือปีที่ 97 "โค้ก แชร์ริตีชิลด์ 2013" วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ นี้ เป็นการพบกันระหว่าง "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์ ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา พบกับ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เตะที่สนามศุภชลาศัย เวลา 17.00 น. ถ่ายทอดสดทาง สทท.11 บัตรราคา 100, 200 และ 300 บาท
ความพร้อมของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะไม่มี "ตอง" กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูมือ 1 ที่บาดเจ็บยาว ทำให้ วีระ เกิดพุดซา นายทวารที่เพิ่งคว้ากลับมาจาก ทีโอที จะได้ลงเฝ้าเสาแทน ส่วนขุมกำลังอื่นๆ พร้อมลงสนามทั้งหมด
"ย็อคกา" สลาวิซา โยคาโนวิช กุนซือใหญ่ "กิเลนผยอง" เผยว่า “ผมทราบประวัติความเป็นมาของถ้วยใบนี้ มันยิ่งใหญ่มากและมีคุณค่าที่สุดซึ่งเกมนี้นักเตะทุกคนมีความกระหายที่จะลงสนามหลังจากที่ปิดฤดูกาลมานานร่วม 4 เดือน ขณะที่อาการบาดเจ็บของ กวิน ธรรมสัจจานันท์ อาจเป็นปัญหาไม่น้อย แต่ วีระ เกิดพุดซา สามารถทดแทนได้อย่างแน่นอน"
ด้าน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงไม่มี จักรพันธ์ แก้วพรม กองกลางตัวเก่งที่ยังคงไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ส่วน "กบ" สุเชาว์ นุชนุ่ม ตัวรุกกัปตันทีมต้องเช็คความฟิตแต่คาดว่าน่าจะมีชื่อเป็น 11 คนแรก
"โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม นายใหญ่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า “นักเตะที่บาดเจ็บเริ่มกลับมาหมดแล้วและคิดว่าเกมนี้จะได้นักตะชุดที่ดีที่สุดลงสนาม ซึ่งเราได้ลงเล่นเกมอย่างเป็นทางการมาแล้ว 2 นัด คือ เอเอฟซี แชมป์เปียนลีก รอบเพลย์ออฟ กับโตโยต้า พรีเมียร์ คัพ ทำให้นักเตะเริ่มมีความเข้าที่เข้าทาง และแน่นอนว่าตำแหน่งแชมป์เท่านั้นที่เราต้องการเพราะนี่คือถ้วยแชมป์ใบเดียวที่เรายังไม่เคยสัมผัส"
สำหรับ 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม เอสซีจี เมืองทองฯ ประกอบไปด้วย วีระ เกิดพุดซา, ปิยพล บรรเทา, ภานุพงษ์ วงศ์ษา, คิม ยู จิน, มงคล นามนวด, ดานโญ เซียกา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, จักรพันธ์ พรใส, มาริโอ ยูรอฟสกี, โรลันด์ ลินซ์, ธีรศิลป์ แดงดา
ด้าน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประกอบไปด้วย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, สุรีย์ สุขะ, ประทุม ชูทอง, ออสมาร์ อิบาเนซ, ธีราทร บุญมาทัน, อนาวิน จูจีน, สุรัตน์ สุขะ, ชาริล ชัปปุยส์, แอนโธนี อำไพพิทักษ์วงศ์, สุเชาว์ นุชนุ่ม, ไค ฮิราโนะ
เกมนี้หากยังเสมอในเวลาปกติ 90 นาที จะตัดสินหาผู้ชนะด้วยการดวลลูกโทษที่จุดโทษทันที โดยทั้งสองทีมสามารถส่งผู้เล่นได้ 25 คน โควตานักเตะต่างชาติ 3 คน เอเชีย 1 คน ส่วนผู้ตัดสินเป็นชาวเกาหลีใต้ทั้งหมด
สำหรับสถิติที่ทั้งสองทีมพบกันทั้งหมด 7 ครั้ง ปรากฎว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำได้ดีกว่าโดยไม่เคยแพ้ เอสซีจี เมืองทองฯ
ซึ่ง "ปราสาทสายฟ้า" ชนะ 3 เสมอ 4 ประกอบไปด้วย ไทยลีก 2010 เลกแรก เสมอ 0-0, เลกสอง บุรีรัมย์ ชนะ 1-0, ไทยลีก 2011 เลกแรก เสมอ 0-0, เลกสอง บุรีรัมย์ ชนะ 1-0, ชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ 2011 เสมอ 0-0 (บุรีรัมย์ ชนะต่อเวลา 1-0), ไทยลีก 2012 เลกแรก เสมอ 1-1, เลกสอง เสมอ 1-1
ssballthai
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
