ไก่10ตัวรั่ว!โด้เบิ้ลผี3-1ลิ่วรอบห้า
ไก่10ตัวรั่ว!โด้เบิ้ลผี3-1ลิ่วรอบห้า
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังเอาตัวรอดในถิ่นตัวเองอีกครั้งหลังทำเอาเร้ดอาร์มี่นั่งเสียวน้ำปริ่มจากประตูขึ้นนำของร็อบบี้ คีนแต่สุดท้ายแนวรับสเปอร์สมานัดกันพลาดไล่ตั้งแต่ลูกตีเสมอของเตเบซและสองประตูของโด้จิ๋วลงท้ายมอบตั๋วรอบห้าเอฟเอ คัพให้เด็กป๋าอย่างจำนน
แมนฯยูฯ 3-1 สเปอร์ส
ประตู : 0-1 คีน น.24,1-1 เตเบซ น.38,2-1 โรนัลโด้ (จุดโทษ) น.69,3-1 โรนัลโด้ น.88
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจัดทัพใหญ่ตามสูตรโดยยังใช้กองหน้าคนแคระเวย์น รูนี่ย์และคาร์ลอส เตเบซเช่นเดิมแต่มิดฟิลด์กลายเป็นตัวรับอย่างฮาร์กรีฟส์และคาร์ริคขัดใจแฟนนิดหน่อยในขณะที่ฆวนเด้ รามอสใช้ฮัดเดิลสตันยืนเซนเตอร์คู่ดอว์สันและหน้าคู่ยังเป็นเบอร์บาตอฟและร็อบบี้ คีนเช่นเดิม
เกมเปิดมาทั้งคู่ลุยใส่กันส่งสัญญาณว่าเกมนี้มันส์แน่นอนแต่นาทีที่ 4 ยูไนเต็ดเกือบขึ้นนำอย่างรวดเร็วหลังกิกส์หักตบด้วยอีขวาในกรอบให้เวย์น รูนี่ย์ยิงตามน้ำบอลถากหน้าต่างด้านข้างจนแฟนมุมด้านไกลนึกว่าตุงตาข่ายแล้ว
ไก่เดือยทองยังประครองเกมรับและมิดฟิลด์ช่วยกันเก็บบอลได้ดีส่วนยูไนเต็ดยังเครื่องไม่ร้อนมีจ่ายให้เสียบ้างประปราย
ปิศาจแดงพยายามจ่ายบอลขวางสนาม 2-3 ทีแต่ทุกครั้งถูกตัดได้หมดแต่เข้าถึงนาทีที่ 10 เจ้าถิ่นเริ่มครองบอลได้มากขึ้นเป็นเงาตามตัว
นาทีที่ 14 โรนัลโด้ทำหวาดเสียวหลังติดเครื่องยิงบอลบดกระเด้งพื้นนิดๆพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปแบบสุดเสียว
จากนั้นนาทีเดียวสเปอร์สได้เตะมุมเป็นเบอร์บาตอฟที่สบโอกาสโหม่งเช็ดเหน่งๆบอลกำลังจะตุงตาข่ายแต่รูนี่ย์ซึ่งยืนคุมเสาอยู่โหม่งทิ้งอย่างเหลือเชื่อ
บอลสเปอร์สเล่นทันฝั่งยูไนเต็ดชัดเจนโดยเฉพาะเบอร์บาตอฟที่ใช้การลงต่ำล้วงบอลตามถนัดช่วยให้เกมดูไม่เสียเปรียบเพราะเก็บบอลได้เรื่อยๆ
เกมเข้าสู่นาทีที่ 20 จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเริ่มพาบอลมานวดหน้ากรอบประตูสเปอร์สมากขึ้นโดยเกมมาเน้นทางปีกซ้ายของไรอัน กิกส์โดยมีคาร์ลอส เตเบซคอยมาลิงค์ร่วมเล่นด้วยและเกือบได้ลุ้นหลังแข้งพ่อลูกอ่อนยิงไกลนอกเขตแต่ติดบล็อกก่อน
แต่แล้วอีก 4 นาทีต่อมาแฟนบอลกว่า 5 หมื่นคนในโอลด์แทรฟฟอร์ดเงียบเป็นผีจับหัวหลังดอวร์สันวางยาวจากครึ่งวงกลมกลางสนามให้เลนอนเอาบอลลงทางปีกขวาก่อนลากจี้เข้าหาเอวร่าที่ถอยหลังกระดึ๊บๆไม่ย่อมเข้าเลยถูกปีกลมกรดกระชากตบบอลจากเส้นหลังให้ร็อบบี้ คีนที่สอดมาแปแค่ 2 หลาโดยที่ผู้เล่นยูไนเต็ดไม่ทันได้ตั้งตัวตุงตาข่ายไม่มีเหลือ
ยูไนเต็ดเริ่มลุยหนักจะเอาคืนแต่เหมือนโซนของฝั่งสเปอร์สก่อนเข้าเขตโทษคล้ายขนมชั้นยืนซ้อนๆกันเรียกว่าถ้าให้โรนัลโด้เลี้ยงฝ่าดงตีนเข้าไปอาจขี้แตกได้
นาที 31 ยูไนเต็ดเตะไปอัดกรรมการทำให้กลายเป็นเบอร์บาตอฟพาบอลสวนโดยใช้ความเยือกเย็นเลี้ยงหลบไปหนึ่งคนตรงกลางสนามก่อนแตะออกให้เลนนอนเลี้ยงจี้เข้าหาเวส บราว์นแต่ปีกจอมพลิ้วดันเร่งยิงบอลบดเลียดเข้ามือน้าเอ็ดสบายๆ
อีก 5 นาทียูไนเต็ดพลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดายหลังผู้เล่นสเปอร์สเทกันไปอยู่ตรงกลางกับฝั่งขวากรอบโทษกันหมดเลยทำให้กิกส์ยืนว่างทางขวาก่อนอัดเต็มด้วยอีซ้ายแต่ดันไม่เล่นมุมแสกหน้าเซอร์นี่ที่ยืนแขนปัดทิ้งเสียเตะมุม
อย่างไรก็ตามปิศาจแดงมาตีเสมอจากความผิดพลาดของไมเคิ่ล ดอว์สันที่ถอยหลังโหม่งเคลียร์ลูกบอมบ์เข้ามาไม่ดีบอลไม่ไปไหนลอยอยู่กลางอากาศทำให้กิกส์บังบอลลี ยอง เปียวและทำท่าจะดูดเอาลงแต่บอลลั่นซึ่งกลายเป็นดีเมื่อคาร์ลอส เตเบซวิ่งมาอัดด้วยอีซ้ายบอลทะลุผ่านทั้งแข้งโสมและเซอร์นี่แค่ 6 หลาเสียบหน้าต่างฝั่งไกลเข้าไปไม่มีเหลือ เสมอแล้ว 1-1
พอได้ลูกนี้ฝูงพลพรรคผีแดงอสูรเปิดหน้าใส่เต็มตัวจนผู้เล่นสเปอร์สช่วยกันเคลียร์ทิ้งอุตลุตและช่วงทดเจ็บกลายเป็นทีมเยือนได้เสียวทิ้งท้ายหลังมัลบรองก์ทะลุจากกลางสนามจังหวะสวนกลับให้จีนาสแข้งหน้าอินโดผ่ากลางหลุดเข้าไปยิงเลยกรอบโทษนิดนึงแต่ฟาน เดอร์ ซาร์พุ่งปัดปลายมือหวุดหวิด จากนั้นหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1 ชนิดสู้กันได้สนุกไม่น้อย
ครึ่งหลังเล่นมา 3 นาทียูไนเต็ดที่เปิดมาบุกใส่ทันทีก็เกือบโดนนำรอบสองหลังจังหวะสวนกลับเบอร์บาหมุนตัวพลิกบอลย้อนหลังก่อนแทงทะลุให้เลนนอนกระชากแซงปาทริซ เอวร่าเห็นๆก่อนไขว้ล็อกหลบตามสไตล์โด้จิ๋วจนพี่ติ๊กหลังหักและเสียหลักลงไปนอนหมดสภาพแต่อดีตปีกลีดส์ซึ่งจี้บอลเข้าเขตโทษโล่งๆชิพบอลข้ามหัวฟาน เดอร์ ซาร์แต่โด่งไปนิดบอลหล่นบนเพดานตาข่าย เรียกว่าร็อบบี้ คีนยกมือเสียดายอยู่เสาไกลโล่งๆ
นาที 54 เวส บราว์นไปหวดหน้าแข้งร็อบบี้ คีนหน้าเขตโทษดื้อๆและโอฮาร่ารับอาสาปั่นฟรีคิกบอลโค้งอ้อมกำแพงจนฟาน เดอร์ ซาร์พุ่งผวาเป็นยีราฟมาที่เสาก่อนวัดระยะแล้วปล่อยมือให้ออกหลังนิดเดียว
แต่อีกนาทีเดียวต่อมาสเปอร์สพลาดโอกาสขึ้นนำอีกครั้งเมื่อร็อบบี้ คีนกระดกบอลให้จีนาสหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับฟาน เดอร์ ซาร์แต่แข้งหน้าอินโดดันเอี้ยวตัวแปบอลแป๊กออกหลังแบบไม่มีลุ้นซะงั้น
โดนลบเหลี่ยมแบบนี้ยูไนเต็ดไม่มียอมอยู่แล้วบุกใส่ทันทีและนาที 59 จากจังหวะที่เตเบซพลิกบอลสวยตรงระยะ 40 หลาก่อนวางบอลย้อยตัดช่องให้โด้จิ๋ววิ่งตีคู่ทะลุเข้าเขตโทษก่อนซัดเต็มๆหลอกเซอร์นี่ที่เสาแรกแต่บอลเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
ตอนนี้เกมเป็นของเจ้าถิ่นหมดแล้วเพราะสเปอร์สลงมารับต่ำและแนวรุกก็แทบไม่มีบอลสวนกลับจึงไม่ค่อยอันตรายเหมือนครึ่งแรกเลย
นาที 63 ป๋าส่งพอล สโคลส์ลงสนามหลังหายหน้าหายตาไปนานแทนคาร์ริคที่วันนี้เงียบสุดๆเรียกเสียงปรบมือลั่นโอลด์แทรฟฟอร์ด
แต่อีก 5 นาทีต่อมาสเปอร์สจบเห่จนได้และเป็นไมเคิ่ล ดอว์สันอีกครั้งที่ทำพลาดจากการกระโดดขึ้นโหม่งลูกบอมบ์ยาวไม่ดีทำให้รูนี่ย์ดูดเอาลงแต่กองหลังจอมเหวอทุ่มเฮือกสุดท้ายตอนที่กำลังจะล้มเอามือปัดบอลเฉี่ยวๆจนหมูพลิ้วยิงไม่ได้และผู้ตัดสินไม่รอช้าชูใบแดงไล่ออกก่อนที่โรนัลโด้จะขยับหลอกยิงจุดโทษสไตล์ฟิโก้และแปเข้ามุมซ้ายมือตัวเองตามถนัด คราวนี้ป้ายโฆษาไนกี้ด้านหลังประตูนิ่งไม่มีขยับ
พอเหลือ 10 ตัวเกมกร่อยเป็นน้ำปะปาหน้าบ้านทันทีเนื่องจากรามอสจำใจเปลี่ยนเอาตัวจี๊ดอย่างเลนนอนออกและโอกาสตีเสมอของสเปอร์สน้อยเข้าไปทุกทีแล้ว
แต่ก่อนหมดเวลา 5 นาทีสเปอร์สน่าจะตีเสมอได้สุดหลังมัลบร็องก์ปั่นไซด์โค้งหน้ากรอบโทษให้เบอร์บาที่เบียดสกรีนเอาชนะเวส บราว์นก่อนฝ่ายหลังแหย่ขาสกัดบอลเปลี่ยนทางชนเสาเกือบเข้าประตูตัวเองนิดเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามยูไนเต็ดมาได้ประตูสุดเฮงอีกครั้งโรนัลโด้เลี้ยงจี้เข้าหาโอฮาร่าหน้าเขตโทษก่อนตัดเข้าในแล้วซัดด้วยอีขวาเต็มๆบอลแฉลบฮัดเดิลสตันนิดนึงแต่ก็เซอร์นี่เหวอสุดๆเมื่อล้มตัวรับง่ายๆบอลลอดแขนค่อยๆกลิ้งเข้าไปอย่างน่าอนาถ ยูไนเต็ดชนะชัวร์ๆ 3-1
จากนั้นเวลาที่เหลือยูไนเต็ดแอบมาทำเสียวหน้าเขตโทษสเปอร์ส 2-3 ทีแต่ทำอะไรเพิ่มไม่ได้จบเกมเอาชนะนิ่มๆ 3-1 ก่อนไปลุ้นจับฉลากรอบ 5 ต่อในวันจันทร์นี้
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนฯยูฯ : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 7,จอห์น โอเชีย 6,ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7,เวส บราว์น 5,ปาทริซ เอวร่า 5(ซิมพ์สัน น.90),คริสติอาโน่ โรนัลโด้ 8,ไมเคิ่ล คาร์ริค(สโคลส์ น.64,5),โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ 7,ไรอัน กิกส์ 7,เวย์น รูนี่ย์ 8*,คาร์ลอส เตเบซ 7(อันแดร์สัน น.81)
สเปอร์ส : ราเด็ค เซอร์นี่ 5,ทีมู ไทนีโอ 6(เดโฟ น.81),ไมเคิ่ล ดอว์สัน 4,ทอม ฮัดเดิลสตัน 7,ลี ยอง เปียว 5(กุนเทอร์ น.59,5),อารอน เลนนอน 7(บัวเต็ง น.72,5),เจมี่ โอฮาร่า 7,เจอร์เมน จีนาส 6,สตีด มัลบร็องก์ 7,ร็อบบี้ คีน 7,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 7
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีจากซ๊อคเกอร์