แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมเปิดรังข่ม สโต๊ค ในศึกพรีเมียร์ลีก คืนวันเสาร์ที่ 20 ต.ค. ขณะที่ เชลซี ปึ้กบุก สเปอร์ส ด้าน อาร์เซนอล สถิติหรูบุก นอริช
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 20 ตุลาคมนี้ มีเตะ 8 คู่ เกมที่น่าสนใจอยู่ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมรองจ่าฝูงที่แข่ง 7 นัด มี 15 แต้ม มีคิวเปิดบ้านเจอ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ทีมอันดับ 12 แข่ง 7 นัด มี 8 แต้ม เวลา 21.00 น. เกมนี้ "เฟอร์กี้" เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือเจ้าถิ่นไม่มีปัญหาเรื่องนักเตะตัวหลัก แถมมีลุ้นได้ตัว คริส สมอลลิง กลับมายืนคุมแนวรับอีกด้วย เช่นเดียวกับ แอชลีย์ ยัง กองหน้าที่หายจากการบาดเจ็บ คาดว่า สมอลลิง จะมายืนคุมหลังร่วมกับ ริโอ เฟอร์ดินานด์, ราฟาเอล และปาทริซ เอวรา ขณะที่ เวย์น รูนีย์ น่าจะถูกขยับให้ถอยลงไปเล่นในแดนกลางร่วมกับ ไมเคิล คาร์ริค, ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ และชินจิ คางาวะ เหมือนเดิม เพื่อเปิดทางให้ แดนนี เวลเบ็ค ได้ยืนจับคู่ล่าตาข่ายร่วมกับ "อาร์วีพี" โรบิน ฟาน เพอร์ซี
ฝั่งทีมเยือนของ โทนี พูลิส แม้จะใช้งานแข้งหลักได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น อาเมียร์ เบโกวิช, ไรอัน ชอว์คอรสส์, แมทธิว เอเธอริงตัน. ชาร์ลี อดัม และ ปีเตอร์ เคราช์ แต่กลับต้องเป็นรองในเรื่องสถิติ เพราะสโต๊ค ไม่เคยบุกไปชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด มานานถึง 36 ปี นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่เคยบุกไปชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1 ในศึกดิวิชั่น 1 (เดิม) เมื่อปี 1976
ด้าน "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทีมจ่าฝูง แข่ง 7 นัด มี 19 แต้ม
เตรียมศึกแห่งศักดิ์ศรี "ลอนดอนดาร์บี้แมทช์" ด้วยการยกพลออกไปเยือน "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ที่สนามไวท์ ฮาร์ท เลน เวลา 18.45 น. นัดนี้ "อาร์ดีเอ็ม" โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ กุนซือทีมเยือนยังต้องรอความฟิตของแข้งหลักอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด อีกครั้ง เพราะมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนมาจากเกมที่เพิ่งเดินทางไปรับใช้ทีมชาติอังกฤษ แต่คาดว่า ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, รามิเรส, เอเดน ฮาซาร์ด และเฟอร์นันโด ตอร์เรส น่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเหมือนเดิม เพื่อหวังลบอาถรรพณ์ที่ไม่เคยบุกไปเก็บชัยชนะเหนือเจ้าถิ่นมานานแล้วถึง 7 ปีแล้ว นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เคยบุกไปชนะคู่ปรับร่วมเมืองได้ถึง 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2005
ฝั่ง "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ทีมอันดับ 7 แข่ง 7 นัด มี 12 แต้ม
เตรียมบุกไปเยือน "นกขมิ้น" นอริช ทีมรองบ๊วยอันดับ 19 ที่ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น แข่ง 7 นัด มี 3 แต้ม ที่สนามคาร์โรว์ โรด เวลา 23.30 น. เกมนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือทีมเยือนยังคงพร้อมส่งแข้งหลักลงเล่นเป็นตัวจริงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น วีโต มานโนเน, โธมัส แฟร์มาเลน, มิเกล อาร์เตตา, ซานติ กาซอร์ลา และลูคัส โพโดลสกี แถมยังอาจตัดสินใจใส่ชื่อของ 2 แข้งดังที่หายหน้าหายตาไปนานแล้วอย่าง บาการี ซานญา และแจ็ค วิลเชียร์ เป็นตัวสำรองอีกด้วย เพราะทั้งคู่เพิ่งหายเจ็บนั่นเอง เพื่อสานต่อสถิติที่ไม่เคยบุกไปแพ้เจ้าถิ่นมานานแล้วถึง 28 ปีแล้ว นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่บุกไปแพ้ 0-1 ในศึกดิวิชั่น 1 (เดิม) เมื่อปี 1984
ส่วนโปรแกรมอีก 5 คู่ที่เหลือลงเตะในเวลา 21.00 น. ฟูแล่ม (9) พบ แอสตัน วิลล่า (16), ลิเวอร์พูล (14) พบ เรดดิง (18), สวอนซี (11) พบ วีแกน (15) เวสต์บรอมวิช (6) พบ แมนฯ ซิตี (3), เวสต์แฮม (8) พบ เซาแธมป์ตัน (17)
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
