เกมชิงจังหวะที่ปืนพลาดและผีแค่ 6-0 !!
เกมชิงจังหวะที่ปืนพลาดและผีแค่ 6-0 !!
พรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีอะไรน่าสนใจมากกว่าการเปลี่ยนมือจ่าฝูงขำๆจากอาร์เซนอลเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยผลต่างประตูได้เสีย
อย่างน้อยก็เป็นการประเดิมเสียนักเตะให้ศึกแอฟริกัน เนชั่น คัพนัดแรกที่ส่งสัญญาณไม่ดีสำหรับลูกทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ซักเท่าไหร่
แม้ว่าน้าเหี่ยวจะให้สัมภาษณ์แก้เก้อว่าการเสียประตูจากลูกคอร์เนอร์ของแกรี่ โอคอร์เนอร์ไม่กเกี่ยวอะไรกับการขาดโคโล่ ตูเร่เพราะจังหวะนั้นฟิลลิป เซนเดรอสตัวแทนก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกบใดๆ
แต่ end of the day การพลาดเพียงครั้งเดียวของแนวรับปืนใหญ่จากโอกาส 2 ครั้งตลอด 90 นาทีของเบอร์มิงแฮม
สิ่งที่บังเอิญมาประจวบเหมาะทำให้เกมนี้ยากหนักเข้าไปอีกคือการนัดกันฟอร์มหนืดของเหล่าผู้เล่นแนวรุกจนเวนเกอร์ต้องยอมรับว่านี่คือเกมที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่สุดในฤดูกาลนี้ของอาร์เซนอล
แต่ในเกมที่บอกว่าต่ำกว่ามาตรฐานเมื่อคืนวันเสาร์สถิติโอกาสยิงประตูของปืนใหญ่ก็ยังไม่ตกไปจากเดิม(17 ครั้ง) เพียงแต่ครั้งนี้ไม่มีปาฏิหารย์จากผู้เล่นคนใดคนหนึ่งเหมือนที่ผ่านๆมาอีก
อย่างไรก็ตามเราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเสียสองแต้มของอดีตจ่าฝูงเดี่ยวเป็นการพลาดหมูหกที่ต้องทดแทนด้วยชัยชนะนอกบ้านนัดต่อๆไปเหมือนอย่างในรายของเชลซีที่ช่วงปลายปีก่อนถูกฉกแต้มในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ไปเยอะจนมาเร่งเอาคืนนอกบ้านก่อนเป็นเจ้าbest away record
ยิ่งผ่านบททดสอบหลากหลายรูปแบบมากขึ้นเท่าไหร่ดูเหมือนอาฟรัม แกรนต์จะได้รับเครดิตและความน่าเชื่อถือจากทั้งสื่อและแฟนบอลมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต้องจัดทีมโดยไร้ผู้เล่นตัวหลักมากมายชนิดที่ว่าตอนโจเซ่ มูรินโญ่อยู่ยังไม่สาหัสเท่านี้มาก่อนแต่ผลงานที่ออกมากลายเป็นว่าเชลซีเก็บแต้มเต็มเม็ดเต็มหน่วยจะมีพลาดก็วันที่เสมอแอสตัน วิลล่าในถิ่น 4-4 นัดนั้นเท่านั้น
ผมเคยด่วนสรุปอนาคตของเชลซีในวันที่น้ามูถูกปลดและประเมินความเป็นมืออาชีพของนักฟุตบอลเมืองนอกโดยเฉพาะสโมสรจากอังกฤษเร็วเกินไป
การถูกแมนฯยูฯและอาร์เซนอลลอยแพในการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกของเชลซีเมื่อ 3 เดือนก่อนจากปัญหาที่รุมเร้าทั้งในและนอกสนามจนล่าสุดกลับมาตามหลังจ่าฝูงเหลือ 4 แต้มในระหว่างที่ไร้แข้งเทพนับไม่ถ้วนเป็นอะไรที่เหลือเชื่อจริงๆครับ
จะว่าไปแล้วเกมเมื่อวันเสาร์เชลซีไม่ได้เล่นดีกว่าสเปอร์สเท่าไหร่นักซ้ำร้ายช่วงต้นเกมต้องเป็นฝ่ายตั้งรับแต่จุดเปลี่ยนมาอยู่ที่ความผิดพลาดของผู้เล่นมิดฟิลด์ที่ไม่มีแม้แต่คนเดียวclose downชูลิโอ เบลเล็ตติที่ลากกินแดนขึ้นมาเกือบ 10 หลาจนเข้าระยะยิง
ที่แย่ไปกว่านั้นคือราเด็ค เซอร์นี่ดันจัดระเบียบมือไม่ดีปล่อยให้บอลทะลุจนแฟนเชลซีร้องเพลงแซวมึงอ่อนกว่าโรบินสันอีก!!
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องโทษการเข้าบอลของผู้เล่นสเปอร์สเป็นอันดับแรกในขณะที่ราเด็คไม่ถึงกับพลาดจนให้อภัยไม่ได้และในเมื่อร็อบโบ้ได้โอกาสแก้ตัวนับสิบครั้งเหตุการณ์นี้จึงไม่ใช่ประเด็นใหญ่โตมากนัก
สังเกตกันดีๆผมว่าเชลซีเป็นทีมที่น่ากลัวตรงที่มีตัวพร้อมยิงเกือบทุกตำแหน่ง วันไหนเกมรุกตื้อๆเดี๋ยวอเล็กซ์ก็กดเต็มเท้าหรือวันดีคืนดีแลมพาร์ดยิงแฉลบเข้าง่ายๆรวมถึงช่วงขาขึ้นของไอ้สั้นฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ที่เคยโชว์ลูกกรอกเกาะหลังเลสค็อตต์ต่อหน้าต่อตาคาเปลโล่จนกระทั่งมาโซ้ยลูกที่สามภายในวีคเดียว
แต่ไฮท์ไลท์ตลอดบ่ายวันเสาร์ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์คือการเปิดตัวนิโกลาส์ อเนลก้าหลังน้ำหมึกในเอกสารการย้ายทีม 15 ล้านปอนด์และค่าเหนื่อย 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เพิ่งแห้งมาหมาดๆ
นี่คือการเซ็นสัญญาที่สร้างขวัญกำลังใจต่อการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกของเชลซีอย่างที่สุดเพราะอย่างน้อยๆก็อุ่นใจได้ว่านิโก้สามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใดๆอีกยกเว้นอาจเป็นในเรื่องของสไตล์กับทีมใหม่เล็กน้อยแต่คาดว่าคงเป็นปัญหาขี้ๆหากพิจารณาถึงการพเนจรย้ายไปทั่ว 8 สโมสรและยิงระเบิดเกือบทุกที่
2 แอคชั่นยิงชนคานและซัดให้เซอร์นี่เซฟสุดปลายมือบอกเราได้ชัดเจนถึงคุณภาพของอเนลก้าทั้งๆที่ยังไม่ได้ซ้อมกับเพื่อนใหม่และแกรนต์ตั้งใจเอามานั่งสำรองเพื่อซึมซับบรรยากาศจนต้องจำใจส่งหลังเคลาดิโอ ปิซาร์โร่มาเจ็บในช่วงต้นครึ่งหลัง
การมาเพิ่มพาวเวอร์ในเกมรุกของอเนลก้าคือการเมคชัวร์ว่าเมื่อบรรดาตัวหลักจากแอฟริกัน เนชั่น คัพกลับมาเชลซียังคงรักษาเส้นทางลุ้นแชมป์ไม่ให้ห่างไปมากกว่านี้
ถึงเวลานั้นดร็อกบาจับคู่กับนิโก้โดยมีแฟร็งค์ แลมพาร์ด,ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์,โซโลมง คาลู,ฟลอร็องต์ มาลูด้าคอยทำเกมและจอห์น เทอร์รี่คอยกันชนในแนวรับคงจะเป็นเกมเอนเตอร์เทนที่นอกจากมันในอารมณ์แฟนบอลแล้วคงสมใจอากู๋โรมัน อับราโมวิชก็คราวนี้
แต่ที่เข้าถึงกระดูกดำไปแล้วคือพวกเร้ดอาร์มี่ซึ่งได้แหกปากดีใจจนคอบแทบแตกหลังถล่มนิวคาสเซิ่ลน้ำบานครึ่งโหล ดูบอลมาก็เยอะไม่ค่อยเห็นโอกาสยิงเกือบฝั่งเดียวถึง 30 ครั้งในหนึ่งเกมซักเท่าไหร่
สาลิกาอาจอยู่ในสภาพแพแตกก็จริงแต่ถ้ามีใครเดินมาบอกก่อนเกมว่าจะแพ้เยอะถึงขนาดต้องแบกเข่งเอากลับเซนต์ เจมส์ พาร์คขึ้นซาเล้งแบบนี้คงปันใจเชื่อยากเหมือนกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเคยบุกมายันเกือบเสมอเชลซีเมื่อสองสัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ตามนิวคาสเซิ่ลเป็นบอลประเภทรอโดนยามออกนอกบ้านอยู่แล้วครับเพราะใครตามดูในซีซั่นนี้จะเห็นได้ว่าการสวนกลับของยอดทีมจากแดนอีสานแทบไร้พิษสง เรียกว่าได้บอลเดี๋ยวเดียวไม่เกิน 10 วินาทีก็ตกไปสู่เท้าฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
แนวรับทำหน้าที่ได้ดีที่สุดก็แค่ครึ่งเดียวเพราะต้องแบกภาระในครึ่งหลังโอเวอร์โหลดจนเกินไป เรียกว่าบอลแทบไม่ไปไหนเลยนอกจากในกรอบโทษตัวเอง
เหตุผลที่ว่านี้แหละครับทำให้ปิศาจแดงได้ล่อเป้าบุกอย่างต่อเนื่องแต่สกอร์ 0-0 ในครึ่งแรกกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในครึ่งหลังเพราะนักเตะเจ้าถิ่นติดเลี้ยงโชว์ออฟจนเลอะเทอะเลยถูกเทศนาจากเฟอร์กี้จนตาสว่างก่อนลงมาทิ้งบอมบ์ 6 ลูกใน 45 นาที
ปัจจัย 2-3 อย่างที่ทำให้ยูไนเต็ดประกาศตัวได้น่ากลัวเกินคาดขนาดนี้และอย่างน้อยๆน่าจะมีแรงกระตุ้นจากการชิงพลาดของอาร์เซนอลซึ่งลงเตะก่อนและเห็นชัดเจนว่าการยิงตุนคือสิ่งที่ป๋าให้ความสำคัญไม่แพ้กันเพราะคาดว่าการล่าแชมป์ลีกปีนี้แค่แต้มอย่างเดียวอาจไม่พอครับ
สำหรับทูนอาร์มี่กำลังถูกทดสอบความอดทนอดกลั้นอย่างรุนแรงเพราะไมค์ แอชลี่ย์กำลังอยู่ในระหว่างควานหาผู้จัดการทีมคนใหม่โดยล่าสุดแฮร์รี่ เร้ดแนป์ชิงปฏิเสธไปก่อนแล้วซึ่งผมคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างฉลาดหากมองในแง่ของเวลาในการสร้างทีมและนิสัยการเปลี่ยนแปลงผู้นำของสาลิกา
ผมขอปิดท้ายกับหงส์แดงลิเวอร์พูลซึ่งเป็นทีมที่เขียนถึงบ่อยมากที่สุดและด่ามากที่สุดแต่สิ่งที่พวกคุณๆได้เห็นกับตาในแต่ละนัดเป็นหลักฐานยืนยันต่อสิ่งที่ผมสังคายนาชัดเจนแจ่มแจ้งแล้ว
คงไม่ต้องบอกนะครับว่ามิดเดิลสโบรห์มีค่าตัวนักเตะ 16 คนสู้เฟอร์นานโด ตอร์เรสคนเดียวไม่ได้แต่ไฉนถึงเล่นดีกว่าและเป็นฝ่ายครอบครองเกมเข้าทำได้น้ำได้เนื้อกว่า
ไม่ใช่ลิเวอร์พูลเจอเหตุการณ์บังเอิญหรือฟอร์มตกไปเองแต่วีแกนก็แล้ว,ลูตันก็แล้วมิดเดิลสโบรห์ก็แล้ว ฟอร์มในสนามเห็นกันคาตา หลักฐานมัดตัวคาหนังคาเขา
ผมไม่อยากโทษนักเตะมากนัก ผมมองว่าระบบทีมทำให้พวกเค้าเหล่านี้เป๋เหล่กันไปเอง ผมขี้เกียจพูดให้เสียเวลาพวกคุณสังเกตกันเองเองนะครับสำหรับพวกแข้งที่ย้ายมาใหม่ๆและยังไม่ถูกล้างสมองจากราฟาเอล เบนิเตซจะเล่นดีมีอนาคตแต่พอซ้อมไปเรื่อยๆถูกแท็คติกส์ซึมเข้าสมองก็ค่อยๆเปลี่ยนสไตล์ตัวเองแบบไม่รู้ตัว
อังเดร โวโรนินเซ้นส์บอลไม่ธรรมดา,เดิร์ก เคาท์เคยเป็นเทพที่เฟเยนอร์ด,ยอสซี่ เบนายูนเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเวสต์แฮมหรือไรอัล บาเบิ้ลเล่นฟุตบอลอย่างสนุกสนานที่ไอแอ็กซ์และฮอลแลนด์ชุดเล็ก
แต่ที่ว่ามาทั้งหมดสุดท้ายแล้วบางคนกลายเป็นนักเตะดาดๆบางคนเสียหมาไปแล้วเป็นเพราะอะไรล่ะครับ?
อาฟรัม แกรนต์บอกเอาไว้อย่างน่าฟังว่าสิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นผู้ล่าคือเมื่อใดก็ตามที่คุณพลาดโอกาสถูกจ่าฝูงทิ้งห่างจะเรียกหาทันที
นี่ขนาดระดับบอลพร้อมชนะยังมีทัศนะคติแบบนี้แต่บอลพร้อมแพ้อย่างลิเวอร์พูลกลับออกแนวพอใจกับผลงานของลูกทีมจากปากผู้จัดการทีมตัวเองอยู่เลย
ผลเสมอแบบน่าแพ้กับเดอะโบโร่เป็นช่วงเวลาอันสมควรที่นักเตะและสต๊าฟโค้ชน่าจะพากันไปกราบตีนตอร์เรสจริงๆ...
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีจากซ๊อคเกอร์