สนทนาหลังเกมส์แดงเดือด หงส์ถล่มอีแอบเละเทะแฟนบอลมุดรู
ในบทความนี้ผมพยายามจะใช้ภาษาไทยภายในเนื้อเรื่องทั้งหมดนะครับ อาจมีบางคำที่เป็นการทับศัพท์กันบ้าง คงไม่ว่ากันนะ ^^ สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว เดอะค๊อป ทุกๆคน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาคงจะชื่นมื่นหัวใจกันยกใหญ่เลยนะครับ สำหรับผลการแข่งขัน ที่หงส์แดง เอาเท้ากลบดินฝังผีเปรดแดง ลงลุม แถมตอกตะปูปิดฝาโรงแบบ ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น กันเลยทีเดียว และที่ผมสะใจสุดๆ คือผมไปดูที่ เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ตอนแรกบอกตามตรงแฟนผี มากันค่อนข้างเยอะ แต่แฟนหงส์ก็มาเยอะเช่นกัน คือบอกตามตรงใครได้ยิง หรือได้เสียวเฮกันลั่นอ่ะครับ แต่พอในช่วงหลังๆ บอกตามตรงครับแฟนผีถึงกับจ๋อย เปลี่ยนตัวไม่มีการปรบมือ หรือเฮฮาไรกันเลย ต่างจากอารมณ์แฟนหงส์เปลี่ยนตัวมีการปรบมือ มีลุ้นเสียวก็ปรบมือ แต่ลูกที่โดนตีไข่แตกอาจจะเซ็งกันนิดหน่อย แต่ก็ยังได้ยินเสียงปรบมือแบบเบาๆ แปะๆ เช่นกัน ผมจึงอยากจะมาพูดถึงเกมส์แดงเดือดนัดนี้ซะหน่อย(ถึงจะมีคนเขียนกันเยอะแล้ว แต่ก็ขอหน่อยเหอะ) + (ถึงจะช้าไปมาก แต่ก็ขออีกนิดนะ เพราะจริงๆกะเขียนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่พอดีวันนี้มีธุระเช้าเลยต้องรีบนอน) และในบทความนี้ผมตั้งใจที่จะใช้ภาษาไทยภายในเนื้อเรื่องทั้งหมดนะครับ(ถึงภาษาไทยอาจจะไม่แข็งแรงเท่าไร ก็เหอะนะ) และอาจมีบางคำที่เป็นการทับศัพท์กันบ้าง คงไม่ว่ากันนะ ^^ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า เอาละครับในเกมส์แดงเดือดที่ผ่านมานี้ บุคคลหลักๆที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คงมีอยู่ด้วยกัน 3 คน แบ่งเป็นจาก ลิเวอร์พูล 3 และจาก แมน ยูฯ 3 ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล นั้นได้แก่ : หลุย ซัวเรส,เดิร์ค เค๊าท์,เคนนี่ ดัลกลิช ทางฝั่ง แมน ยูฯ นั้นได้แก่ : ชิชาริโต้,เวย์น รูนี่,เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน หลายคนคงสงสัยว่าทำไมผมถึงต้องวิเคราะห์ผู้เล่นจากฝั่ง แมน ยูฯ ด้วย ?? ผมขอตอบให้เลยครับ ถ้าถามว่าเมื่อคืนตัวละครเอก ใช่ว่าจะมีแต่ฝั่งของทีมเราอย่างเดียว ทางฝั่งแมน ยูฯ นั้นก็มีเช่นกัน ผมเลยอยากนำมาพูดด้วย เอาละครับ ขอเริ่มวิเคราะห์เลยละกัน รายแรก - รายที่สาม จะมาจากฝั่ง ลิเวอร์พูล นะครับ // ส่วนในรายที่สี่ - รายที่หก จะมาจากฝั่ง แมน ยูฯ นะครับ รายแรก = หลุย ซัวเรส : คงไม่ต้องพูดไรมากกับลีลาอันเหนือชั้น เหนือกว่าคนทั่วไปเขาจะทำกัน มันต้องเป็นเทพลงมาจุติเท่านั้นถึงจะทำได้ จากการที่หลุยซัวเรสโชว์การ ล็อคหลบ ผู้เล่นฝั่งผีเปรดแดงนั้น ทำให้สาวก เดอะ ค๊อป และ เรด เดวิล ถึงกับต้องเหวอ และยอมรับว่า เห้ยนี่มันไม่ใช่คนแล้ว มันเทพชัดๆ เพราะมันไม่ใช่ครั้งเดียวที่เขาทำแบบนั้น อย่างน้อยๆ เด่นๆ เทพๆ ก็ 2 ครั้งละครับ และพูดกันตามตรงเลยครับว่าเมื่อคืนถ้า หลุย ซัวเรส เล่นไม่ได้แบบนี้ ใช่ว่าทีม ลิเวอร์พูล ของเราจะเป็นฝ่ายกำชัยชนะไปได้ เพราะมีเขายืนเป็นหอก ผมว่ากองหลังของ แมน ยูฯ ก็ต้องผวา ไม่กล้าเติมเกมส์รุกซะเท่าไรแน่นอน เพราะเขาเป็นนักเตะที่ค่อนข้างครบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเก็บบอล,เลี้ยงบอล,สร้างโอกาสให้เพื่อน หรือลุ้นทำประตู การที่เรามีกองหน้าแบบนี้ รับลองเลยครับไม่มีกองหลังทีมไหนในโลกอยากเจอกับเราแน่นอน รายที่สอง = เดิร์ค เค๊าท์ : คนนี้จะไม่พูดถึงเขาก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน และผมขอให้ฉายาเขาเพิ่มเติมด้วยว่าเป็น พี่ครกเทพ 3 หลา และเมื่อวานพี่ครกก็เป็น แฮททริค ฮีโร่ ให้กับทีมเรา ถึงจะมองว่ามันเป็นลูกง่ายๆ ยิงไงก็เข้า เป็นน้าเอ๋อคาร่า ก็คงเข้า แต่ขอโทษทีเหอะครับ ถ้าไม่ใช่นักไตรกีฬาอย่างพี่ครกแล้วละก็ จะมีนักเตะคนไหนที่จะวิ่งขยันวิ่งเติมสอดแทรกเข้ามาในกรอบเขตโทษเพื่อหวังทำประตูแบบไม่มีหยุด อย่างนี้ละครับ จะมีก็คงมีแค่พี่ครก นี่แหละครับ เพราะแกเป็นพวกนักเตะพลังงานลมจริงๆ วิ่งเท่าไรก็ไม่มีหมด เติมตลอด คอยมาป่วนตลอด แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ถ้าเมื่อคืนพี่ครกนั้นไม่ได้ยิง ก็คงไม่มีใครพูดถึงอย่างแน่นอน เพราะบอกตามตรงนอกจากความขยันในการสอดแทรกเข้ามาลุ้นทำประตู +กับผลสำเร็จจากความขยันด้วยการกดคนเดียว 3 เม็ด นั้นมันทำให้เขากลายเป็นพระเอกในค่ำคืนวันนั้นไปเลย เพราะถ้าไม่งั้นแกก็เป็นพวกนักวิ่งไตรกีฬาแบบนัดอื่นๆที่ผ่านมาที่วิ่งหาบอล พาบอลไปโยนเลอะๆเทอะๆ ยิงแบบข้ามคานแบบนกล่วงตายหลายตัว ละครับ รายที่สาม = เดอะคิง เคนนี่ ดัลกลิช : สุภาพบุรุษสูงวัย ที่มีหน้าตาเปื้อนรอยยิ้มที่สุดแสนจะมีสเน่ห์ แถมยังมีมันสมองที่ต้องบอกเลยว่าฉลาดเป็นกรด และยังคงเป็นเทพในใจของสาวก เดอะ ค๊อป และนักเตะของทีมเราในทุกๆชุด มาตั้งแต่ในอดีต จวบจนถึงปัจจุบัน จึงไม่แปลกใจเลยว่าฉายาที่ได้มาด้วยการที่ใช้คำว่า คิง(King) ที่แปลว่าพระราชา นำหน้าชื่อนั้น คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ชายผู้นี้จะได้ เพราะเป็นเทพตั้งแต่สมัยเป็นผู้เล่น จวบจนแปลผันตัวเองมาเป็นผู้จัดการทีม และในเกมส์แดงเดือดที่ผ่านมาถ้าจะให้ชมความเทพของ หลุย ซัวเรส และการยิงประตูในระยะ 1-3 หลาของพี่ครก เพียงแค่นี้คงไม่ได้ เพราะพวกเราควรจะชื่นชมแท็กติคของ เดอะคิง เคนนี่ ดัลกลิช ด้วยยย เพราะผมเชื่อว่าถ้าเป็นในยุคสมัยปู่รอย แกคงสั่งให้เราเน้นเกมส์รับที่แน่นแต่ไม่เหนียว แน่นอน เพื่อหวังที่จะลุ้นว่าอย่ายิงทีมเราเลย แต่มันต่างจากในยุคของ คิงเคนนี่ อย่างสิ้นเชิง ที่ดูแล้วเหมือนจะสั่งเราบุกเต็มสูบในช่วงแรกๆ จนทำให้เราได้ประตูมาถึง 2 ลูก ในครึ่งแรก ทำให้เราเล่นได้ง่าย และมาได้อีก 1 ลูก ในครึ่งหลีง และแถมยังวางแท็คติกในเกมส์รับได้ดี ทำให้เกมส์รุกของ แมน ยูฯ นั้นทำอะไรเราแทบไม่ได้ นอกเสียจากลูกตีไข่แตกจากความผิดพลาดของ พี่เจิด เท่านั้นเอง คือพูดตรงๆเลยสำหรับ คิงเคนนี่ นั้นผมมีแต่ชมอ่ะ ต่อๆ มาฝั่งของ แมน ยูฯ กันบ้าง รายที่สี่ = ฮาเวีย เฮอนานเดซ หรือ ชิชาริโต้ : สุดยอดกองหน้าซุปเปอร์ซัพที่ดูยังไงๆ ก็ดีกว่า สากกะเบืออ้วนเตี้ย ราคาค่าเหนื่อยโคดจะแพงของแมน ยูฯ แน่นอน เพราะบอกตามตรงเลยครับว่าการยืนตำแหน่ง จังหวะจบสกอร์ ที่ถึงแม้จะมีน้อยของเขา แต่กลับเปลี่ยนมาเป็นประตูตีไข่แตกได้นั้น ถ้าไม่เรียกว่าฝีมือ จะเรียกว่าอะไรละ ?? ถ้าบอกดวงคงไม่ใช่หรอกครับ เพราะเขาไม่ได้พึ่งทำได้ 1-2 ครั้ง แต่เขาทำมาโดยตลอด ผมจึงขอชื่นชมครับ สำหรับในรายของ ชิชาริโต้ รายที่ห้า = เวย์น รูนี่ : สากกะเบืออ้วนเตี้ย รายนี้ผมบอกตามตรงครับว่าผมจะด่า หรือวิจารณ์ในแง่ลบ แน่นอน เพราะมันเคยปากดีใส่ทีมเราไว้ครับ ถามว่าไอหมูรูนเก่งมั้ย ตอบได้เลยครับว่าเก่ง แต่ตอนนี้มันช่วงขาลงของเขา และผมมองว่าหมูรูน เป็นนักเตะที่ขยันมาก และยังเปิดบอลได้แม่นยำอีกด้วย ต่างจากการหาโอกาสในการยิงประตู(ซึ่งเป็นคุณสมบัติประการหลักของกองหน้า) ผมพูดได้เลยว่านักเตะอย่างหมูรูน เหมาะกับการถอยล่นลงไปเล่นเป็นกลางรุก หรือปีกซะมากกว่า เพราะได้เรื่องความขยัน ความเร็ว การเปิดบอลที่แม่นยำ ซึ่งมันเป็นจุดเด่นของ 2ตำแหน่งที่ว่ามา ซึ่งหมูรูนมี ซึงจุดเด่นนี้จะไม่ได้สำฤทธิ์ผลกับตำแหน่งกองหน้าเลย ถ้าไม่มีจุดเด่นในเรื่องของการหาโอกาสจบสกอร์ที่ดี มาด้วย แต่ถ้ามีครบละก็ เทพครับ (เหมือน หลุย ซัวเรส) แน่นอน รายที่หก = เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน : กุนซือเฒ่าสุดเก๋า มาเฟียร์แห่งวงการฟุตบอลอังกฤษ รายนี้ต้องถึงกับหด เนื่องจากกรรมการนัดนี้ไม่ใช่ ไอโล้น ฮาเวิร์ด เว็บ ซึ่งเขาไม่ยอมเป่าฟาวส์ให้กับลูกทีมของเขาร์บ่อยๆ ทำให้เฟอร์กี้ถึงกับอยากจะออกมาวิจารณ์กรรมการ แต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวจะโดนแบนจริงๆ อันเนื่องมาจากดันไปปากดีในนัดที่เจอหอย จึงทำให้เหมือนมีคดีติดตัว และถ้าปากดีซ้ำสอง รับลองถ้า สมาคมฟุตบอลอังกฤษ จะช่วยก็คงจะน่าเกลียดเกินไปแล้ว ส่วนในเรื่องความเก่งของเฟอร์กี้นั้น ผมว่าเราทุกคนก็คงต้องยอมรับแหละครับว่าเก่งจริง เพียงแต่เก่งสู้คิงเคนนี่ ของเราไม่ได้เท่านั้นเอง 555+ แถมอีกนิดแผง แบ๊คโฟร์ของ แมน ยูฯ ในเกมส์นี้ : บอกตามตรงครับ แมร่งบื้อสุดๆอ่ะ จริงๆเลยนะครับ เวสบราวน์,เอฟร่า,ราฟาเอล พูดตามตรงครับ แบ๊คซ้าย-ขวา โดนเราเจาะยับอ่ะ ในด้านเซ็นเตอร์ฮาร์ฟก็ประกบกันสุดบื้อ แต่ขอยกเว้นไว้คนนึงคือ สมอลริ่ง ครับ บอกตามตรงว่าดูดีสุดแล้วแหละในแผงแบ๊คโฟร์ ที่ดูดีสุดเพราะว่าอายุยังน้อย ประสบการณ์ยังน้อย ได้ขนาดนี้ก็ถือว่า OK แล้วแหละครับ จบและครับสำหรับการ วิเคราะห์นักเตะหลักๆ ในเกมส์แดงเดือดที่ผ่านมา ขอต่อด้วยการวิเคราะห์เกมส์โดยรวมละกันนะครับ บอกตามตรงเลยว่าทีมเรานั้นดีกว่าทุกทางครับ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมส์รุก และเกมส์รับ ที่ดูแล้วประสิทธิภาพค่อนข้างเหลือล้นในเกมส์รุก และควรจะชนะมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ส่วนเกมส์รับก็แข็งแกร่ง ถึงจะมาพลาดนิดๆหน่อยๆในท้ายเกมส์ก็เหอะนะ และก็บอกตามตรงครับว่าถ้า วิดิซ และ ริโอ ฟิตลงได้ทั้งคู่ ผมก็กล้าพูดเลยว่าทีมเราเหนื่อยกว่านี้แน่นอนครับ เอาละครับผมขอจบการสนทนาหลังเกมส์เพียงแค่นี้ละกันนะครับ และก็ต้องขอโทษด้วยถ้าบทความ/บทวิเคราะห์จากความคิดส่วนตัว ที่ผมเขียนนั้นมันอ่านยากไปหน่อยนึง แต่ยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆคนนะครับ ที่ทนนั่งอ่านมันจนจบ ขอบคุณจากใจจริงครับ By : OoWINoO |
_________________ |