อันดับ 1: ปราสาทบราม, โรเมเนีย
บนเทือกเขาคาร์พาเธียนอันห่างไกลในประเทศโรเมเนีย ตำนานของผีดูดเลือด ท่านเคาท์แดร๊กคิวล่า (Count Dracula) อยู่ที่นั่น เรื่องของท่านเคาท์ตั้งต้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 อ้างถึงเจ้าชายคนหนึ่งชื่อ Vlad Dracula (ลูกชายแห่งมังกร) ผู้ไร้ความเมตตาและเป็นปรปักษ์กับชาวคริสเตียน นำกองทัพสองหมื่นคนโจมตีชาวออตโตมันแล้วใช้เหล็กแทงทะลุจากลำไส้ขึ้นไปตามกระดูกสันอกทิ้งไว้ทั่วป่า การดั้นด้นเดินทางสู่ปราสาทที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมยอดแหลมสไตล์กอธิคของเจ้าชายผู้กระหายเลือดองค์นี้ กลายเป็นตำนานของผู้ต้องการแก้แค้น และเกิดเป็นตำนานผีดูดเลือดในที่สุด
อันดับ 2: อัลคาแทรซ, ซานฟรานซิสโก
นี่คือคุกที่มีชื่อเสียงที่สุดของอเมริกา อัลคาแทรซ (lace>Alcatrazlace>) คุกที่ไม่มีใครแหกสำเร็จ ถึงแม้จะมีนักโทษพยายามใช้ของชิ้นเล็กๆ ตัดซี่กรงเหล็กและแอบว่ายน้ำหนีออกไป แต่ก็ไม่ปรากฏว่าเขามีชีวิตรอดไปได้ นักโทษหลายคนตายในห้องขังที่นี่ ส่วนหนึ่งตายเพราะบาดแผลติดเชื้อ และนี่เองเป็นที่มาของเสียงประหลาดมากมาย เช่น เสียงตัดเหล็ก เสียงปิดประตูห้องขัง เสียงหวีดร้องจากใต้ดิน และความรู้สึกถูกจ้องมอง แม้ที่นี่จะเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้วก็ตาม
อันดับ 3: ปราสาทเอดินเบอร์ก, สก็อตแลนด์
ปราสาทยุคกลางอันสง่างามแห่งนี้ ปราสาทเอดินเบอร์ก ภายในเต็มไปด้วยห้องว่างเปล่า ทางเดินแคบๆ และเสียงสะท้อนแห่งความตาย เนื่องจากภายในปราสาทแห่งนี้ แม้แต่ตามถนนแคบๆ นั่นก็ด้วย ใช้เป็นที่กักขังและหลุมฝังศพในคราวเดียวสำหรับนักโทษและคนเป็นโรคระบาด รวมทั้งศพของนักตีกลองที่หัวขาดจากการทำสงครามกับฝรั่งเศสและสงครามประกาศอิสรภาพของอเมริกัน เสียงร่ำลือของวิญญาณที่นี่ทำให้ทีมนักวิทยาศาสตร์นำโดย ดร.ริชาร์ด ไวสแมน จากมหาวิทยาลัยเฮิร์ตฟอร์ดเชียร์ เดินทางมาพิสูจน์ในปี 2001 และพบปรากฏการณ์ที่หาคำตอบไม่ได้
อันดับ 4: บ้านวินเชสเตอร์, แคลิฟอร์เนีย
เมื่อสามีของซาร่าห์ วินเชสเตอร์ เสียชีวิตในปีค.ศ.1881 เรื่องลึกลับก็เกิดขึ้นกับเธอมากมาย ภรรยาม่ายผู้นี้เชื่อว่าเธอจำเป็นต้องหาวิธีป้องกันตัวเองจากวิญญาณที่ตายจากการถูกยิงด้วยปืนไรเฟิลส์ยี่ห้อวินเชสเตอร์ที่สามีเธอประดิษฐ์ขึ้น ปืนวินเชสเตอร์ (Winchester) รุ่นปี 1873 ได้รับการขนานนามว่า 'ปืนพิชิตตะวันตก' หมอผีแนะนำซาร่าห์ให้ค้นหาบ้านที่เป็นที่สิงสถิตของวิญญาณที่มีความเมตตาและปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายออกไป แทนที่จะย้ายออกไป ซาร่าห์จ้างช่างไม้มาต่อห้องให้กับบ้านสไตล์วิคตอเรียนของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นเวลาถึง 31 ปีจนกระทั่งเธอตายในปีค.ศ.1922 หลังจากซาร่าห์ตาย ช่างไม้เริ่มได้ยินเสียงกระซิบเรียกชื่อพวกเขา ได้ยินเสียงฝีเท้า รวมทั้งเห็นวิญญาณซาร่าห์ คุณอยากไปชมบ้านวินเชสเตอร์ของซาร่าห์หรือไม่
อันดับ 5: เกาะโพลลีเพล, นิวยอร์ก
กลางแม่น้ำฮัดสัน เกาะโพลลีเพล (Pollepel Island) ของนิวยอร์ก มีประวัติศาสตร์ที่น่ากลัว เกาะแห่งนี้เป็นยุทธภูมิสำคัญในช่วงสงครามประกาศอิสรภาพของชาวอเมริกัน ยุคต้นศตวรรษที่ 19 เกาะแห่งนี้ครอบครองโดยชาวสกอตแลนด์ ฟรานซีส แบนเนอร์แมน ผู้ผลิตปืนพก เขาสร้างโกดังสินค้าด้วยรูปแบบปราสาทของชาวสก็อตที่มีหอคอยสูง หลังจากที่เขาเสียชีวิตในปี 1918 ปรากฏว่าดินระเบิดและลูกปืนใหญ่น้ำหนักรวมกันกว่า 200 ปอนด์เกิดระเบิดขึ้น ส่งให้ชิ้นส่วนบางส่วนของปราสาทลอยไปไกลถึงตัวเมืองนิวยอร์ก แรงระเบิดทำให้เรือบรรทุกสินค้าและเรือขนส่งผู้โดยสารระเบิด ชนฝั่ง และจมลงสู่ก้นแม่น้ำ ผู้คนมากมายเสียชีวิตฉับพลัน ณ ที่แห่งนี้
อันดับ 6: บ้านแฮคเกอร์, สหรัฐอเมริกา
ตำนานของบ้าน แฮคเกอร์ (Hacker) เกิดขึ้นกว่าร้อยปีก่อน ตำนานนี้ไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุด เนื่องจากเหตุการณ์เลวร้ายยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ้านแฮคเกอร์ตั้งอยู่บนถนนที่แยกจากถนนวินสตัน-สาเลม ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา สร้างอยู่เหนือหลุมศพชาวอเมริกันพื้นเมือง สถานที่อันถูกสาป เรื่องสยองขวัญเริ่มขึ้นในปีค.ศ.1821 นายทหารหลายคนยุคนั้นอ้างว่าพวกเขายิงปืนใส่คนนับสิบที่ยิงเท่าไหร่ก็ไม่ตาย ร้อยปีต่อมาบ้านแฮคเกอร์กลายเป็นโรงพยาบาลและห้องทดลอง มีรายงานที่ไม่ชัดเจนว่าศพหลายศพหายไปหลังจากไฟไหม้ใหญ่ในปีค.ศ.1930 ทิ้งไว้แต่เพียงหลุมวางเปล่า ซึ่งดร.โจห์นาส แฮคเกอร์ เจ้าของห้องทดลองอ้างว่า นี่เป็นผลมาจากการทดลองที่เขาได้ฉีดสารบางอย่างเข้าไปในร่างกายคนไข้ของเขาก่อนพวกเขาเสียชีวิต บ้านแฮคเกอร์ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่เพื่อใช้ทำพิธีเกี่ยวกับการฝังศพ และชาวเมืองก็พยายามโปรโมทให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ซึ่งไม่มีใครยอมมาอาศัยอยู่
อันดับ 7: แดร็คสโฮล์ม สล็อต ,เดนมาร์ก
คฤหาสน์ แดร็คสโฮล์ม สล็อต (Dragsholm Slot) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เพื่อเป็นที่อยู่ของบิชอปส์แห่งโรสไคลน์ คฤหาสน์หลังนี้สร้างในสไตล์บาร็อค ตกทอดมาถึง เจมส์ เฮปเบิร์น เอิร์ลแห่งโบธเวล สามีคนที่สามของแมรี่ สจวร์ต ราชินีแห่งสกอตแลนด์ เขาเสียชีวิตที่นี่ในปีค.ศ.1578 คฤหาสน์แห่งนี้มีสาวใช้มากมาย เรียกกันว่า white lady หนึ่งในนั้นแอบมีสัมพันธ์กับหนุ่มสามัญชน เมื่อถูกจับได้ เธอถูกขังลืมไว้ในคฤหาสน์แห่งนี้ ต่อมาในช่วงปีค.ศ.1930 นักท่องเที่ยวผู้โชคดีคนหนึ่งมือซน เอานิ้วไปแหย่ผนังปูนที่มีรอยแตกร้าวเล่น สิ่งที่เขาทำให้ทุกคนเห็นผ่านรอยร้าวบนผนังคือโครงกระดูกในชุดเสื้อคลุมสตรี เท่านี้ที่นี่ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ 'ฮอต' ขึ้นมาทันที เพราะเสียงร่ำลือที่ว่าวันดีคืนดี white lady จะแวบมาให้เห็น
อันดับ 8: ปราสาทบรีซัค, ฝรั่งเศส
ตามประสาของปราสาทในฝรั่งเศสที่ต้องตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามตามแต่ใจตัวเอง ปราสาท บรีซัค (Brissac) กลางหุบเขาลัวร์ขนาด 7 ชั้น มีห้องมากกว่า 200 ห้อง เพดานทาด้วยทองคำ ม่านลายดอกประดับผนังและพรมลายดอกไม้เข้าชุดกันชนิดผู้มีโอกาสมาเยือนแทบลืมหายใจ เฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลัก เสาปราสาททำจากแก้วคริสตัล ไม่ใช่สถานที่ที่แย่เกินไปที่จะอยู่อาศัย ยกเว้นความจริงที่ว่าคุณจะต้องอยู่กับวิญญาณของ ชาร์ลอต (มาดามของจาร์ค เดอ บรีซ)และชายชู้ของเธอ ทั้งคู่ถูกสังหารที่นี่ หลังจากทั้งคู่ถูกปลิดชีวิต บรีซก็ต้องบอกขายปราสาทในเวลาไล่เลี่ยกัน เพราะไม่สามารถทนกับเสียงร้องโหยหวนกลางดึกของผีชู้รักคู่นี้ได้
อันดับ 9: รถไฟใต้ดินกรุงมอสโก, รัสเซีย
ในเมืองที่มีอายุเก่าแก่เกือบ 900 ปีแห่งนี้ มอสโก ผ่านวันเวลาที่เคยครอบครองโดยจอมเผด็จการผู้กระหายเลือดนับร้อยปี คอมมิวนิสต์ผู้ไม่ยอมอ่อนข้อ และจักรพรรดิรัสเซีย ต่างก็พยายามขุดเมืองนี้ให้รอดพ้นจากเรดาร์ ด้วยเหตุนี้ลึกลงไปใต้ดินกว่า 700 เมตร มอสโกจึงเต็มไปด้วยเครือข่ายคลองขนาดมโหฬารที่มีความตื้นลึกต่างกันถึง 15 ระดับที่พัฒนามาเป็น 'รถไฟใต้ดิน' เส้นทางคมนาคมที่พัฒนามาจากสถานที่ที่เคยเป็นบ้านคนจรจัด นักต่อต้าน ศิลปิน ผู้ถูกเนรเทศ และหลุมศพของผู้ถูกสังหารหมู่ รถไฟเที่ยวสุดท้ายของคืนจะให้ความรู้สึกอย่างไรกันนะ
อันดับ 10: แคมป์กราวนด์, สหรัฐอเมริกา
สถานที่แห่งนี้ชื่อ แคมป์กราวนด์ (Campground) ความจริงแล้วตัวสถานที่ไม่มีเรื่องสยองขวัญใดๆ แต่เจ้าของนี่สิ พยายามทำทุกวิถีทางเท่าที่จะคิดออก เพื่อสร้างจุดดึงดูดใจให้กับสถานที่ จุดดึงดูดใจที่เจ้าของสถานที่คิดนั้นไปไกลถึง 'ความลี้ลับ' และ 'เวทมนตร์คาถา' เพื่อทำให้สถานที่แห่งนี้ดูน่ากลัว ความพยายามของเขาสำเร็จถึงขนาดที่ว่า สมาคมสถานที่หลอนนานาชาติ (International Association of Haunted Attractions) รับแคมป์กราวนด์เข้าเป็นสมาชิกแคมป์กราวนด์ เป็นสถานที่พักแรมตั้งอยู่กลางป่าใน ฟอร์ต มิลล์ มลรัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีทั้งสถานที่สำหรับจอดรถบ้านเคลื่อนที่ และบ้านพัก ตัวบ้านพักเป็นแบบชั้นเดียวง่ายๆ ทำจากไม้ซุงที่เคยใช้ทำโลงศพในอดีต! แค่คิดว่าต้องนอนในบ้านทำจากโลงผี สยองไหมล่ะ
ที่มา http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=6502.0