ทุกวันนี้โลกเราใช่ว่าจะสงบสุขอย่างที่คิด เพราะตราบใดที่มนุษย์ยังมี ความขัดแย้งไม่ลงรอยกัน
จิตใจตกต่ำ เห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม เห็นความรุนแรงดีกว่าการแก้ปัญหาด้วยสันติ
ทำให้ปัจจุบันโลกเรากำลังอยู่ภายใต้สงครามการก่อการร้าย ที่พยายามจะก่อกวนสังคมให้ปั่นป่วน
และพวกเขามีหลายวิธีที่จะทำให้ก่อการร้ายเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย
ใครที่คิดว่าพวกก่อการร้ายเป็นโจรกระจอกวันๆ เอาแต่ก่อกวนความไม่สงบสุขล่ะก็คิดผิดได้เลย
และนี้คือ 10 อันดับอันตรายจากการก่อการร้ายที่คุณไม่เชื่อว่ามันอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด เพราะการก่อ
การร้ายสมัยนี้ไม่เพียงแค่โจมตีรัฐบาลเท่านั้นพลเมืองผู้บริสุทธิ์ก็ตกเป็นเหยื่อของก่อการร้ายด้วย
…
…
10. Apartment Bombs
อพาร์ทเม้นถือได้ว่าเป็นสถานที่ซ่อนผู้ก่อการร้ายได้เป็นอย่างดี เพราะตามกฎหมายแล้วตำรวจ
จะไม่ได้รับอนุญาตให้ตรวจค้นในพื้นที่นี้ได้ นอกจากจะมีหมายค้นหรือเหตุน่าสงสัย และด้วยช่อง
ว่างกฎหมายนี้ทำให้ผู้ก่อการร้ายสามารถอาศัยในสังคมเสรี และสามารถใช้ประโยชน์ต่อพื้นที่
ปลอดภัยนี้อย่างเต็มที่ โดยภายในพื้นที่เหล่านี้ผู้ก่อการร้ายมักถูกทำเป็นคลังอาวุธที่เต็มไปด้วย
ปืนและระเบิด หรือแม้แต่ถุงโพรเพนหรือก๊าซโซลีน ที่ได้รวบรวมแบบกำลังมดอย่างทีละเล็กทีละ
น้อย โดยเพื่อนบ้านห้องข้างเคียงไม่รู้เลยว่าพวกเขาทำอะไรอยู่ในห้องนั้น
นอกจากอพาร์ทเม้นจะเป็นแหล่งเป้าหมายที่ผู้ก่อการร้ายสร้างความวุ่นวายเป็นอย่างดี อย่างที่เรา
ได้เห็นข่าวอยู่บ่อยๆ ในเรื่องที่ผู้ก่อการร้ายวางระเบิดอาคารหลายแห่งทั่วโลก เช่นกรณีเหตุการณ์
เมื่อเดือนกันยายน ปี 1999 เมื่อ 4 อพาร์เม้นในรัสเซียถูกวางระเบิด ส่งผลทำให้คนกว่า 293 คน
ถูกฆ่าและ 651 คนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งรัสเซียกล่าวอ้างว่าเกิดจากการกระทำของกลุ่มแบ่งแยกดิน
แดนในเชเชน ที่แอบซุกระเบิดไว้ข้างในเมื่อคืนก่อน
__---__---__---__---__
9. Water Terrorism
การก่อการร้ายน้ำนั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1346 เมื่อกองทัพมองโกล
เข้าโจมตีเมืองแคฟฟาของอิตาลี กองทัพของมองโกลตั้งทัพอยู่นอกกำแพงอยู่นานไม่อาจเข้าโจม
ตีเข้าไปในค่ายได้ ต่อมาเกิดกาฬโรคหรือโรคห่าระบาดในกองทัพของมองโกล ทหารล้มตายเป็น
เบือศพทหารกองท่วมค่าย แทนทีจะมีการนำศพนั้นไปฝังหรือเผา แม่ทัพมองโกลเกิดไอเดียกระฉูด
โดยนำศพทหารที่ตายด้วยโรคห่าใช้แทนก้อนหิน เข้าเครื่องยิงแล้วยิงข้ามเข้าไปในกำแพงเมือง
แคฟฟา คนในเมืองแตกตื่นกับสภาพศพที่เห็น ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเป็นตุ่มพุพองช้ำเลือดช้ำหนองเน่า
แฟะ หนำซ้ำเชื้อโรคยังระบายสู่ชาวเมือง ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ที่เหลือลอดก็พากันหนีออก
ไปนอกเมือง จนในที่สุดไม่อาจต้านอาวุธเชื้อโรคของมองโกลได้เมืองจึงแตก
แต่กระนั้นการก่อร้ายน้ำนั้นก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน แม้น้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิต ทุกคนจำเป็นต้อง
ดื่มน้ำ และทุกวันนี้มีคนประมาณ 1.8 ล้านคนเสียชีวิต เนื่องจากการปนเปื้อนของน้ำก็ตาม แต่
กระนั้นมันก็เป็นการยากมากที่จะทำให้น้ำทั้งแม่น้ำ หรือทะเลสาบปนเปื้อนด้วยสารพิษ (แต่ปัจจุบัน
ไม่จำเป็นแล้วมั้ง เพราะโรงงานจะปล่อยสารพิษให้เอง ฮ่า)
ในปี 1974 เคยมีการก่อการร้ายด้วยวิธีการนี้ เมื่อกลุ่มก่อการร้ายที่เรียกตนเองว่า นีโอนาซีได้ถูกจับ
กุม ก่อนที่จะดำเนินแผนการที่จะเพาะเชื้อไทฟอยด์ปนเปื้อนแหล่งน้ำในเมืองใหญ่ของอเมริกา แต่
เหตุการณ์ที่น่ากลัวคือ การปนเปื้อนสารพิษของสถานีกรองน้ำที่ส่งน้ำให้ครัวเรือนใช้ต่างหาก ลอง
คิดดูว่าหากองค์กรก่อการร้ายได้เข้ามาในศูนย์กระจายน้ำ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามแล้วทำให้น้ำใน
ณ ที่นั้นปนเปื้อนสารพิษได้สำเร็จละก็ มันคงเป็นการก่ออาชญากรรมครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์
แน่นอน
__---__---__---__---__
8. Attack Sniper
ซุ่มยิง เป็นวิธีสุดฮิตของการก่อการร้ายทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพ และสร้างความหวาดกลัวต่อศัตรู
ได้เป็นอย่างดี ในเดือนตุลาคม 2002 ฆาตกรต่อเนื่องนาม จอห์น อัลเลน มูฮัมหมัด และ ลี บอยด์
ในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา (วอชิงตันดีซี, แมรี่แลนด์, วอร์จิเนีย, วอชิงตัน ฯลฯ) ได้ฆ่าคนสิบ
กว่าคนและบาดเจ็บมากมาย โดยใช้ปืนยาวซุ่มยิงกึ่งอัตโนมัติ Bushmaster .223 ฆ่าคนไม่เลือก
หน้าอย่างสนุกสนาน ก่อนที่ถูกจับและถูกพิพากษา
แต่กระนั้นเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลทำให้ชาวอเมริกาทั่วทั้งประเทศแตกตื่นไม่กล้าที่จะเดินเล่นในที่
เปิดโล่งหรือขึ้นรถสาธารณะหรือไปสถานีบริการน้ำมัน
เครือข่ายก่อการร้ายก็มักใช้วิธีซุ่มยิงนี้เสมอ พวกเขามีปืนสไนเปอร์ที่สามารถยิงได้ แม้ตัวผู้ถูกยิง
จะอยู่ห่างจากเป้าหมายหลายเมตร (สถิตโลกระยะยิงไกลอยู่ที่
พลซุ่มยิงประจำตำแหน่งในอาคารที่สูงทำทีเหมือนถ่ายภาพ (ปืนสไนเปอร์รูปร่างเหมือนกล้องส่อง
ทางไกลมาก) กำลังซุ่มหาเหยื่อในเมืองใหญ่ที่เป็นช่วงจราจรวุ่นวาย จากนั้นก็ยิง เมื่อยิงเสร็จก็รีบ
หนีจากจุดยิงทันทีอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทิ้งอะไรไว้เลย และทำแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าและเปลี่ยนสถานที่ทุกครั้ง และนี้แหละคือความน่ากลัวของการซุ่มยิง
__---__---__---__---__
7. Biological Warfare
สงครามเชื้อโรคคือ การใช้วัสดุอินทรีย์ที่เป็นอันตราย เช่น ไวรัสและแบคทีเรียที่ทำให้เกิด
ความเสียหายอย่างใหญ่หลวงและกว้างขวาง การระบาดของโรคติดเชื้อนั้นร้ายแรงสามารถฆ่า
คนหลายล้านคนทั่วโลกได้ขอเพียงมีคนหนึ่งติด ก็สามารถกระจายวงกว้างให้คนอื่นติดต่อกัน
เป็นทอดๆ ได้
ยกตัวอย่างเช่น โรคเอดส์และโรคมาลาเรีย หากกลุ่มก่อการร้ายประสบสำเร็จในการเข้าถึงโรค
ดังกล่าวและนำมาปล่อยในสถานที่สาธารณะที่แออัด ผลกระทบที่ตามมานั้นใหญ่หลวงมาก ไม่ว่า
จะเป็นด้านกายภาพและด้านจิตใจ
ครั้งหนึ่งอเมริกาได้เผชิญหน้ากับการก่อการร้ายแบบใหม่หลังจากเหตุการณ์ 9/11 ที่เรียกว่า
“สงครามเชื้อโรค” เมื่อในวันที่ 18 กันยายน ปี 2001 มีการพบผงแป้งสีขาวในซองจดหมายที่ส่ง
ไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น สื่อมวลชนและนักการเมืองจำนวนมาก ซึ่งภายหลังทราบว่าผงแป้ง
ดังกล่าวเป็นเชื้อโรคแอนแทร็กซ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และล้มป่วยอีก 17 คน ด้วยเหตุการณ์
ในครั้งนี้ส่งผลทำให้โลกเกิดความหวาดกลัวการก่อการร้ายอีกครั้ง และเชื่อว่าเหตุครั้งนี้เป็นการก่อ
การร้ายขององค์กรอัลกออิดะห์
หากแต่ต่อมามีการยืนยันแล้วจากผลการตรวจดีเอ็นเอในซองจดหมายเมื่อปี 2002 พบว่าจดหมาย
ดังกล่าวถูกส่งผ่านไปรษณีย์อเมริกา และเชื้อดังกล่าวมาจากห้องปฏิบัติการทางการทหารของสหรัฐ
และผู้ต้องสงสัยคนนั้นคือนาย
การแพทย์ป้องกันภัยจากอาวุธชีวภาพ ที่ฟอร์ตเดทริค รัฐแมรี่แลนด์ของสหรัฐฯ (
Army Medical Research Institute of Infectious Diseases) และเขาก็เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่เข้า
ตรวจสอบที่มาของคดีดังกล่าว หากแต่ผลสุดท้ายเอฟบีไอก็ไม่สามารถจับกุมเขา เนื่องจากนายบรูซ
ชิงฆ่าตัวตายเสียก่อนเมื่อเดือนกรกฎาคม 2008 โดยสาเหตุการตายคือเขากินยาไทลีนอลจำนวนมาก
__---__---__---__---__
6. Suicide Attacks
การโจมตีแบบฆ่าตัวตาย (สมัยก่อนเรียกระเบิดพลีชีพ แต่ปัจจุบันทางการนิยมใช้คำนี้มากกว่า)
มีความหมายว่าบุคคลที่สละชีวิตของตนเอง เพื่อให้ก่อความเสียหายและทำลายล้างมากที่สุด
การโจมตีโดยการฆ่าตัวตายนั้นส่วนมากมักจะใช้การก่อการร้ายที่มือระเบิดนำระเบิดติดตัวเข้าไป
ในสถานที่เป้าหมายแล้วจุดระเบิดขึ้น เพื่อฆ่าผู้คนในสถานที่นั้นพร้อมกัน หรือจะใช้ปืนยิงเข้าฝูงชน
หรือจะใช้ยานพาหนะ ฯลฯ โดยส่วนมากมือระเบิดฆ่าตัวตายมักจะก่อเหตุในประเทศแถบตะวันออก
กลาง เช่น อัฟกานิสถาน, อิรัก กากีสถาน ฯลฯ
โดยหนึ่งในเหตุการณ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ เหตุการณ์ 9/11 ซึ่งเป็นเหตุการณ์วินาศกรรมของ
การปล้นเครื่องบินในสหรัฐอเมริกา โดยเครื่องบินพาณิชย์ ได้ชนเข้ากับเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ และ
อาคารเพนตากอน โดยเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 2,977 คน
และยังมีเหตุการณ์เมื่อเดือนกันยายน 2004 คนกว่า 334 คนต้องตาย (รวมทั้งเด็ก) เมื่อผู้ก่อการ
ร้ายเซเซนได้ระเบิดตัวเองฆ่าตัวตาย ในโรงเรียนรัสเซียในกรุงบาสก์ หลังจากก่อการยึดตัวประกัน
แล้วเจรจาต่อลองล้มเหลวสามวัน
การโจมตีโดยการฆ่าตัวตายนั้นเป็นหนึ่งในวิธีที่ยากที่สุดในการป้องกัน และไม่สามารถคาดการได้
ว่าจะเกิดขึ้นที่ไหนเมื่อใด ซึ่งแม้จะรู้ก็สายไปเสียแล้ว
__---__---__---__---__
5. Misinformation
ข่าวเท็จคือการแพร่กระจายข่าวที่เป็นเท็จ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นข่าวไม่ดี ทำให้เกิดภัยคุกคาม
ต่อหน่วยงานหรือประชาชนซึ่งส่งผลทำให้เกิดความเสียหายทางอ้อมกับประชาชน
ข่าวเท็จถือว่าเป็นการก่อการร้ายทางจิตวิทยาที่คนร้ายมักใช้ประจำ เช่น คนตะโกนเตือนฝูงคนที่
อยู่ในพื้นที่แออัดว่ามีไฟไหม้ แน่นอนว่าหลายคนต้องตื่นตระหนกและวิ่งไปในสถานที่ปลอดภัย ส่ง
ผลทำให้มีการเหยียบกันตายและบาดเจ็บหลายราย
ปัจจุบันกลุ่มก่อการร้ายมีความรู้และมีเครือข่ายที่ทันสมัยมาก พวกเขามักใช้เส้นสายทางอินเทอร์เน็ต
และโทรศัพท์กระจายข่าวเท็จเกี่ยวกับภัยก่อการร้ายอย่างต่อเนื่อง เช่น วันนี้ฉันจะไปก่อการร้ายที่นี้นะ
รัฐบาลรับมือให้ดีล่ะ หรือ การปล่อยข่าวลือสร้างความสับสน การโกหกบริการฉุกเฉินค่ำคืน และหาก
กลุ่มก่อการร้ายสามารถเข้าถึงระบบการสื่อสารได้ละก็ บางทีโลกของเราอาจจะเหมือนภาพยนตร์
เรื่อง