ต่ออายุ!เชลซีโคตรฮึดยิงแซงดับผี 10 ตัวลงหลุม 2-1
เชลซียืดอายุลุ้นแชมป์พรีเมียร์ในช่วงโค้งสุดท้ายชนิดใจหายใจคว่ำหลังเปิดบ้านยิงรวดแซงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดระทึก 2-1 จากเดวิด หลุยส์แข้งใหม่และจุดโทษของแฟร็ง แลมพาร์ดขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ตามเหลือ 12 แต้มและเตะน้อยกว่าหนึ่งเกมแถมเนมันย่า วิดิชถูกไล่ออกช่วงทดเจ็บติดโทษแบนนัดแดงเดือดง่อยกินกันไป
พรีเมียร์ ลีก
วันอังคารที่ 1 มีนาคม 2554
เชลซี 2 : 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประตู : 0-1 เวย์น รูนี่ย์ น.29,1-1 ดาวิด ลูอิซ น.54,2-1 แฟรงค์ แลมพาร์ด(จุดโทษ) น.79
เชลซีเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ต้อนรับการมาเยือนของคู่แข่งตัวเอ้อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในเกมนัดตกค้างที่โดนเลื่อนลากยาวมานาน โดยพวกเขาปรับทีมไปหนึ่งตำแหน่งด้วยการที่ดาวิด ลูอิซกลับคืนมาสู่ทีมอีกครั้ง หลังจากไม่สามารถเล่นในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกได้
ซึ่งตามที่คาดกันเอาไว้ดิดิเย่ร์ ดร็อกบาเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง โดยคาร์โล อันเชล็อตติเลือกใช้นิโกล่าส์ อเนลก้าและเฟร์นานโด ตอร์เรสลงล่าตาข่าย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีผิดคาดกันเล็กน้อยเพราะฮาเวียร์ เอร์นานเดซยังคงได้ลงสนาม หลังระเบิดฟอร์มในเกมกับวีแกน เพราะตอนแรกคาดกันว่าดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟจะได้จับคู่กับเวย์น รูนี่ย์ในเกมนี้
ครึ่งแรก
แฟนแซวโคลคล้ำ
ในตอนเริ่มเกมกล้องก็ช่างจับภาพไปหาแฟนบอลที่จัดการชูป้ายล้อเลียนโคลที่เพพิ่งจะมีข่าวทำปืนลั่นใส่คนอื่นไปหมาดๆ ด้วยป้ายที่ว่า แอชลี่ย์อย่ายิงนะ!
สิงห์ได้ลุ้นก่อน
เริ่มเกมมาได้ 5 นาทีเป็นเชลซีก่อนเลยที่ได้โอกาส จากจังหวะที่อเนลก้าได้บอลทางริมเส้นก่อนที่จะเปิดตัดกลับเข้ากลางให้มาลูด้าวิ่งมายิงโล่งๆ แต่จำเป็นต้องยิงเน้นให้เข้ากรอบเอาไว้ก่อน บอลเลยตรงตัวของฟาน เดอร์ ซาร์
ผีเซซ้ายเซขวา
ช่วง 10 นาทีแรก เกมของทางเจ้าบ้านเชลซีดูเป็นรูปเป็นร่างมากกว่าเยอะ แถมการเติมเกมรุกก็ดูน่ากลัวกว่าทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่กองกลางดูเหมือนจะช้าเกินไปหน่อย ทำให้ไม่ทันเกมของทาง สิงห์ไฮโซ จังหวะทำเกมรุกก็ดูจะติดขัดพอดู
แลกกันใหญ่
นาทีที่ 15 แมนฯยูไนเต็ดได้ร้องเสียวกันไปก่อน จากจังหวะที่เอฟร่าเล่นชิ่งกับเอร์นานเดซ ก่อนที่จะทะลุเข้าไปเปิดบอลผ่านหน้าประตู น่าเสียดายที่รูนี่ย์เข้าชาร์จไม่ทันทำให้พลาดโอกาสไป
ก่อนที่เชลซีจะโต้กลับคืนและมีโอกาสลุ้นยิงจากทางอเนลก้า แต่บอลก็พุ่งหลุดเสาไกลออกไป พร้อมเสียงบ่นเล็กๆของน้าซาร์ที่ข้องใจว่ากองหลังทำอะไรกัน
ป๋าแอบขำ!หมูโขกผิดจังหวะ
นาทีที่ 21 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันบรมไม่รู้จะเซ็งหรือจะขำดีในจังหวะที่นานี่ลากบอลไปเปิดทางริมเส้นฝั่งซ้าย ตำแหน่งบอลตกใส่รูนี่ย์ที่เสาแรกพอดิบพอดี แต่หัวหอกร่างอวบกลับโหม่งผิดจังหวะบอลโดนหัวไหล่พุ่งไปคนละทางซะงั้น!
กลางผีเริ่มดูดีขึ้น
เล่นกันไปได้สักพักตอนนี้คู่กลางของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดดูจะประสานงานกันได้ดีขึ้นกว่าในช่วงแรกเยอะ(และน่าจะดีกว่าหลายๆนัดที่ผ่านมา) ทำให้เกมของแมนฯยูไนเต็ดดูดีขึ้นตามมาด้วย
เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย!หมูคมกริบส่องเข้าเฉย
นาทีที่ 29 แฟนตะลึงกันเป็นแถบเพราะรูนี่ย์ที่ไม่ค่อยมีใครคิดว่าลูกยิงของเขาจะคมกริบสักเท่าไร แต่จากจังหวะที่นานี่จ่ายบอลให้เขาหน้ากรอบเขตโทษ หัวหอกร่างอวบก็หมุนตัวหาจังหวะแล้วจัดการกดจากนอกกรอบเขตโทษทันที บอลพุ่งขนานกับพื้นแหวกอากาศผ่านมือของเช็กเข้าไปเสียบเสาอย่างสวยงามท่ามกลางความอึ้งของแฟนบอล ปีศาจแดง ชิงนำไปก่อน 1-0
สิงห์เร่งเครื่องเต็มที่
เกมเข้าช่วง 10 นาทีสุดท้าย เชลซีพยายามที่จะเร่งเกมของพวกเขาขึ้นมาเพื่อหวังประตูตีเสมอให้ได้ก่อนที่จะจบครึ่งแรก แต่เกมก็ดูเหมือนกับว่าจะไม่ค่อยมีมิติมากนัก ทำให้ถูกทางทีมเยือนดักบอลเอาไว้ได้
โคตรเสียว!แลมพ์อัดฟรีคิกลุ้นเกือบตาย
นาทีที่ 40 แฟนบอลหยุดหายใจกันทั้งสนาม จากจังหวะที่แลมพาร์ดอัดฟรีคิกไม่ห่างจากนอกกรอบเขตโทษหนักผ่านกำแพงเข้าไป จนทำให้ฟาน เดอร์ ซาร์ต้องล้มตัวปัดบอล อิวาโนวิชพุ่งเข้าซ้ำจ่อๆแต่บอลไปโดนลำตัวทำให้ไม่มีน้ำหนัก ฟาน เดอร์ ซาร์ปัดเอาไว้ได้ก่อนที่อิวาโนวิชจะซ้ำ แล้วก็หมุนตัวปัดบอลอีกจังหวะ ก่อนที่กองหลังของแมนฯยูไนเต็ดจะกรูกันเข้าไปรีบเคลียร์ออกมาได้ทัน เสียวไส้กันทั้งสองฝั่งเลย
ดูจังหวะนี้แล้วไม่ว่าใครก็ต้องคิดว่าแบบนี้แมนฯยูไนเต็ดจะหาตัวแทนที่สมน้ำสมเนื้อกับฟาน เดอร์ ซาร์ที่แขวนถุงมือสิ้นฤดูกาลนี้ได้หรือไม่
ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบ 45 นาทีแรกเป็นทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่บุกมานำเชลซีไปก่อน 1-0 จากเวย์น รูนี่ย์
ครึ่งหลัง
นี่ก็คมกริบ!ลูอิซเปิดซิงสวยโคตร
นาทีที่ 54 หลังจากกดดันได้ตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง เชลซีก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้จากจังหวะที่แมนฯยูไนเต็ดเคลียร์บอลออกไปไม่ขาด เชลซีเก็บตกได้ก่อนที่จะโยนบอมบ์เข้ากรอบเขตโทษ มีผู้เล่นเทคขึ้นแย่งโขกกันแล้วบอลไปเข้าทางลูอิซที่ยืนเอี้ยวตัวชาร์พลังรอเต็มที่ก่อนที่จะซัดวอลเล่ย์บอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปชนิดที่น้าซาร์ได้แต่ยืนทำใจ เชลซีตีเสมอเป็น 1-1 แล้ว
จังหวะนี้ทำให้เอฟร่าเจ็บเพราะพยายามเข้าไปขวางลูกยิงของลูอิซ
ได้เวลาแมลงสาบ
นาทีที่ 61 เวลาที่ดิดิเย่ร์ ดร็อกบารอคอยก็มาถึงเมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัวลงไปเล่นแทนอเนลก้า มีเวลาให้ล่าตาข่ายอยู่ราวครึ่งชั่วโมง
สิงห์ดูดีกว่าแล้ว
ตอนนี้กลายเป็นว่าเกมของเชลซีดูน่ากลัวขึ้นมากกว่าครึ่งแรก แถมยังได้ประตูตีเสมอทำให้กำลังใจเพิ่มพูนอีกเพียบ ถ้าแมนฯยูไนเต็ดพลาดล่ะก็งานนี้ สิงห์ไฮโซ พุ่งเข้าฟัดแน่
หมูทำได้ไม่ดีพอ
อีก 4 นาทีต่อมา รูนี่ย์ทำให้โอกาสทองของทีมหลุดลอยออกไปจากจังหวะที่นานี่แทงบอลให้เขาทะลุหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนที่จะเลี้ยงจี้เข้าไปที่เสาแรก มีเอร์นานเดซรออยู่ตรงกลางและเฟล็ทเชอร์อยู่เสาไกล แต่รูนี่ย์กลับตัดสินใจยิงแถมยังผิดเหลี่ยมผ่านหน้าประตูออกหลังไปไกล
ไม่รอช้า!ป๋าส่งเบิร์บ,ขนดก
นาทีที่ 70 แมนฯยูไนเต็ดจัดการส่งตัวดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟและไรอัน กิ๊กส์ลงสนามแทนเอร์นานเดซและสโคลส์ เพราะดูแล้วรูปเกมของทีมไม่ค่อยจะสู้ดีนัก มิติที่ต่างออกไปของสองแข้งที่เพิ่งส่งลงสนามน่าจะทำให้เกิดความแตกต่างขึ้นได้
ส่วนทางเชลซีก็ส่งยูริ เชอร์คอฟลงเล่นแทนฟลอร็องต์ มาลูด้า
ลูอิซรอดตัวเฉย
นาทีที่ 74 ลูอิซรอดพ้นจากการถูกไล่ออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ จากจังหวะที่เขาไปเจตนาสกัดรูนี่ย์ในจังหวะที่จ่ายบอลไปแล้วจะวิ่งไปทำทาง โดยการเอาขาดักไปที่เข่าจนไอ้หมูล้มลงไปดิ้นพงาบ แต่กรรมการไม่ว่าอะไรเฉย
จังหวะนี้ทำให้เซอร์ อเล็กซ์ถึงกับควันออกหูบ่นใส่ผู้ตัดสินที่ 4 แทบไม่หยุดปากเลย
ผีช็อก!น้องเล็กทำเสียจุดโทษ
อีก 4 นาทีต่อมา เชลซีมาได้จุดโทษจากจังหวะที่สอมลลิ่งไปยืนขาตายแล้วไปขัดเอาขาของเชอร์คอฟ ทำให้ผู้ตัดสินวิ่งมาเป่าให้เป็นจุดโทษทันที แม้จะมีการประท้วงจากผู้เล่นของ ปีศาจแดง แต่ก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใด
แลมพาร์ดรับหน้าที่จัดจุดโทษเข้าไปด้วยความรุนแรงทะลุผ่านตัวของฟาน เดอร์ ซาร์เข้าไปตุงตาข่ายแทบขาด เชลซีพลิกขึ้นนำ 2-1 แล้ว
อันเช่หัวหมอเปลี่ยนลูอิซออก
อีก 2 นาทีต่อมา อันเชล็อตติไม่รีรอให้เสียประโยชน์จัดการเปลี่ยนลูอิซที่รอดพ้นใบแดงออกไปแล้วส่งโจเซ่โบซิงวาลงไปเล่นแทน
ส่วนแมนฯยูไนเต็ดนั้นส่งฟาบิโอลงไปเล่นแทนเอฟร่าที่มีอาการบาดเจ็บติดค้างอยู่แล้ว
ผีรอดตาย!เชอร์คอฟยิงโคตรน่าได้
นาทีที่ 82 แมนฯยูไนเต็ดรอดพ้นจากการเสียประตูที่ 3 จากจังหวะโหม่งสกัดเคลียร์ออกมาเข้าทางเชอร์คอฟที่วิ่งมาอัดเต็มๆ บอลพุ่งแหวกฝูงกองหลังของแมนฯยูไนเต็ดกำลังจะเข้าประตูไปอยู่แล้ว แต่ไปติดขาของวิดิชแล้วชนเสาเด้งออกไป
วิดิชสุ่มเสี่ยง
ช่วงทดเวลานาทีแรก วิดิชไปเอาตัวเองเสี่ยงเสียวต่อการที่จะโดนใบแดงจากจังหวะไปเจตนากระแทกดร็อกบาจากด้านหลังในจังหวะที่กำลังจะพลิกบอลเข้ากรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ให้เพียงฟรีคิกนอกกรอบเท่านั้น
เละเทะ!วิดิชโดนจนได้
ทำตัวเองแท้ๆสำหรับวิดิชที่ทำฟาวล์พร่ำเพื่อทั้งๆที่ตัวเองมีใบเหลืองอยู่แล้ว ไปดึงรามิเรสล้มลงในจังหวะกำลังจะหลุดเข้ากรอบ ทำให้ผู้ตัดสินวิ่งมาแจกใบเหลืองที่สองเป็นแดงทันที แมนฯยูไนเต็ดเละเทะเสียหายอย่างหนักสำหรับเกมนี้
จบ 90 นาทีเป็นเชลซีที่ไล่แซงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะไปได้ 2-1 ทำให้มีเพิ่มเป็น 48 คะแนนขยับขึ้นอันดับที่ 4 แทนที่สเปอร์ส ส่วนแมนฯยูไนเต็ดมี 60 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,ดาวิด ลูอิซ(โบซิงวา น.81),จอห์น เทอร์รี่,แอชลี่ย์ โคล,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,มิชาเอล เอสเซียง,แฟรงค์ แลมพาร์ด,รามิเรส,ฟลอร็องต์ มาลูด้า(เชอร์คอฟ น.71),เฟร์นานโด ตอร์เรส,นิโกลาส์ อเนลก้า(ดร็อกบา น.61)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,เนมันย่า วิดิช,คริส สมอลลิ่ง,ปาทริซ เอฟร่า(ฟาบิโอ น.81),จอห์น โอเชีย,ไมเคิ่ล คาร์ริค,พอล สโคลส์(กิ๊กส์ น.70),นานี่,ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์,ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ(เบอร์บาตอฟ น.70),เวย์น รูนี่ย์
_________________
สนับสนุนข่าวโดย www.lentee.com เล่นที่ดอทคอม ประกาศซื้อขายที่ฟรี พบที่ดินแปลงสวย ตลอด 24 ชม.
ฟันแทบหัก ขี้แทบเล็ด อีแอบพ่ายจุดโทษอีหอยอนาถ ข่าวลือจากอีกี้เงินยัดไม่สู้หอย
หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ ปีศาจแดง แมนยู ฟันแทบหัก ขี้แทบเล็ด อีแอบพ่ายจุดโทษอีหอยอนาถ ข่าวลือจากอีกี้เงินยัดไม่สู้หอย
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!