แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกไปเอาชนะบูร์ซาสปอร์แบบไม่ยากเย็นสักเท่าไร 3-0 โดยได้ประตูจากตัวเอ้อย่างดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และกาเบรียล โอแบร์ตอง และเบเบ้ที่ควรกันเปิดซิงประตูแรกในรายการนี้
แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม C
วันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2553
บูร์ซาสปอร์ 0 : 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประตู : 0-1 ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ น.48,0-2 กาเบรียล โอแบร์ตอง น.73,0-3 เบเบ้ น.77
ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยกพลออกไปเยือนบูร์ซาสปอร์ถึงประเทศตุรกีในเกมนัดที่ 4 ของรอบแบ่งกลุ่มแชมป์เปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม C ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการพบกันระหว่างจ่าฝูง และบ๊วยของกลุ่มด้วย
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเลือกใช้ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟยืนเป็นหัวหอกเดี่ยวในแดนหน้าขนาบข้างด้วยหลุยส์ นานี่ และกาเบรียล โอแบร์ตองที่ได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงเลย
ในขณะที่แดนกลางใช้ 3 ประสานอย่างดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์ และไมเคิ่ล คาร์ริค
ในขณะที่แดนหลังไม่มีทั้งริโอ เฟอร์ดินานด์ และจอนนี่ อีแวนส์ ทำให้คริส สมอลลิ่งได้รับโอกาสลงจับคู่กับทางเนมันย่า วิดิชกัปตันทีมพันธุ์แกร่ง
ครึ่งแรก
เจ้าบ้านกำลังใจดี
เกมผ่าน 10 นาทีแรกก็เป็นทางเจ้าบ้านบูร์ซาสปอร์ที่วันนี้มากันดี ต่อบอล จ่ายทำเกมกันแบบผิดพลาดค่อนข้างน้อย ซึ่งน่าจะมาจากเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มทั่วสนาม ผิดกับทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่แม้จะอัดกองกลางมา 5 ตัว แต่กลับครองบอลทำเกมกันไม่ค่อยดีนัก แต่ก็มีโอกาสจบจากทางดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟเหมือนกัน เพียงแต่ลูกโหม่งมันเบาไปหน่อย
ผีเริ่มฟื้นแล้ว
หลังจากช่วงต้น ๆ เกมเหมือนจะขาดๆเกินๆไปบ้าง แต่พอผ่านเข้าสู่ช่วง 20 นาที แมนฯยูไนเต็ดก็ทำเกมกันได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ดูวูบวาบและน่ากลัวขึ้น เพียงแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่มีให้เห็นเท่าไร
พี่ติ๊กพลาด!เกือบพัง อีก 2 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดเกือบช็อกตาค้าง จากความผิดพลาดของปาทริซ เอฟร่าที่มอบโชคให้กับทางบูร์ซาสปอร์ ปล่อยให้เซร์แคน ยิลดิริมหลุดจี้เข้าถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนไหลใส่พานให้กับบาฮาเดียร์หลุดเข้าไปล่อเป้าโล่ง ๆ แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมยิงจังหวะแรก ทำให้ถูกเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ออกมาปิดมุม และยิงติดบล็อกไป
ผีเซ็ง!บังเจ็บถอดออกเลย
นาทีที่ 24 แมนฯยูไนเต็ดเหงื่อตกกลีับเพราะตัวความหวังในการทำเกมอย่างหลุยส์ นานี่เกิดมีอาการบาดเจ็บขึ้นมา และไม่สามารถเล่นต่อได้ ทำให้ต้องเดินออกมานั่งที่ม้านั่งสำรองทันที เพราะอาการไม่ไหวจริงๆ
กว่าปาร์ค จี ซุงจะวอร์มเสร็จและได้รับโอกาสลงสนามก็ต้องรออีก 4 นาทีให้หลัง
ผีทำดีแต่พลาดเองหมด
นาทีที่ 32 หลังโดนทางเจ้าบ้านกดดันอยู่สักนาทีสองนาที แมนฯยูไนเต็ดก็ได้โอกาสทำเกมบุกขึ้นไปมีโอกาสลุ้นถึง 3 จังหวะต่อเนื่อง ทั้งลูกจ่ายทะลุช่องที่แรงไปของเบอร์บาตอฟให้กับโอแบร์ตอง, จังหวะยิงในกรอบเขตโทษของสโคลส์ที่วืดไป และลูกยิงวอลเล่ย์ที่เสาสองของเฟล็ทเชอร์ที่ปาดหน้าประตูออกหลังไป
เกมทรงๆกันทั้งคู่
เข้าช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เกมของแมนฯยูไนเต็ดที่เหมือนจะดีแต่ไม่สุด เพราะจังหวะจ่ายบอลเหมือนจะไม่ค่อยพอดีกับเพื่อนสักเท่าไรในพื้นที่หน้าเขตโทษ ส่วนทางบูร์ซาสปอร์นั้นมีโอกาสทำเกมจี้ขึ้นไปในแดนของทีมเยือนเหมือนกัน แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่มี
หมามุ่ยยิงเข้าแต่โดนจับแฮนด์บอล
นาทีที่ 42 พอล สโคลส์อุตส่าหลุดเข้าไปเดี่ยวๆในกรอบเขตโทษ หลังจากจังหวะขลุกขลิกกันหน้ากรอบเขตโทษ ได้เลือกซัดเหน่งๆเข้าไปตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าว่าเป็นแฮนด์บอลในจังหวะที่เขาพยายามจะพักบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนยิงนั่นเอง
ซึ่งดูจากภาพช้าแล้วก็เป็นไปตามการตัดสินจริง ๆ เพราะบอลโดนมือของทางสโคลส์ก่อน
น้าซาร์เตะบอลเกือบโดนส่องหมู
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ดเอาตัวเองไปเสี่ยงอีกครั้งจากความผิดพลาดของนักเตะในทีม จากจังหวะที่กองหลังพยายามจะรีบจ่ายบอลคืนให้กับเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ที่ต้องรีบเตะขึ้นมาเช่นกัน เพราะโดนทางผู้เล่นของบูร์ซาสปอร์บีบเข้ากดดัน เลยทำให้เตะไม่ขึ้น และบอลไปเข้าทางแข้งเจ้าบ้าน ยังดีที่จังหวะยิงสวนทันทีนั้นบอลไม่ตรงกรอบ ไม่งั้นได้น้ำตาตกในกันแน่ๆสำหรับ ปีศาจแดง
จบ 45 นาทีแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังคงเสมอกับทางบูร์ซาสปอร์อยู่ 0-0 แบบเกมชืดๆเช่นเคย
ครึ่งหลัง
โคตรไว!ผีขึ้นนำเร็วเลย
เริ่มครึ่งหลังมาได้่แค่ 3 นาทีเท่านั้น แมนฯยูไนเต็ดก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ไมเคิ่ล คาร์ริคจ่ายบอลไให้ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ที่ยืนวางในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เพราะผู้เล่นของบูร์ซาสปอร์เทไปอีกข้างหมด เฟล็ทเชอร์เลยได้ตั้งป้อมยิงเหน่งๆ บอลพุ่งเลียดเข้าไปเสียบเสาไกลอย่างเด็ดขาด แมนฯยูไนเต็ดออกนำไปแล้ว 1-0
เจ้าถิ่นลุ้นเสียวนิดหน่อย นาทีที่ 55 เจ้าถิ่นบูร์ซาสปอร์ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่อินซัวได้บอลในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะยึกหลอกหนึ่งจังหวะแล้วรีบยิงไปเสาแรกทันที แต่เหมือนจะยิงไม่ดีเท่าไร ทำให้บอลพุ่งตรงตัวของเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ที่ยืนรับสบาย
ผีส่งเบเบ้ประเดิม CL
นาทีที่ 63 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปลี่ยนเอาดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ที่ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาบาดเจ็บที่ข้อเท้าเล็กน้อยออก และส่งเบเบ้ลงประเดิมสนามในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกเป็นเกมแรกเลย
หมามุ่ยโขกหลุดเสา
อีก 4 นาทีต่อมา พอล สโคลส์เกือบจะทำประตูนำห่างให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ จากจังหวะเตะมุมที่กาเบรียล โอแบร์ตองเิปิดบอลแบบพุ่ง ๆ เข้ามาบริเวณกึ่งๆเสาแรก สโคลส์เทคตัวขึ้นสะบัดหัวโหม่งไปเสาสอง แต่บอลหลุดออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น
อบต.ยิงสนั่นลั่นสนาม!
นาทีที่ 73 กาเบรียล โอแบร์ตองเปิดซิงประตูแรกของตัวเองในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกได้ด้วยประตูอันยอดเยี่ยม หลังจากรับลูกจ่ายของปาร์ค จี ซุงหน้ากรอบเขตโทษ ยึกหลอกกองหลังเพื่อแตะบอลให้เข้าขวา แล้วก็จัดการตะบันเต็มข้อทันที บอลพุ่งแรงโคตรเข้าไปเสียบตาข่า่ยชนิดที่แม้ว่าบอลจะไม่ห่างตัวผู้รักษาประตูแต่รับยังไงก็ไม่ทัน ปีศาจแดง ทิ้งห่าง 2-0 แล้ว
เปิด(2)ซิง!เบเบ้ซัดประเดิมสวย
อีกแค่ 4 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดก็ได้ประตูนำห่าง 3-0 แบบทันด่วน จากจังหวะที่พอล สโคลส์เก็บตกบอลได้บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนเหลือบเห็นช่องจ่ายให้กับเบเบ้พลิกตัวเข้าไปดีดบอลหนีทั้งกองหลังที่พุ่งเข้ามาสไลด์ และหนีมือผู้รักษาประตูเข้าไปเสียบเสาแรกอย่างสวยงาม พังประตูแรกของตัวเองในเกมนัดแรกที่ลงสนามในรายการนี้ได้สำเร็จ
เบิร์บเล่นไม่ออกอย่างแรง
วันนี้คนที่ดูจะน่าผิดหวังที่สุดคงไม่พ้นดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่เล่นติด ๆ ขัด ๆ ตลอดทั้งเกม จะทำอะไรก็ไม่ได้อย่างใจสักอย่าง แถมยังล้ำหน้าเป็นว่าเล่น จนเจ้าตัวออกอาการหงุดหงิดตลอดทั้งเกม เชื่อว่าวันนี้คงไม่ใช่วันของเขาสักเท่าไร
ต้องแบบนี้!แฟนเจ้าบ้านร้องเพลงกระหึ่ม
แม้ว่าทีมจะโดนนำห่าง 3-0 และคงจะหมดสิทธิ์เข้ารอบแล้วแน่นอน แต่ทางกองเชียร์ของบูร์ซาสปอร์ก็ยังคงตะโกนร้องเพลงเชียร์ และเต้นไปพร้อมๆกัน เป็นภาพที่น่าขนลุก และน่าประทับใจดีแท้ที่ได้เห็น
เฮ้อ!เบิร์บก่ะอาร์ตทำพลาดเป้า
นาทีสุดท้ายของเกม เบเบ้อุตส่าห์พาบอลขึ้นไปทางขวาแล้วเปิดกลับให้กับดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่เติมขึ้นไปทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายได้อย่างพอดิบพอดี แต่พ่อยอดศิลปินกลับชักช้า พยายามกดสูตรเดิมด้วยการดึงจังหวะ แล้วค่อยๆบรรจงปั่นไปเสาสอง
ผลคือบอลออกหลังไปแบบไม่ได้หลุด และเจ้าตัวก็ผิดหวังตามฟอร์ม
จบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะบูร์ซาสปอร์ไปได้ 3-0 เก็บ 3 คะแนนได้อีกรวมเป็น 10 คะแนน ยึดจ่าฝูงไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แถมยังไม่เสียประตูเลยด้วย
ด้านบูร์ซาสปอร์ก็ยังคงไม่สามารถทำประตูได้ต่อไป รวมทั้งยังมีเพียง 0 คะแนนเท่านั้น
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บูร์ซาสปอร์ : ดิมิทาร์ อิวานอฟ อิวานคอฟ 6,อิบราฮิม ออซเติร์ค 6,ออแมร์ เออร์โดแกน 6,แวแดร์สัน 5.5,อาลี แทนโดแกน 5.5,อิวาน อีร์กิซ 5.5,กุสตาฟ สเวนส์สัน 5.5,โวลาน เซน 6 (โอดาเบซี่ น.81.5.5),ตูร์กาย บาฮาเดียร์ 5.5,เซร์แคน ยิลดิริม 6.5 (อีเป็ก น.74.5.5),เฟดเดริโก้ อินซัว 6 (นูเนซ น.74.5.5)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 7,เนมันย่า วิดิช 6.5,คริส สมอลลิ่ง 7, ปาทริซ เอฟร่า 6.5, ฟาบิโอ น.81.6.5),ราฟาเอล,ไมเคิ่ล คาร์ริค 6.5,พอล สโคลส์ 8**,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 6,ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ 7 เบ้ น.63.7),กาเบรียล โอแบร์ตอง 7,นานี่ 5.5(ปาร์ค น.29.6.5)
_________________
ขอบคุณเนื้อข่าวจาก เฟล็ท-ตอง-เบ้!ซัดกันคนละตุงผีตบนิ่ม 3-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกไปเอาชนะบูร์ซาสปอร์แบบไม่ยากเย็นสักเท่าไร 3-0 โดยได้ประตูจากตัวเอ้อย่างดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และกาเบรียล โอแบร์ตอง และเบเบ้ที่ควรกันเปิดซิงประตูแรกในรายการนี้
แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม C
วันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2553
บูร์ซาสปอร์ 0 : 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประตู : 0-1 ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ น.48,0-2 กาเบรียล โอแบร์ตอง น.73,0-3 เบเบ้ น.77
ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยกพลออกไปเยือนบูร์ซาสปอร์ถึงประเทศตุรกีในเกมนัดที่ 4 ของรอบแบ่งกลุ่มแชมป์เปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม C ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการพบกันระหว่างจ่าฝูง และบ๊วยของกลุ่มด้วย
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเลือกใช้ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟยืนเป็นหัวหอกเดี่ยวในแดนหน้าขนาบข้างด้วยหลุยส์ นานี่ และกาเบรียล โอแบร์ตองที่ได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงเลย
ในขณะที่แดนกลางใช้ 3 ประสานอย่างดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์ และไมเคิ่ล คาร์ริค
ในขณะที่แดนหลังไม่มีทั้งริโอ เฟอร์ดินานด์ และจอนนี่ อีแวนส์ ทำให้คริส สมอลลิ่งได้รับโอกาสลงจับคู่กับทางเนมันย่า วิดิชกัปตันทีมพันธุ์แกร่ง
ครึ่งแรก
เจ้าบ้านกำลังใจดี
เกมผ่าน 10 นาทีแรกก็เป็นทางเจ้าบ้านบูร์ซาสปอร์ที่วันนี้มากันดี ต่อบอล จ่ายทำเกมกันแบบผิดพลาดค่อนข้างน้อย ซึ่งน่าจะมาจากเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มทั่วสนาม ผิดกับทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่แม้จะอัดกองกลางมา 5 ตัว แต่กลับครองบอลทำเกมกันไม่ค่อยดีนัก แต่ก็มีโอกาสจบจากทางดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟเหมือนกัน เพียงแต่ลูกโหม่งมันเบาไปหน่อย
ผีเริ่มฟื้นแล้ว
หลังจากช่วงต้น ๆ เกมเหมือนจะขาดๆเกินๆไปบ้าง แต่พอผ่านเข้าสู่ช่วง 20 นาที แมนฯยูไนเต็ดก็ทำเกมกันได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ดูวูบวาบและน่ากลัวขึ้น เพียงแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่มีให้เห็นเท่าไร
พี่ติ๊กพลาด!เกือบพัง อีก 2 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดเกือบช็อกตาค้าง จากความผิดพลาดของปาทริซ เอฟร่าที่มอบโชคให้กับทางบูร์ซาสปอร์ ปล่อยให้เซร์แคน ยิลดิริมหลุดจี้เข้าถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนไหลใส่พานให้กับบาฮาเดียร์หลุดเข้าไปล่อเป้าโล่ง ๆ แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมยิงจังหวะแรก ทำให้ถูกเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ออกมาปิดมุม และยิงติดบล็อกไป
ผีเซ็ง!บังเจ็บถอดออกเลย
นาทีที่ 24 แมนฯยูไนเต็ดเหงื่อตกกลีับเพราะตัวความหวังในการทำเกมอย่างหลุยส์ นานี่เกิดมีอาการบาดเจ็บขึ้นมา และไม่สามารถเล่นต่อได้ ทำให้ต้องเดินออกมานั่งที่ม้านั่งสำรองทันที เพราะอาการไม่ไหวจริงๆ
กว่าปาร์ค จี ซุงจะวอร์มเสร็จและได้รับโอกาสลงสนามก็ต้องรออีก 4 นาทีให้หลัง
ผีทำดีแต่พลาดเองหมด
นาทีที่ 32 หลังโดนทางเจ้าบ้านกดดันอยู่สักนาทีสองนาที แมนฯยูไนเต็ดก็ได้โอกาสทำเกมบุกขึ้นไปมีโอกาสลุ้นถึง 3 จังหวะต่อเนื่อง ทั้งลูกจ่ายทะลุช่องที่แรงไปของเบอร์บาตอฟให้กับโอแบร์ตอง, จังหวะยิงในกรอบเขตโทษของสโคลส์ที่วืดไป และลูกยิงวอลเล่ย์ที่เสาสองของเฟล็ทเชอร์ที่ปาดหน้าประตูออกหลังไป
เกมทรงๆกันทั้งคู่
เข้าช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เกมของแมนฯยูไนเต็ดที่เหมือนจะดีแต่ไม่สุด เพราะจังหวะจ่ายบอลเหมือนจะไม่ค่อยพอดีกับเพื่อนสักเท่าไรในพื้นที่หน้าเขตโทษ ส่วนทางบูร์ซาสปอร์นั้นมีโอกาสทำเกมจี้ขึ้นไปในแดนของทีมเยือนเหมือนกัน แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่มี
หมามุ่ยยิงเข้าแต่โดนจับแฮนด์บอล
นาทีที่ 42 พอล สโคลส์อุตส่าหลุดเข้าไปเดี่ยวๆในกรอบเขตโทษ หลังจากจังหวะขลุกขลิกกันหน้ากรอบเขตโทษ ได้เลือกซัดเหน่งๆเข้าไปตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าว่าเป็นแฮนด์บอลในจังหวะที่เขาพยายามจะพักบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนยิงนั่นเอง
ซึ่งดูจากภาพช้าแล้วก็เป็นไปตามการตัดสินจริง ๆ เพราะบอลโดนมือของทางสโคลส์ก่อน
น้าซาร์เตะบอลเกือบโดนส่องหมู
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ดเอาตัวเองไปเสี่ยงอีกครั้งจากความผิดพลาดของนักเตะในทีม จากจังหวะที่กองหลังพยายามจะรีบจ่ายบอลคืนให้กับเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ที่ต้องรีบเตะขึ้นมาเช่นกัน เพราะโดนทางผู้เล่นของบูร์ซาสปอร์บีบเข้ากดดัน เลยทำให้เตะไม่ขึ้น และบอลไปเข้าทางแข้งเจ้าบ้าน ยังดีที่จังหวะยิงสวนทันทีนั้นบอลไม่ตรงกรอบ ไม่งั้นได้น้ำตาตกในกันแน่ๆสำหรับ ปีศาจแดง
จบ 45 นาทีแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังคงเสมอกับทางบูร์ซาสปอร์อยู่ 0-0 แบบเกมชืดๆเช่นเคย
ครึ่งหลัง
โคตรไว!ผีขึ้นนำเร็วเลย
เริ่มครึ่งหลังมาได้่แค่ 3 นาทีเท่านั้น แมนฯยูไนเต็ดก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ไมเคิ่ล คาร์ริคจ่ายบอลไให้ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ที่ยืนวางในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เพราะผู้เล่นของบูร์ซาสปอร์เทไปอีกข้างหมด เฟล็ทเชอร์เลยได้ตั้งป้อมยิงเหน่งๆ บอลพุ่งเลียดเข้าไปเสียบเสาไกลอย่างเด็ดขาด แมนฯยูไนเต็ดออกนำไปแล้ว 1-0
เจ้าถิ่นลุ้นเสียวนิดหน่อย นาทีที่ 55 เจ้าถิ่นบูร์ซาสปอร์ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่อินซัวได้บอลในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะยึกหลอกหนึ่งจังหวะแล้วรีบยิงไปเสาแรกทันที แต่เหมือนจะยิงไม่ดีเท่าไร ทำให้บอลพุ่งตรงตัวของเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ที่ยืนรับสบาย
ผีส่งเบเบ้ประเดิม CL
นาทีที่ 63 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปลี่ยนเอาดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ที่ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาบาดเจ็บที่ข้อเท้าเล็กน้อยออก และส่งเบเบ้ลงประเดิมสนามในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกเป็นเกมแรกเลย
หมามุ่ยโขกหลุดเสา
อีก 4 นาทีต่อมา พอล สโคลส์เกือบจะทำประตูนำห่างให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ จากจังหวะเตะมุมที่กาเบรียล โอแบร์ตองเิปิดบอลแบบพุ่ง ๆ เข้ามาบริเวณกึ่งๆเสาแรก สโคลส์เทคตัวขึ้นสะบัดหัวโหม่งไปเสาสอง แต่บอลหลุดออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น
อบต.ยิงสนั่นลั่นสนาม!
นาทีที่ 73 กาเบรียล โอแบร์ตองเปิดซิงประตูแรกของตัวเองในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกได้ด้วยประตูอันยอดเยี่ยม หลังจากรับลูกจ่ายของปาร์ค จี ซุงหน้ากรอบเขตโทษ ยึกหลอกกองหลังเพื่อแตะบอลให้เข้าขวา แล้วก็จัดการตะบันเต็มข้อทันที บอลพุ่งแรงโคตรเข้าไปเสียบตาข่า่ยชนิดที่แม้ว่าบอลจะไม่ห่างตัวผู้รักษาประตูแต่รับยังไงก็ไม่ทัน ปีศาจแดง ทิ้งห่าง 2-0 แล้ว
เปิด(2)ซิง!เบเบ้ซัดประเดิมสวย
อีกแค่ 4 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดก็ได้ประตูนำห่าง 3-0 แบบทันด่วน จากจังหวะที่พอล สโคลส์เก็บตกบอลได้บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนเหลือบเห็นช่องจ่ายให้กับเบเบ้พลิกตัวเข้าไปดีดบอลหนีทั้งกองหลังที่พุ่งเข้ามาสไลด์ และหนีมือผู้รักษาประตูเข้าไปเสียบเสาแรกอย่างสวยงาม พังประตูแรกของตัวเองในเกมนัดแรกที่ลงสนามในรายการนี้ได้สำเร็จ
เบิร์บเล่นไม่ออกอย่างแรง
วันนี้คนที่ดูจะน่าผิดหวังที่สุดคงไม่พ้นดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่เล่นติด ๆ ขัด ๆ ตลอดทั้งเกม จะทำอะไรก็ไม่ได้อย่างใจสักอย่าง แถมยังล้ำหน้าเป็นว่าเล่น จนเจ้าตัวออกอาการหงุดหงิดตลอดทั้งเกม เชื่อว่าวันนี้คงไม่ใช่วันของเขาสักเท่าไร
ต้องแบบนี้!แฟนเจ้าบ้านร้องเพลงกระหึ่ม
แม้ว่าทีมจะโดนนำห่าง 3-0 และคงจะหมดสิทธิ์เข้ารอบแล้วแน่นอน แต่ทางกองเชียร์ของบูร์ซาสปอร์ก็ยังคงตะโกนร้องเพลงเชียร์ และเต้นไปพร้อมๆกัน เป็นภาพที่น่าขนลุก และน่าประทับใจดีแท้ที่ได้เห็น
เฮ้อ!เบิร์บก่ะอาร์ตทำพลาดเป้า
นาทีสุดท้ายของเกม เบเบ้อุตส่าห์พาบอลขึ้นไปทางขวาแล้วเปิดกลับให้กับดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่เติมขึ้นไปทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายได้อย่างพอดิบพอดี แต่พ่อยอดศิลปินกลับชักช้า พยายามกดสูตรเดิมด้วยการดึงจังหวะ แล้วค่อยๆบรรจงปั่นไปเสาสอง
ผลคือบอลออกหลังไปแบบไม่ได้หลุด และเจ้าตัวก็ผิดหวังตามฟอร์ม
จบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะบูร์ซาสปอร์ไปได้ 3-0 เก็บ 3 คะแนนได้อีกรวมเป็น 10 คะแนน ยึดจ่าฝูงไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แถมยังไม่เสียประตูเลยด้วย
ด้านบูร์ซาสปอร์ก็ยังคงไม่สามารถทำประตูได้ต่อไป รวมทั้งยังมีเพียง 0 คะแนนเท่านั้น
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บูร์ซาสปอร์ : ดิมิทาร์ อิวานอฟ อิวานคอฟ 6,อิบราฮิม ออซเติร์ค 6,ออแมร์ เออร์โดแกน 6,แวแดร์สัน 5.5,อาลี แทนโดแกน 5.5,อิวาน อีร์กิซ 5.5,กุสตาฟ สเวนส์สัน 5.5,โวลาน เซน 6 (โอดาเบซี่ น.81.5.5),ตูร์กาย บาฮาเดียร์ 5.5,เซร์แคน ยิลดิริม 6.5 (อีเป็ก น.74.5.5),เฟดเดริโก้ อินซัว 6 (นูเนซ น.74.5.5)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 7,เนมันย่า วิดิช 6.5,คริส สมอลลิ่ง 7, ปาทริซ เอฟร่า 6.5, ฟาบิโอ น.81.6.5),ราฟาเอล,ไมเคิ่ล คาร์ริค 6.5,พอล สโคลส์ 8**,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 6,ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ 7 เบ้ น.63.7),กาเบรียล โอแบร์ตอง 7,นานี่ 5.5(ปาร์ค น.29.6.5)
_________________
เครดิต www.lentee.com
สนับสนุนข่าวโดย www.lentee.com เล่นที่ดอทคอม ประกาศซื้อขายที่ฟรี พบที่ดินแปลงสวย ตลอด 24 ชม.


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday