ในยามที่รูนหิว....(เงิน)?
เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว ประชาชนทุกหมู่เหล่าที่อุทิศจิตวิญญาณให้กับการเชียร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือแม้แต่กองเชียร์ของทีมอื่นคงต้องอึ้งทึ่งเสียวกับบทสัมภาษณ์ผ่านโพยในมือของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก่อนนำลูกทีมลงฟาดแข้งกับ บูร์ซาสปอร์ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อบรมกุนซือวัย 68 ปี ยืนยันถึงเจตนารมณ์ เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าร่างตันของทีมว่าต้องการย้ายก้นออกจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซะงั้น
ขณะที่หน้าที่สื่อกีฬาทั่วทั้งโลก ต่างพร้อมใจกันวิเคราะห์หาสาเหตุการติดเชื้อโรค หมดใจ ของดาวยิงวัย 25 ปี และได้ข้อสรุปว่าสายใยระหว่างนักเตะกับ ปีศาจแดง ได้ขาดสะบั้นลงหลังเกม พรีเมียร์ลีก ที่ทีมบุกเสมอ ซันเดอร์แลนด์ แบบไร้สกอร์ เมื่อ 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งอดีตแข้งลูกหม้อของ เอฟเวอร์ตัน ถูกติดสนับตูดอยู่ข้างสนาม ด้วยเหตุผลเรื่องอาการบาดเจ็บตามคำกล่าวอ้างของ เฟอร์กี้ ทว่า เจ้าตัวได้ออกมาเปิดศึกงัดข้อโดยยืนยันว่าตนไม่ได้มีอาการเดี้ยงแม้แต่น้อย
ส่วนจุดหมายสำหรับอาชีพค้าแข้งของหอกร่างตัน ตามการคาดการณ์ของสื่อ มีอยู่ 4 สโมสร ประกอบด้วย บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด 2 ยักษ์ใหญ่จากศึก ลา ลีกา และ เชลซี กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอริร่วมลีก โดยในรายหลังดูจะมีภาษีดีที่สุดที่จะได้ตัวนักเตะไปครอบครอง จากสาเหตุที่สามารถทุ่มเงินค่าเหนื่อยได้อย่างไม่อั้น รวมถึงไม่ต้องวุ่นวายในการหอบหิ้วครอบครัวย้ายสำมะโนไปอยู่ในต่างบ้านต่างเมือง ซึ่งเดือดร้อนถึงแฟนบอล เร้ด อาร์มี่ส์ ทั่วทั้งเมือง แมนเชสเตอร์ ต้องบุกไปชูป้าย(ด่า)? ถึงหน้าบ้านของนักเตะ เพื่อเรียกร้องใม่ให้หัวหอกหมายเลขหนึ่งของทีมชาติอังกฤษ ย้ายไปล่องลงเรือใบหมื่นล้านเหมือนกับนักเตะระดับดาวดังหลายรายก่อนหน้านี้ ที่แสดงอาการหิว(เงิน)ด้วยการยอมย้ายมาค้าแข้งร่วมกับทีมที่มีบรรดาศักดิ์ต่ำชั้นกว่าต้นสังกัดเดิมของแต่ละคน
อย่างไรก็ตาม หัวหอกซึ่งมีเลือดเนื้อเชื้อไขของ ทอฟฟี่เมน เต็มตัว ก็ได้ออกมาปริปากยอมรับความต้องการที่จะชิ่งหนีออกจากโรงละครแห่งความฝัน โดยให้เหตุผลแบบข้างๆ คูๆ ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขาดความทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จ เมื่อขาดการเสริมทัพด้วยนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์มาสู่ทีม เพื่อมาสนับสนุนให้ตัวเองถล่มประตูได้อย่างเมื่อซีซั่นที่แล้ว ซึ่งฟังแล้วอยากจะถามย้อนมันกลับไปจังเลยว่า แล้วนักเตะชุดปัจจุบัน มันต่างจากชุดเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่ช่วยให้มันยิงได้ถล่มทลายตรงไหน? แล้วที่มาของฟอร์มอันห่วยบรมของมัน ทำไมจึงไม่เกิดขึ้นกับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หรือเด็กใหม่อย่าง ชิชาริโต้ โชว์ฟอร์มได้คุ้มกับค่าตัวอย่างรวดเร็ว?
สำหรับผลงานของ ปีศาจแดง ที่ยังคงเกาะกลุ่มอยู่บนหัวตารางได้ในฤดูกาลนี้ เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของดาวยิงชาวบัลแกเรีย รวมถึง หลุยส์ นานี่ เป็นหลัก และ แทบจะไม่มีผลงานของ รูนี่ย์ นอกเสียจากลูกจุดโทษในเกมเปิดบ้านไล่ต้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เพราะส่วนใหญ่จะถูกอาการเดี้ยงเล่นงาน แถมยังมีงานเข้าที่บ้านจากกรณีไปนอนผิดเตียงเมื่อปีที่แล้ว มารบกวนสภาพจิตใจอยู่ตลอดเวลา แล้วมันสมเหตุสมผลแล้วหรือที่จะมาถามหาความทะเยอทะยานของต้นสังกัด ขณะที่ฟอร์มการเล่นของตัวเองยังออกทะเลแบบกู่ไม่กลับขนาดนี้ นอกเสียจากอาการของโรคหิว(เงิน) นั่นเอง
ด้านกูรูหลายจากหลายสำนักก็ออกมาให้ความเห็นถึงกรณีหมูหิว(เงิน) กันมากมาย ทั้งในเชิงสนับสนุน อาทิ รอย คีน อดีตกัปตันทีมผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำตัวไม่สมกับความรักที่แฟน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีให้เสมอมา ด้วยการออกโรงสนับสนุนให้แข้งรุ่นน้องคิดถึงผลประโยชน์ของตัวเองไว้เป็นหลักซะงั้น แม้จะหยอดคำหวานทิ้งท้ายไว้บ้างว่า ปีศาจแดง จะยังคงยิ่งใหญ่เสมอแม้ไร้เงา รูนี่ย์ ก็ตาม
ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ที่ออกโรงด่าสามีของคุณ คอลีน ได้ถูกใจผมอย่างแรง ประกอบด้วย มิค แม็คคาร์รี่ บอสทีม วูล์ฟแฮมตัน วันเดอเรอร์ส ที่เปรียบเปรยการคำถามของ รูนี่ย์ ที่เรียกหาความทะเยอทะยานจากค่าปีศาจว่าเปรียบเสมือนการตั้งคำถามกับ บิล เกทส์ ถึงนโยบายการบริหารบริษัท ไมโครซอฟ ขณะที่ แมทธิว เลอทิสซิเอร์ อดีตตำนานแข้งทีม เซาธ์แฮมตัน ที่ด่าอย่างตรงไปตรงมาว่า ไอ้พวกหน้าเงิน และไร้ซึ่งการให้เกียรติต่อสถานบันอสูรแดง
ทว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ แฟนผี(ส่วนใหญ่)? ก็ได้รับข่าวดี แต่สำหรับแฟนผีอย่างผมถือว่าเป็นข่าวร้าย เมื่อ สโมสร กลับแถลงว่า รูนี่ย์ ได้จรดปากกาต่อสัญญาไปอีก 5 ปี เป็นที่เรียบร้อย ซะงั้น แถมนายใหญ่ชาวสก็อตต์ ยังกางปีกปกป้องเจ้าตัวว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาก่อนหน้านี้ทั้งหมด เป็นบทละครที่ถูกกำกับขึ้นโดย พอล สเตร็ทฟอร์ด เอเย่นต์ตัวแสบของนักเตะเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งดูแหมือนป็นวิธีการดับไฟแค้นให้กองเชียร์ได้อย่างชาญฉลาดของกุนซือผู้มากประสบการณ์คนนี้
ก็อย่างที่เห็นๆ กันอยู่นะครับ นักเตะคนใดก็ตามที่คิดกระเหี้ยนกระหือรือกับป๋า ไม่มีใครรอดสักรายที่จะต้องเก็บข้าวเก็บของออกจากทีมไปในท้ายที่สุด คงไม่ต้องมาไล่เรียงลำดับชื่อกันอีกครั้ง และคาดว่า รูนี่ย์ ก็อาจจะเป็นเหยื่อรายต่อไปของอำนาจเผด็จการแห่ง เฟอร์กี้ แต่ในครั้งนี้อาจจะไม่ได้เด็ดขาดสายฟ้าแลบเหมือนรายก่อนๆ โดยยอมให้นักเตะเป็นฝ่ายได้หัวเราะก่อนจากสัญญาฉบับใหม่ที่แลกกับค่าเหนื่อยที่ทะลุเพดานทีม เพื่อรอที่จะได้หัวเราะทีหลังให้ดังกว่าเดิม
ดังนั้น มหากาพย์เรื่อง หมูหิว(เงิน) น่าจะมีภาคต่อเกิดขึ้นอย่างเร็วก็น่าจะเป็นช่วง ซัมเมอร์นี้ เพราะเชื่อว่ากุนซือระดับ เฟอร์กี้ ซึ่งพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิ่งใหญ่เกรียงไกรมาเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษ คงไม่ปล่อยให้เด็กเมื่อวานซืนอย่าง เวย์น รูนี่ย์ มาลูบคมได้อย่างง่ายๆ แน่!
เกรียนผี
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!! กระทู้เด็ดน่าแชร์