ประตูหลอนก็อปปี้ลิเวอร์พูลกับซันเดอร์แลนด์กลับมาอีกแล้วหลังเฮลเรโญ่ โกเมสเฟอะฟะตั้งบอลจะเตะแต่กรรมการยังไม่เป่าเลยถูกนานี่โพกผ้ายิงโล่งๆให้แมนฯไนเต็ดเอาชนะสเปอร์สสบาย 2-0 รั้งอันดับ 3 มี 20 แต้มตามหลังเชลซี 5 แต้มเช่นเดิมและยืดสถิติไร้พ่ายออกไปเป็นนัดที่ 10 อีกด้วย
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม 2553
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 : 0 สเปอร์ส
ประตู : 1-0 เนมันย่า วิดิช น.31,2-0 หลุยส์ นานี่ น.84
ปีศาจแดง. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดรับการมาเยือนของสเปอร์ส แน่นอนเลยว่านี้เป็นเกมบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้ของพรีเมียร์ ลีกที่ทุกคนต่างก็เฝ้ารอชม
เกมนี้แมนฯยูไนเต็ดมาด้วยแผน 4-4-2 ซึ่งคู่หน้าใช้ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซฮีโร่ของทีมในเกมก่อนหน้านี้ ผสานงานกับดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
คู่กลางเป็นดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และไมเคิ่ล คาร์ริค ซึ่งดูแล้วแฟนบอลอาจต้องลุ้นกันหน่อย เพราะรายหลังผลงานดำดิ่งยังหาจุดเปลี่ยนของตัวเองไม่ได้
ส่วนริมเส้นเป็นปาร์ค จี ซุง และหลุยส์ นานี่ที่ดูๆไปแล้วเหมือนจะเป็นตัวทำเกมที่พอจะพึ่งได้ตัวเดียวในขณะนี้ของขุนพล ปีศาจแดง
ด้านสเปอร์สมาด้วยชุดสุดแกร่งแบบไม่ต้องสงสัยเพราะมี 2 ตัวสร้างสรรค์เกมรุกระดับสูงอย่างลูก้า โมดริช และราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ตคอยบัญชาเกมในแดนกลาง
รวมทั้งริมเส้นซ้ายขวาใครเจอตอนนี้คงต้องปาดเหงื่อ เพราะมีอารอน เลนน่อนปีกตัวจี๊ด และแกเร็ธ เบลซึ่งตอนนี้ทำผลงานได้โดดเด่นเหนือใครเพื่อน ในขณะที่หน้าเป้าเป็นร็อบบี้ คีน
ครึ่งแรก
ตี๋ปาร์คเกือบเบิกร่อง!!
เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที แมนฯยูไนเต็ดก็เกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเลย จากจังหวะที่ปาร์ค จี ซุงได้โอกาสซัดจากนอกกรอบเขตโทษ บอลตกพื้นพุ่งผ่านมือของโกเมสไปแล้ว แต่กลับชนเสาเหลี่ยมนอกเด้งออกมาซะอย่างนั้น
ฟาร์ตเอาบ้างยิงชนเสา
นาทีที่ 8 ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ตน้อยหน้าปาร์ค จี ซุงได้ที่ไหน ซัดบอลจากนอกกรอบไปชนเสาได้เช่นเดียวกัน ทำเอาแฟนบอลเสียวกันทั้งสนาม
ปาร์คยิงหลุด
อีก 5 นาทีต่อมา ปาร์ค จี ซุงได้โอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง จากการจ่ายของทางดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่ไหลไปทางขวาให้เขาในกรอบเขตโทษ ปาร์คล็อกหลอกกองหลังหนึงจังหวะ แล้วรีบปั่นด้วยซ้ายทันที แต่บอลไม่เข้าข้อหลุดข้ามคานไปเยอะ
กัลลาส์เตะถั่วโดนเหลือง
อีก 4 นาทีต่อมา วิลเลี่ยม กัลลาส์ถึงกับเซ็ง เพราะเพิ่งจะต้นเกมแต่ก็โดนใบเหลืองอย่างรวดเร็ว หลังไปเข้าบอลเข้าหลังใส่ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซบริเวณเกือบกลางสนาม ผู้ตัดสินไม่รีรอวิ่งมาจดชื่อทันที
ผีเกือบซวย
นาทีที่ 21 แมนฯยูไนเต็ดเกือบพังพาบเพราะความผิดพลาดของผู้ตัดสินที่มองว่าลูกบอลที่ริโอ เฟอร์ดินานด์บังยังไม่ออกหลัง ทั้งที่หลุดไปเต็มใบแล้ว จนโดนทางแกเร็ธ เบลฉกบอลไปยิงที่เสาแรก ยังดีที่เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์เซฟเอาไว้ได้ ไม่งั้นอาจมีปัญหายาวแน่
ไก่บุกกดดันหนัก
หลังจากได้เตะมุมที่ฟาน เดอร์ ซาร์เซฟออกหลังไป ทางสเปอร์สก็ทำเกมบุกกดดันใส่แมนฯยูไนเต็ดแบบได้น้ำได้เนื้อพอสมควร จนทำให้เจ้าถิ่นวิ่งวุ่นเพื่อป้องกันแทบทั้งทีม
เทพเฟล็ทยิงติดเซฟ
นาทีที่ 26 ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ได้โอกาสยิงเน้น ๆ จากนอกกรอบเขตโทษ หลังเก็บตกบอลที่ขลุกขลิกออกมาได้ แต่บอลพุ่งไม่หนีมือของโกเมสเท่าไร ทำให้รับเอาไว้ได้ไม่ยาก
ผีได้เฮ!วิดิชโขกหาย
นาทีที่ 31 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชิงออกนำไปก่อนจนได้ จากจังหวะฟรีคิกที่นานี่โยนเข้าไปในกรอบเขตโทษ เป็นเนมันย่า วิดิชที่ฉีกตัวประกบขึ้นไปลอยตัวโขกเน้นเข้าไปตุงตาข่าย แมนฯยูไนเต็ดนำแล้ว 1-0
น้าซาร์ซูเปอร์เซฟ!!
นาทีที่ 36 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์แม้ว่าอายุเข้าเลข 4 ไปแล้ว แต่ความเซฟยังยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเขาบินปัดลูกยิงสุดสวยของลูก้า โมดริชที่ซัดออกมาจากนอกกรอบเขตโทษกำลังจะเสียบเสาสองออกไปได้อย่างสวยงาม ไม่งั้นแล้วช็อตนี้ตุงตาข่ายแน่ๆ
ไก่ครองบอลกันเยี่ยม
เข้าสู่่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย แม้ว่าจะเป็นฝ่ายตาม แต่สเปอร์สก็ถือว่าเซ็ตเกมต่อบอลทำเกมกันได้ดี และครองบอลได้มากกว่าเจ้าถิ่นเสียด้วยซ้ำ
พี่เบิร์บยิงติดเซฟ
นาทีที่ 43 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟหัวหอกศิลปินมีโอกาสลุ้นประตูจากจังหวะที่เขาวิ่งสอดหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จะตัดสินใจยิงมุมแคบทันที แต่โกเมสก็ล้มตัวปัดเอาไว้ได้ แม้ว่าจะพยายามวิ่งเข้าไปซ้ำดาบสองก็โดนทางวิลเลี่ยม กัลลาส์กันเอาไว้
จบ 45 นาทีแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดออกนำสเปอร์สไปก่อน 1-0
ครึ่งหลัง
ผีเหมือนจะดี
เริ่มครึ่งหลังมาได้ 10 นาที ดูเหมือนว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะลงมาเล่นครึ่งหลังด้วยฟอร์มที่ดี เพราะมีโอกาสส่งบอลขึ้นไปหน้ากรอบเขตโทษของสเปอร์สได้ แต่พอมาดูดีๆแล้ว จังหวะกลับไม่ตรงกันเลยสักนิด เหมือนจะไม่เข้าใจกันด้วย
กลายเป็นทางสเปอร์สที่ต่อบอลกันได้ดีตรงกลางสนาม อีกทั้งยังน่ากลัวทุกครั้งที่พาบอลขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาที่บอลอยู่กับลูก้า โมดริช และราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต รวมทั้งแกเร็ธ เบลที่ลากบอลผ่านแข้ง ปีศาจแดง เป็นว่าเล่น
หน้าลิงยิงได้ลุ้น
นาทีที่ 60 แกเร็ธ เบลโชว์สปีด และพละกำลังของเขาอีกครั้งด้วยการพาบอลลากตัดไปทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะตัดสินใจยิงบอลเลียดทะแยงไปเสาสองทันที บอลพุ่งผ่านมือของฟาน เดอร์ ซาร์ไปแต่ก็หลุดเสาออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น
ไก่เปลี่ยนพาฟลูลง
อีก 2 นาทีต่อมา สเปอร์สเปลี่ยนเอาโรมัน พาฟลูเชนโก้ลงเล่นแทนร็อบบี้ คีนซึ่งวันนี้ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักออกไป
ผีส่งน้องน้ำตาล,หมามุ่ย
นาทีที่ 64 แมนฯยูไนเต็ดขอปรับทัพบ้างด้วยการส่งเอาเวส บราวน์ลงไปเล่นแทนราฟาเอล และพอล สโคลส์แทนที่ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่วันนี้เจอทีมเก่า แต่ก็ไม่สามารถทำประตูได้
ถั่วน้อยยิงไม่ต้องจับ
นาทีที่ 69 ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซโชว์สัญชาตญาณในการทำประตูอีกครั้ง ด้วยการวิ่งเข้าไปยิงตามน้ำลูกเปิดของนานี่ทันทีแบบไม่ต้องจับ และไม่มองประตู แต่ก็ไม่ผ่านมือของโกเมสเหมือนเดิม
พาฟลูยิงแฉลบเกือบได้
นาทีที่ 74 โรมัน พาฟลูเชนโก้ที่เพิ่งจะเปลี่ยนลงไปในครึ่งหลังมีโอกาสลุ้นประตู จากจังหวะที่เขาสับไกนอกกรอบเขตโทษ แล้วบอลไปแฉลบขาของเนมันย่า วิดิชเปลี่ยนทางเกือบจะพุ่งเข้าเสาแรกไปโดยที่ฟาน เดอร์ ซาร์หมดสิทธิ์รับไปแล้ว แต่ยังดีที่บอลไม่ตรงกรอบ
ไก่หงิกฟาร์ตเจ็บ-เปลี่ยนเปรตลง
อีก 3 นาทีต่อมา สเปอร์สก็ถึงกับเสียวสันหลัง เมื่อราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ตอยู่ดีๆที่ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมจับไปที่เอ้นหลังหัวเข่า ซึ่งไม่ดีแน่นอนเพราะมีเกมกลางสัปดาห์กับอินเตอร์ มิลานรออยู่
แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ไม่รอช้ารีบเปลี่ยนเอาปีเตอร์ เคร้าซ์ลงไปเล่นแทนทันที
พลาดโทษ แต่ได้ประตูแบบงงๆ
นาทีที่ 84 แฟนบอลแมนฯยูไนเต็ดกำลังเซ็งกับการที่ทีมไม่ได้จุดโทษเพราะนานี่โดนยูเนส กาบูลดึงเห็นๆในกรอบเขตโทษจนล้มลงไป
แต่ระหว่างที่กำลังดูรีเพลย์อยู่ภาพตัดมาก็เป็นนานี่ยิงเข้าประตูไป ท่ามกลางเสียงโต้แย้งของบรรดานักเตะสเปอร์ส รวมทั้งแฟนบอลหลายคน
จากภาพรีเพลย์ เป็นจังหวะที่นานี่ล้มลงในกรอบเขตโทษแล้วเอามือไปคว้าบอล ซึ่งจังหวะนั้นมาร์ค แคทเท่นเบิร์กอาจจะไม่เห็น และไม่ได้เห็นว่าเป็นจังหวะแฮนด์บอล ซึ่งโกเมสอาจจะเข้าใจผิด เดินเข้าไปถือบอล และเอาบอลมาตั้งเหมือนจะเตะเป็นฟรีคิก ซึ่งตรงนี้เองทำให้นานี่วิ่งเข้าไปยิงได้
แต่คาดว่าคงต้องเป็นประเด็นให้ถกกันเยอะแน่นอน
จบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะสเปอร์สไปได้ 2-0 เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,เนมันย่า วิดิช,ริโอ เฟอร์ดินานด์,ปาทริซ เอฟร่า,ราฟาเอล,ดาร์เรน เฟล็ทเขอร์,ไมเคิ่ล คาร์ริค,ปาร์ค จี ซุง,นานี่,ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
สเปอร์ส : โกเมส,ยูเนส กาบูล,วิลเลี่ยม กัลป์ลาส์,เบนอต์ อัสซู-เอก็อตโต้,อลัน ฮัตตัน,ลูก้า โมดริช,เจอร์เมน จีนาส,ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต,แกเร็ธ เบล,อารอน เลนน่อน,ร็อบบี้ คีน