คุณรู้จักพรีเมียร์ลีกดีแค่ไหน...

  เชื่อว่าลีกลูกหนังที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก ก็คือ พรีเมียร์ลีก ของอังกฤษ เพราะถูกเผยแพร่ไปหลายประเทศ เป็นเวลานานหลายปี ชื่อเรียกง่าย และดูสนุกตื่นเต้นเร้าใจ มีศึกแดงเดือดเมื่อใด คนที่อยู่ไกลโพ้นอย่างไทยก็ดูเหมือนจะตื่นเต้นกว่าชาวเมืองผู้ดีด้วยซ้ำ 

       

วันนี้จึงขอท้าทายความรู้หน่อยว่าท่านผู้อ่านมีความทรงจำกับศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งมีผู้ชมกว่า 360 ล้านคน และมีการถ่ายทอดสูง 5-9 เกมต่อสัปดาห์ ดีมากแค่ไหน เพราะมันเกิดขึ้นเพียง 18 ปีเท่านั้น เผื่อมีข้อมูลบางอย่างที่เรายังไม่ทราบ มานำเสนอแบบเล่าสู่กันฟังสนุกๆ แม้ไม่มีรายการแฟนพันธุ์แท้อีกแล้วก็ตาม


เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เจ้าของสถิติไม่เสียประตูติดต่อกัน 1,311 นาที

 

     

แฟนบอล หงส์แดง ลิเวอร์พูล กับ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงท่องกันขึ้นใจไปแล้วว่าต่างได้แชมป์อังกฤษ 18 ครั้งเท่ากัน แต่ถ้าเป็นพรีเมียร์ลีก ฝ่ายหลังกดไปแล้ว 11 หน อีก 7 ปีที่เหลือเป็นของ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี กับ ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ทีมละ 3 สมัย และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส อีก 1 ครั้ง โดย กุหลาบไฟ คือ 1 ใน 3 สโมสรที่มีส่วนร่วมในปีก่อตั้งทั้งพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 1992 กับฟุตบอลลีกเมื่อปี 1888 อีก 2 ทีมคือ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน กับ สิงห์ผงาด แอสตัน วิลล่า

 

     

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ของ ปีศาจแดง คือผู้จัดการทีมซึ่งอยู่ในตำแหน่งนานที่สุดของยุค 24 ปี (แถมได้แชมป์มากสุดตลอดกาลของประเทศ 35 รายการ) รองมาเป็น อาร์แซน เวนเกอร์ จาก อาร์เซน่อล 14 ปี และ เดวิด มอยส์ แห่ง ทอฟฟี่สีน้ำเงิน 8 ปี (ทั้ง 3 รายต่างไม่ใช่คนอังกฤษ) นอกจากนั้นแมนฯยูไนเต็ดยังมีส่วนร่วมกับแมตช์ที่มีผู้ชมมากสุด เพราะตอนเปิดรังเจอแบล็คเบิร์นเมื่อ 31 มี.ค. 2007 มีผู้ชม 76,097 คน ขณะเกมที่ วิมเบิลดัน รับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน เมื่อ 26 ม.ค. 1993 มีผู้ชมน้อยสุด 3,039 คน


พอล โรบินสัน เจ้าของสถิติยิงไกลที่สุดในพรีเมียร์ลีก 88 เมตร

 

     

สโมสรที่มีเกียรติประวัติแย่สุด คือ สวินดอน ทาวน์ เพราะชนะ 5 เสมอ 15 จาก 42 นัด มีแค่ 30 คะแนน ตกชั้นในฤดูกาล 1993-94 ด้วยการเป็นทีมแรกของพรีเมียร์ลีกที่เสียถึง 100 ประตู ส่วน เบิร์นลี่ย์ ที่เพิ่งตกชั้นไปเมื่อฤดูกาลก่อน คืออันดับ 2 แม้มี 30 แต้มเท่ากัน แต่ชนะ 8 เสมอ 6 จาก 38 เกม บาร์นสลี่ย์ แย่สุดอันดับ 3 ได้ 35 คะแนน เพราะการชนะ 10 เสมอ 5 จาก 38 แมตช์ ในฤดูกาล 1997-98 โดยนักเตะคนหนึ่งของพวกเขาคือ แยน อาเก้ ฟอร์ทอฟท์ หัวหอกนอร์เวย์ ก็คือสมาชิกสวินดอนยุคห่วยสุดด้วยนั่นเอง

 

     

ปีเตอร์ เช็ก นักเตะทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก ของเชลซี คือผู้รักษาประตูที่ไม่เสียสกอร์มากที่สุดใน 1 ฤดูกาล เพราะทำได้ 24 เกม ช่วงปี 2004-05 แต่ถ้ามากสุดรวมๆกันหลายฤดูกาลคือ เดวิด เจมส์ อดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษ เพราะทำได้ 173 นัด ส่วนไม่เสียสกอร์ยาวนานที่สุด ต้องเป็น เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ดาวเตะชาวดัตช์จาก ปีศาจแดง ซึ่งครองสถิติ 1,311 นาที หรือ 14 แมตช์ เมื่อฤดูกาล 2008–09


แยน อาเก้ ฟอร์ทอฟท์ (ซ้าย) สมาชิกในยุคประวัติศาสตร์ของสวินดอน

 

     

นอกจากป้องกันประตูแล้วก็ยังมีนายทวารอีก 3 รายที่ทำสกอร์ได้ด้วย (ไม่ใช่ทำเข้าประตูตัวเอง) คือ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล แห่ง แอสตัน วิลล่า (นัดแพ้ เอฟเวอร์ตัน 2-3 เมื่อ 20 ต.ค. 2001), แบร็ด ฟรีเดล ของแบล็คเบิร์น (ตอนพ่าย ชาร์ลตัน แอธเลติก 2-3 เมื่อ 21 ก.พ. 2004) และ พอล โรบินสัน ของ ไก่เดือยทอง ท็อตต์แน่ม ฮ็อตสเปอร์ (เกมชนะ วัตฟอร์ด 3-1 เมื่อ 17 มี.ค. 2007) ซึ่งรายหลังยังเป็นเจ้าของสถิติยิงไกลสุด 88 เมตร (96 หลา) ในแมตช์เดียวกันอีกต่างหาก ตอนนั้นนายทวารอีกฝั่งหนึ่งชื่อ เบน ฟอสเตอร์

 

     

พูดถึงสกอร์ เกมที่ยิงกันขาดลอยสุดคือตอนที่แมนฯยูไนเต็ดถล่ม อิปสวิช ทาวน์ ผู้มาเยือน 9-0 เมื่อ 4 มี.ค. 1995 และ ปีศาจแดง ก็ยังเป็นเจ้าของสถิติยิงนอกรังสูงสุด 8-1 เมื่อ 6 ก.พ. 1999 ส่วนแมตช์ยิงสูงสุดคือตอน พอร์ทสมัธ ชนะ เร้ดดิ้ง 7-4 เมื่อ 29 ก.ย. 2007

 

     

สถิติเลวร้ายอีกอย่างหนึ่งคือการโดนใบแดง เดฟ คิตสัน กองหน้า เร้ดดิ้ง ถูกเปลี่ยนลงมาแทน เควิน ดอยล์ ช่วงนาทีที่ 72 แมตช์เสมอแมนฯยูไนเต็ด 0-0 เมื่อ 12 ส.ค. 2007 แต่นาทีต่อมากลับถูกไล่ออกจากสนาม ส่วน อันเดรียส์ โยฮันส์สัน มิดฟิลด์สวีเดนของ วีแกน แอธเลติก ใช้เวลาอยู่ในสนามเกมพ่ายอาร์เซน่อล 2-4 เมื่อ 7 พ.ค. 2006 เพียงแค่ 2 นาที ทั้งๆถูกเปลี่ยนลงไปแทน เดวิด ธอมป์สัน ช่วงนาทีที่ 73 ขณะ คีธ จิลเลสพี ปีก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็มีเวลา 2 นาทีในเกมแพ้เร้ดดิ้ง 1-3 เมื่อ 20 ม.ค. 2007 หลังถูกเปลี่ยนลงแทน ดีเร็ค เกียรี่ เพราะเขาได้ใบแดง


เดฟ คิตสัน กองหน้าเร้ดดิ้ง ผู้ที่ได้ใบแดงในนาทีแรกที่ลงสนาม

 

     

สำหรับนักเตะที่ได้ใบแดงมากสุดมี 3 คนที่ทำได้ 8 ครั้งเท่ากัน คือ ดันแคน เฟอร์กูสัน อดีตหัวหอกทีมชาติสกอตแลนด์, ปาทริก วิเอร่า มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส รวมถึง ริชาร์ด ดันน์ เซนเตอร์แบ๊กไอร์แลนด์ ขณะ ลี โบว์เยอร์ โดนใบเหลืองสูงสุด 95 ครั้ง ตามด้วย เควิน เดวี่ส์ 90 หน และ ร็อบบี้ ซาเวจ 89 ครั้ง

 

     

นี่เป็นสถิติคร่าวๆไม่ได้แยกย่อยมากมายเกินไป หวังว่าคงช่วยระลึกความหลังถึงวันเก่าๆของแต่ละท่านกันได้บ้าง เรื่องแบบนี้รู้ไว้ก็ไม่เสียหายนะครับ