อันดับ 7
เจอร์เก้น คลินส์มันน์
ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 56 นัด
ยิงไป 47 ประตู
คลิ้นซี่ มีคืนวันอันยิ่งใหญ่กับคลับไก่ถึงสองครั้ง โดยในครั้งแรกที่เขาเข้ามานั้น คนอังกฤษส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบเขานัก เพราะว่าเขาอยู่ในทีมชาติเยอรมันชุดปราบทัพสิงโตในปี 1990 นั่นเอง หลังจากอยู่ในอังกฤษแค่ปีเดียว เขาก็ย้ายไปอยู่ซามพ์โดเรียก่อนจะโดนยืมตัวกลับมาเล่นที่สเปอร์สอีกครั้ง
คลิ้นส์มันน์ แขวนสตั๊ดในปี 1998 หลังจากจบฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศส
อันดับ 6
เอริก คันโตน่า
ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 172 นัด
ยิงไป 73 ประตู
เดอะ คิง เอริก คันโตน่า เทพเจ้าของชาวปอบผีฟ้าใส่เสื้อสีแดงของแมนยูผู้นี้ แม้แฟนบอลจะมองว่าเขา ขี้เกียจ หยิ่งยโสธร จองหองพองขน เพียงไร แต่สำหรับแฟนบอลแมนยูแล้ว คงไม่มีใครจะเมียบเท่าเขาได้อีกแล้ว ด้วยพรสวรรค์ฝีเท้าขั้นเมพของเขา ได้พาแมนยูก้สวขึ้นเป็นทีมระดับโลกได้อย่างเต็มตัวในยุค 90 น่าเสียดายที่เขาแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง30ปี และไม่มีส่วนร่วมในการได้สามแชมป์ในปี1999
อันดับ5
เดนิส เบิร์กแคมป์
ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 315 นัด
ยิงไป 87 ประตู
เจ้าของฉายา ไอซ์เบิร์ก ถูกทีมปืนโตเซ้งมาจากทีมงูใหญ่มะโรง อินเตอร์ มิลาน ด้วยราคาเพียง 7.5 ล้านปอนด์ เขาค้าแข้งกับอาร์เซน่อลนานถึง 11ปี ด้วยเทคนิคและเล่ห์เหลี่ยมอันแพรวพราว ทำให้เขากลายเป็นไอดอลของสาวกปืนโตได้อย่างไม่ยากเย็น
อันดับ 4
จานฟรังโก้ โซล่า
ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 249 นัด
ยิงไป 89 ประตู
กุนซือเวสต์แฮมคนปัจจุบัน ซึ่งกลายเป็นนักเตะขวัญใจตลอดกาล ของชาวสิงห์บลู อย่างที่เรารู้ๆกันอยู่ ว่าพี่คนนี้เขาเก่งกาจปานใด ซึ่งเรียกได้ว่าโซล่านั้น เป็นนักเตะคนแรกที่ทำลายความแข็งกระด้างของฟุตบอลอังกฤษ ให้กลายเป็นความสวยงามอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้
อันดับ 3
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 235 นัด
ยิงไป 91 ประตู
เดอะ เบบี้เฟซ คิลเลอร์ หรือ เพชรฆาตหน้าทารกรายนี้ อยู่กับแมนยูมากตั้งแต่ปี 1996 แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้ลงสนามในฐานะตัวจริงมากรัก แต่เขาก็ไม่เคยจะปริปากบ่นเลย ไม่รู้ว่าหมอนี่แรงน้อยกว่าชาวบ้านเขาหรือไง ถึงต้องรอเปลี่ยนตัวกับเพื่อนตลอด แต่ก็ยังทำให้เขาได้รับฉายา สุดยอดตัวสำรอง เลยทีเดียว ซึ่งเขาเองก็เพิ่งจะยุติการค้าแข้งไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา และกลางปีก่อน ก็เพิ่งได้รับพระราชทานยศอัศวินจากกษัตริย์นอรเวย์ ปัจจุบัน ก็เป็นโค้ชทีมเยาวชนให้แมนยู ไม่แน่ ถ้าป๋าวางมือ เราจะได้เห็นหมอนี่มาคุมทีมแมนยูต่อก็เป็นได้
อันดับ 2
จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลแบงค์
ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 288 นัด
ยิงไป 129 ประตู
หัวหอกผิวหมึกรายนี้ เคยได้ตำแหน่งดาวซัลโว ร่วมกับโอเว่น และ ดไวค์ ยอร์ค ในปี 1997/98 มาแล้ว ในนามของต้นสังกัดอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด หลังจบฤดูกาลนั้น เขาย้ายไปสเปนกับแอตฯมาดริด แค่ปีเดียว ก็ถูกเชลซี ที่ยังไม่มีเสี่ยหมีซื้อมาร่วมทีม ปัจจุบัน ศูนย์หน้าชาวดัตซ์ชัตดาวน์ ก็เลิกเล่นอย่างเป็นทางการ หลังจากพาคาร์ดิฟฟ์ คว้ารองแชมป์เอฟเอ คัพ ในปี2008
อันดับ 1
เธียร์รี่ อองรี
ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 254 นัด
ยิงไป 174 ประตู
เขายังไม่เลิกเล่น แต่จะพูดถึงเลยก็ไม่ได้ อองรี คือเครื่องจักรสังหารประตูรุ่นเวิลด์คลาสของจริง ด้วยความเร็วและความเฉียบคมในการทำประตูของเขา ทำให้ทางสโมสรอาร์เซน่อลต้องสร้างตู้เก็บถ้วยรางวัลเพิ่มทันที หากจะพูดถึงลูกยิงสุดสวยของเขา คงไม่มีลูกไหน งดงามเท่าลูกบาดใจเหล่ากองเชียร์หงส์แดงอีกแล้ว ที่อองรีลากบอลดุ่ยๆ จากครึ่งสนาม หลบฮามันน์กองกลางหงส์แดง แล้วล็อคใส่หน้าคาราเกอร์ จนคาราเกอร์หลังหักถลาไปชนกับเฮียปูฮูเปีย แบบงงๆ จากนั้นอองรีก็ลากบอลแบบชิลๆ ไปแปซุกก้นตาข่ายหน้าตาเฉย นอกจากนั้นยังมีอีกมากมาย ที่อองรี สร้างสรรค์ไว้ให้โลกตะลึง
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว