ที่นี่..โอลด์แทรฟฟอร์ด โดย..เปริมี่ : เชือดไก่ให้สิงห์ดู
ลูกโขกปลิดวิญญาณและภาพฉลองประตูกู้วิกฤติของ พอล สโคลส์ ช่วยกระตุ้นขวัญกำลังใจให้กับมิตรรักแฟนผี และหายนะของ เชลซี คาไวท์ ฮาร์ท เลน ก็ยิ่งทวีแรงฮึกเหิมในความรู้สึกของผู้คนหัวใจปีศาจกันถ้วนหน้า
เมื่อถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ทำท่าจะกระเด็นลอยไปจากโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กลับมีลมวิเศษโหมพัดกระพือให้กลับมาอยู่ในระดับสายตาอีกครั้ง และมียังสิทธิ์ครอบครองเป็นกรรมสิทธิ์ในช่วง 3 เกมพิพากษาฤดูกาลนี้
จากช่องว่างที่โดน เชลซี ฉีกหนีไปเป็น 4 เมื่อกลางสัปดาห์ ถูกหั่นลงเหลือแค่คะแนนเดียว และประตูได้เสียก็ลดระดับมาเหลือเพียง 3 ลูก (เชลซี +54, แมนฯ ยูไนเต็ด +51)
ทั้งคะแนนและผลต่างประตูได้-เสีย เป็นปัจจัยสำคัญในการแย่งชิงบัลลังก์แชมป์ โดย สิงห์บลูส์ มีทางเลือกมากกว่า เพราะแค่ชนะรวดทั้ง 3 แมตช์ เส้นทางข้างหน้าก็จะเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบที่โรยเรียงรายจนถึงฝั่งฝัน
แต่มันคือสิ่งต้องห้ามที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ปราถนาให้มันเป็นจริง และคงแอบแช่งอย่างออกนอกหน้าให้ ลูกทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ได้เจอกับประสบการณ์เจ็บแสบมีสำลีแปะหัวเหมือนแมตช์เยือน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
สโต๊ค ซิตี้ เป็นคู่กรลำดับถัดไปของ เชลซี แม้เป็นเกมในสังเวียนสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่การขาดกัปตันทีมเจที จอห์น เทอร์รี่ ซึ่งติดโทษแบน เนื่องด้วยโทษใบแดงจากเล้าไก่ ย่อมส่งผลกระทบต่อหลังบ้านของสิงห์น้ำเงิน เพราะจะไม่เหลือแบ็กโฟร์ชุดตัวจริงลงสนามเลยแม้แต่คนเดียว
จากที่เคยใช้ โชเซ่ โบซิงวา, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่ และ แอชลี่ย์ โคล ต้องแปรสภาพมาเป็น เปาโล แฟร์เรยร่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์ และ ยูริ ซีร์คอฟ
อย่างงี้โอกาสที่ แฟนผี จะได้เห็นประตูของ ช่างปั้นหม้อ จากถ้ำสิงห์ ก็ยังพอมีช่องทาง โดยเฉพาะลูกจู่โจมกลางเวหาของ สโต๊ค นั้นเปรียบความหวังบนอากาศที่เหล่าสาวก เร้ด อาร์มี่ ต่างตั้งตารอเชยชม
แมตช์ดังกล่าวเตะกันวันเสาร์หน้า แต่จะเกิดหลังเกมที่ ยูไนเต็ด เปิดโรงละครแห่งความฝันรับมือ สเปอร์ส นานกว่า 3 ชั่วโมง
สุภาษิตไทยโบราณอย่าง งูเหลือมเจอเชือกกล้วย ยังดูน้อยเกินไป หากจะให้ใครหลายคนบอกคำนิยามของแมตช์ ยูไนเต็ด VS ท็อตแน่ม
เพราะบ่อยจนเคยชินที่จะได้เห็น แข้งสเปอร์ส เสียท่าปราชัยให้กับ เร้ด เดวิลส์ ไม่ว่าจะโชว์ฟอร์มได้เริ่ดขนาดไหน ก็ต้องมีดีแตก โดยมีเหตุการณ์ในพรีเมียร์ลีก 2001/02 เป็นตลกร้ายหลอกหลอนแฟนๆไก่เดือยทองมาถึงทุกวันนี้
สเปอร์ส เริ่มต้นวันนั้นได้เลิศเลอเพอร์เฟกต์ ด้วยการขึ้นนำห่าง 3-0 เมื่อจบครึ่งแรก แต่ก็เหมือนกับฟ้าผ่ากลางไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อขุนพลอสูรสวมวิญญาณอาฆาตสุดเฮี้ยน และทะลวง 5 ประตูรวด ควัก 3 คะแนนเต็มกลับไปหน้าตาเฉย
เหตุการณ์รูปแบบดังกล่าวโดนตอกย้ำเข้าเต็มเปา เมื่อ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ พาแข้งไก่กะต๊ากบุกเธีย
เตอร์ ออฟ ดรีม ฤดูกาลที่แล้ว - ดาร์เรน เบนท์ และ ลูก้า โมดริช เบิกสกอร์ลูบคมให้อาคันตุกะจากลอนดอนลิงโลดเริงร่ากับความได้เปรียบ 2-0 จนพักครึ่ง
แต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เวย์น รูนี่ย์ ก็รับผิดชอบคนละ 2 ตุงให้ ยูไนเต็ด กลับมาเป็นใหญ่ในเกม แล้วเมื่อผสมโรงด้วยเด็กเก่าอย่าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ บาดแผลของท็อตแน่มก็ยิ่งฉกรรจ์เหวอะหวะมากกว่าเดิม
ส่วนซีซั่นนี้ เฟอร์กี้ กับ จ่าแฮร์รี่ ประลองกึ๋นกันมา 2 หนแล้ว ปรากฏว่า มหาบุรุษเลือดสกอตต์ กวาดชัยได้เรียบวุธ ไล่ตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก ซึ่ง ยูไนเต็ด บุกแซงชนะ 3-1 และ คาร์ลิ่ง คัพ ที่เปิดรังสอยเบาะๆ 2-0
ครั้งสุดท้ายที่ สเปอร์ส สยบ ยูไนเต็ด ได้ต้องถอยหลังไปเมื่อปี 2001 (ชนะ 3-1) ซึ่งมันก็เป็นเกมในเมืองหลวง แต่หากนับเที่ยวล่าสุดที่ ผีแดง พ่ายคาบ้านต่อคลับไก่ เรื่องราววันนั้นมันย้อนยุคไปในปี 1990 โน่นเลย
ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ เร้ดแน็ปป์ ซีเนียร์ เพิ่งพาสเปอร์สยบอาถรรพ์เอาชนะ อาร์เซน่อล ในเกมลีกได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1999 และ น็อกทีมนำอย่าง เชลซี มาได้อย่างองอาจ
แต่การมาเยือนสังเวียนที่ฮวงจุ้ยไม่เป็นมงคลสำหรับพวกเขาในวันเสาร์หน้า สถิติเก่าๆอาจบั่นทอนขวัญกำลังใจเรื่อยไปถึงเรี่ยวแรงแข้งขาของนักเตะท็อตแน่มบ้างไม่มากก็น้อย แม้จะอยู่ในฟอร์มเข้าฝักและมีตำแหน่งอันดับ 4 เป็นเป้าหมายให้คอยยื้อยุดฉุดกระชากก็ตาม
ปฏิบัติการณ์เชือดคอไก่ เป็นภารกิจสำคัญที่มีความหมายไม่แพ้เกมบุกไปโกงความตายล่มไททานิก
สีฟ้าถึงอีสต์แลนด์ส แล้วจะช่วยต่อยอดให้แมตช์ต่อไปที่ต้องออกเยือน ซันเดอร์แลนด์ และปิดฉากซีซั่นกับ สโต๊ค เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
ตามประสา บอลแพ้ทาง ชัยชนะเหนือ สเปอร์ส จึงไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจ ซึ่ง 3 คะแนนเต็มที่กำลังจะลอยมาเข้ามือ นอกจากจะเป็นบันไดสู่บัลลังก์จ่าฝูงของยูไนเต็ด และสลับขั้วให้ เชลซี กลายเป็นผู้ไล่ล่าบ้างแล้ว
90 นาทีของการเชือดไก่ให้สิงห์ดู คงจะเต็มไปด้วยคลื่นเป็นสัญญาณส่งตรงถึง อันเชล็อตติ แอนด์ เดอะ แก๊งค์ ได้ซาบซึ้งว่า ตราบใดการชิงชัยยังไม่ฉากจบอวสาน แข้งปีศาจก๊วนนี้ก็พร้อมตามหลอกตามหลอนพวกเขาไม่ปล่อยแน่