ป่าช้าแตก! โดย..บอ.บู๋



ก็อย่างที่ทราบกันดีนั่นแหละว่าการตำแข้งระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่อังกฤษเขาเรียกศึกนี้ว่า War of the roses หรือ สงครามกุหลาบ เหตุเพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ในแคว้นแลงคาเชียร์ ซึ่งมี กุหลาบแดง เป็นสัญลักษณ์ (สมัยใช้นามว่า  นิวตัน ฮีธ ตราสโมสรของพวกเขาก็เป็น กุหลาบแดง) ขณะที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่ในแคว้นยอร์คเชียร์ ซึ่งมี กุหลาบขาว เป็นสัญลักษณ์ โดยทั้ง 2 ก๊ก 2 เหล่า เคยทำศึกสงครามกันมาเมื่อหลายร้อยปีก่อน ซ้ำร้ายในเวลาต่อมาทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังจัดเป็นคู่แข่งในทางอุตสหกรรมผ้าฝ้ายอีกต่างหาก เรียกว่าแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันมาตลอดโดยไม่เว้นแม้แต่เกมฟาดแข้งนับตั้งแต่ปลายยุคซิกซ์ตี้ส์นั้นเลยทีเดียว ชนิดที่เจอกันเมื่อไหร่ต้องหวดกันให้ตายไปข้าง!
 

เท่านั้นไม่พอ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังสร้างความเจ็บแค้นเคืองโกรธโทษใครไม่ได้ให้ ลีดส์ มากขึ้น เพราะชอบไปพรากดาวดังระดับขวัญใจมาจากถิ่น เอลแลนด์ โร้ด ไม่ว่าจะเป็น กอร์ดอน แม็คควีน, เอริค คันโตน่า, ริโอ เฟอร์ดินานด์ หรือ อลัน สมิธ ซึ่งมันให้อารมณ์และความรู้สึกไม่ต่างจากการแอบมีเซ็กซ์กับเมียชาวบ้านอย่างซึ่งๆ หน้า
 

แถวเมืองไทยอาจไม่รุนแรงเหมือน เด็กหงส์ กับ เด็กผี แต่ที่อังกฤษ...รังสีแห่งความเกลียดชังระหว่าง 2 ทีมนี้รุนแรงแบบเกินห้ามใจ โดยเฉพาะกองเชียร์ยูงทองที่เกลียด แมนฯ ยูไนเต็ด แบบทะลุลำไส้ เช่นเดียวกับพวก เรด อาร์มี่ ที่เกลียดคู่แค้นแห่งยอร์คเชียร์ยิ่งกว่าน้ำค้างเกลียดแสงแดดตอนสายๆ ถึงขนาดตั้งชื่อให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด เสียใหม่ว่า Scum
 

Scum แปลว่าอะไร กรุณาไปเปิดพจนานุกรมดูกันเอาเอง ถ้าคำนี้ไม่บรรจุในพจนานุกรมก็ให้ลองไปเรียกฝรั่งสักคนที่มาเที่ยวเมืองไทย เดี๋ยวก็รู้เองแหละว่า สคัม แปลว่าอะไร? ฮ่า-ฮ่า-ฮ่า
 

ก่อนท่านซาตานจะบันดาลให้กลับมาจ๊ะเอ๋ย์กันอีกครั้งใน เอฟเอ คัพ รอบ 3 ไอ้กระผมก็ดันนึกว่าอารมณ์แห่งความเกลียดชังคงเจือจางไปบ้างแล้ว หลังจากที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ถูกความตกต่ำโจมตีอย่างดุดันและรวดเร็วแบบไม่ปราณี กระเด็นไปไกลถึง ลีกวัน
 

ที่ไหนได้นะครับ? 
 

เพราะสิ่งที่นักเตะ ลีดส์ ยูไนเต็ด สำแดงออกมาที่โรงละครแห่งความฝันนั้นมันยืนยันอย่างชัดแจ้งแทงตรงจุดเหลือเกินว่า กูอยากจะฆ่ามึง เหมือนเดิม เมื่อจ่าฝูงจากลีกวันอธิบายคำไทยว่า กระเหี้ยน ได้อย่างถึงกึ๋นสุดๆ ด้วยการซอยยิกไม่หยุดยั้งตลอดทั้งเกม วิ่งไล่บี้บีบกดดันเจ้าของบ้านจนแทบจะไม่มีพื้นที่ในการเล่น ทุกครั้งที่นักเตะผีได้บอลจะมีนักเตะทีมเยือนพุ่งเข้าชาร์จอย่างรวดเร็วและหื่นกระหายจากรอบทิศทางบนความทุ่มเทเกินกว่า 8 หมื่นตีนถีบ
 

ในขณะที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด คิดว่าเกมนี้คือ สงครามกุหลาบ จัดเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่อนุญาตให้เมตตา พลพรรคปีศาจแดงกลับทำเหมือนมันเป็นแค่เกมธรรมดาๆ เกมหนึ่งพลางยักไหล่ไม่สะทกสะท้าน ก่อนถูกวิญญาณ นักเตะทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาวเข้าสิงร่าง ผลที่ออกมาคือการเล่นแบบ...กูเหนือ, กูเจ๋ง และกูนี่ชัวร์เสียเต็มประดา ดูแล้วหงุดหงิดงุ่นง่านจนอยากจะถีบทีวีให้พังคาตีนไปเลย
 

นักเตะรุ่นลูกกรอกคะนองอย่าง แดนนี่ เวลเบ็ค กับ กาเบรียล โอแบร์กต็อง ลงไปทำให้เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียขบวนเช่นเดียวกับ ฟาบิโอ ดา ซิลวา หรือ ดาร์รอน กิ๊บสัน ที่แค่เหมือน รอย คีน ด้วยลีลาท่าทาง ส่วนฝีตีนนี่คนละเรื่องเลย รุ่นใหญ่อย่าง แกรี่ เนวิลล์ หมดสภาพเรียบร้อย โดยผมคร้านที่จะกล่าวถึงสรรพคุณของคุณน้องน้ำตาลสุดที่รัก
 

ประตูที่เสียไปนายทวารอย่าง โทมัส คุสแช็ค อ่านเกมผิดพลาด ในเมื่อ เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด จับบอลแรกยาวเกินไปจนแทบจะไม่เหลือมุมยิง แถมยังมี เวส บราวน์ ตามมาบีบ มึงจะทะเร่อทะร่าออกมาทำไมครับ
 

สำหรับ เวย์น รูนี่ย์ บอกได้คำเดียวครับว่า เหมือนเดิม ไม่ทราบจะวิ่งพล่านไปถึงไหน วิ่งจนไปทับตำแหน่งเพื่อนร่วมทีมให้มั่วไปหมด พอถึงจังหวะชี้เป็นชี้ตายดันตะบันออกบ้างตะบันติดบ้างซะงั้น! ส่วน เฮียเบิร์บ นี่ยิ่งแล้วใหญ่ คนหนึ่งทุ่มเทมากเกินเหตุ อีกคนหนึ่งดันขี้เกียจเกินเหตุ หาความพอดีไม่ได้สักตัว
 

เขียนไปเขียนมากูชักทนไม่ไหวแล้วนะโว้ย!!!
 

เข้าใจครับว่านี่มิใช่ผู้เล่นชุดที่สยดสยองสุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่อย่าไปโทษป๋าแกเลยครับ เพราะการเล่นในบ้าน รวมถึงการเจอผู้มาเยือนที่มีวรรณะระดับลีกวันทำให้ต้องจัดทีมผสม
 

ที่สำคัญมีผุ้เล่นของ ลีดส์ ยูไนเต็ด เพียงคนเดียวที่ผมเคยได้ยินชื่อมาก่อน คือ เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด
 

นอกนั้นได้แต่สงสัยในใจว่า พวกมึงเป็นใครครับ?
 

สรุปไม่ว่าจะใช้ผู้เล่นชุดไหน แมนฯ ยูไนเต็ด ควรจะทำตัวมีชาติตระกูลกว่านี้ ไม่ใช่ติดแอ็ค ติดประมาท แถมแสดงความห่วยแตกออกมาพร้อมกันทั้งหมดจนกระทบกับความเสียหมา
 

เพราะนี่คือการตกรอบ 3 เอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปีของทีมที่ได้ชื่อว่าเป็น เจ้าพ่อ เอฟเอ คัพ และครั้งแรกภายใต้ขุมกบาลของพระยาหมื่นเฟอร์กี้ (ล่าสุดตกรอบเดียวกันด้วยการแพ้ บอร์นมัธ 0-2 เมื่อ 1984) เช่นเดียวกับเป็นการถูกคู่แค้นระดับฆ่าล้าง 7 ชั่วโคตรอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด บุกมาเหยียบจมูกถึงถิ่นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1981 โน่นเลยทีเดียว
 

อย่างไรก็ตามขอยืนกระทืบฝ่ามืออย่างแรงให้ผู้เล่นของ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทุกตัวที่เล่นแบบยอมตายถวายหัว รวมถึงกุนซือ ไซม่อน เกรย์สัน ที่วางแผนทำการบ้านอย่างวิเศษยิ่งนัก
 

พวกเขาจะพุ่งทะยานไปไกลถึงไหนไม่รู้...ที่แน่ๆ คือ ลีดส์ ยูไนเต็ด ชุดนี้ถูกจารึกในประวัติศาสตร์และพงศาวดารลูกหนังเป็นที่เรียบร้อย
 

สำหรับ เด็กผี ผู้น่าสงสารต้อนรับ พ.ศ.ใหม่
 

ขอให้มองโลกเป็นสีชมพูดคลาสสิกเข้าไว้ครับ อย่างน้อย แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ต้องเหนื่อยเพิ่มเหมือนคู่แข่งอย่าง เชลซี และ อาร์เซน่อล สามารถเก็บพลังงานไว้ใช้ในรายการสำคัญอย่างพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเฉพาะ


 
บอ.บู๋


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์