ไรอัน กิ๊กส์ ประสบความสำเร็จมาตั้งแต่ก้าวแรกๆ ที่ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเกือบ 2 ทศวรรษที่แล้ว จนกระทั่งทุกวันนี้ เขายังมีแรงทะเยอทะยานที่ไขว่คว้าเกียรติยศอยู่เต็มเปี่ยม ไม่เสื่อมคลาย
ว่ากันว่านับตั้งแต่หมดยุคของ จอร์จ เบสต์ ทีมปีศาจแดงก็ไม่เคยมีผู้เล่นคนใดที่จะยิ่งใหญ่มากกว่าไปกว่ากิ๊กส์อีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเด็กสร้างมาจากอะคาเดมี่เหมือนกันหรือสตาร์ดังค่าตัวแพงที่ตบเท้าพรึบพรับเข้าสู่รั้วโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
หาก เปาโล มัลดินี่ คือตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดของนักฟุตบอลที่ลงเล่นด้วยความเสมอปลายมากที่สุดจนกระทั่งวัยล่วงเลยผ่านหลัก 40 ปี มันก็น่าสนใจและน่าลุ้นเช่นกันว่า ''ปีกพ่อมด'' รายนี้ จะไปถึงหลักไมล์นั้นได้หรือไม่
ก็อย่างที่รู้กัน ลีกเมืองผู้ดีต้องใช้แรงและการปะทะมากกว่ากัลโซ่ เซเรีย อา และอีกหลายๆ ลีกทั่วโลก นั่นทำให้การจะยืนระยะของกิ๊กส์ให้ได้อย่าง ''น้ามัล'' จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก นอกจากนี้ก็ยังมีองค์ประกอบหลายอย่างหนุนส่งซึ่งกันและกัน
คงปฏิเสธได้ยากว่าทุกวันนี้ ความเร็วของกิ๊กส์ที่เคยควบตะบึงและฉีกแนวรับของคู่แข่งขาดเป็นวิ่นๆ ลดลงไปไม่น้อย แต่มันก็ถูกทดแทนด้วยประสบการณ์ที่ข้นคลั่กเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ วันเวลาที่ผ่านไป ขณะที่ทักษะความสามารถเฉพาะตัวและเทคนิคลูกหนังที่มีก็คงไม่มีใครมาขโมยไปไหนได้
พูดแบบไม่เกรงใจ นานี่ปีกรุ่นน้องในทีม ก็ต้องบอกว่า ขาซ้ายของกิ๊กส์เพียงข้างเดียวมีคุณภาพและประโยชน์กว่า 2 ขาของเจ้าหนูนายิ่งนัก
ในมุมมองของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือของทีมยังให้ความเชื่อมั่นใจตัวศิษย์รักคนนี้ไม่เคยเปลี่ยน เขาคือหนึ่งในผู้เล่นประสบการณ์มากสุดของทีมที่เฟอร์กี้ฝากฝังและรับผิดชอบในการประคองน้องๆ ไล่ล่าความสำเร็จต่อไป
การขึ้นรับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลยอดเยี่ยมเมื่อปลายฤดูกาลที่ผ่านมา แม้จะมีไม่น้อยที่ขมวดคิ้วถึงความเหมาะสมหากมองไปที่การได้ลงเล่นต่อเนื่องทั้งฤดูกาลของคนอื่นๆ ไม่ใช่ออกสตาร์ตตัวจริงเพียงแค่ 12 นัดเหมือนอย่างปีกจอมเก๋าชาวเวลส์
แต่อีกนัยมันก็หมายถึงการได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมอาชีพที่ไม่ได้มองเพียงแค่ผลงานฤดูกาลเดียว มันคงจะเป็นเรื่องน่าเสียดายๆ สุดหากว่านักเตะระดับ เขาจะไม่เคยสัมผัสเกียรติยศส่วนตัวแบบนี้
กิ๊กส์ในวันนี้ยังมีความมุ่งมั่น, ทะยานอยาก, ปรารถนาอันแรงกล้าและหิวกระหายในความสำเร็จเช่นเดิม ซึ่งในวัยเท่านี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรักษาไฟในตัวให้ลุกโชนต่อเนื่อง
เขาอาจจะไม่ใช่ตัวหลักของทีมที่ต้องลงเล่นทุกๆ นัด แต่ทุกๆ ครั้งที่ถูกหย่อนลงมาในสนามก็สร้างประโยชน์ต่อทีมได้ไม่น้อย ความเก๋าและประสบการณ์ที่มากล้นของกิ๊กส์ช่วยให้ทีมปีศาจแดงเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันได้หลายต่อหลายครั้ง
ว่ากันว่าเกมดาร์บี้แมตช์บรรลัยกัลย์ที่แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ แมนฯ ซิตี้ สุดมัน 4-3 คือเกมที่กิ๊กส์ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมสุดๆ ในรอบหลายปีทีเดียว บอลที่ออกจากปลายเท้าของเขาสร้างความแตกต่างในเกมอย่างเห็นได้ชัด นั่นรวมไปถึงชอตสุดท้ายที่แทงให้ ไมเคิ่ล โอเว่น กระทุ้งประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บอีกด้วย
ในบรรดานักฟุตบอลอาชีพที่มีระเบียบวินัยเคร่งครัดมากที่สุด กิ๊กส์คือหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน เพราะมิเช่นนั้นคงเป็นไปได้ยากที่จะยืนระยะอยู่คู่พรีเมียร์มาได้ถึงขนาดนี้และเป็นกับทีมใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเสียด้วย
ถึงตอนนี้เขาเป็นเพียงผู้เล่นรายเดียวที่มีสถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีกทุกฤดูกาล และประตูตีเสมอสเปอร์ส 1-1 (แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 3-1) ที่ไวท์ ฮาร์ท เลน กลายเป็นฤดูกาลที่ 18 ติดต่อกันเข้าให้แล้ว
สถิติการลงสนามให้กับแมนฯ ยูไนเต็ดมากนัดที่สุดของ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ที่ยืนยงมามากกว่า 3 ทศวรรษ ถูกกิ๊กส์ทำลายลงไปได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2008 เมื่อถูกเปลี่ยนลงมาเล่นแทน พอล สโคลส์ ในท้ายเกมของรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับเชลซี ซึ่งในค่ำคื่นพิเศษของกิ๊กส์ เขาได้ฉลองแชมป์ยุโรปสมัยที่ 2 ของตัวเองอีกด้วย
เกมที่กิ๊กส์ลงเล่นเต็ม 90 นาทีและช่วยให้แมนฯ ยูไนเต็ดเปิดบ้านถล่มเอฟเวอร์ตัน 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 21 พฤศจิากยน ที่ผ่านมา ก็ปาเข้าไป 818 นัดเข้าให้แล้ว และแน่นอนสถิติคงไม่หยุดแค่นี้
หากนับตั้งแต่ฤดูกาล 1991/92 ที่กิ๊กส์เป็นตัวหลักของทีมแมนฯ ยูไนเต็ด จนกระทั่งฤดูกาลที่แล้ว มีเพียง 3 ฤดูกาลเท่านั้น ที่เขาลงสนามไม่ถึง 40 นัดจากทุกรายการ (ฤดูกาล 1996/97, 1997/98 และ 2005/06 ลงเล่น 37 นัดเท่ากัน) ซึ่งก็ถือว่ารักษาสภาพร่างกายได้ดีทีเดียวในลีกที่เล่นกันหนักหน่วงอย่างอังกฤษ
กับทีมชาติ ''มังกรแดง'' เวลส์ แม้ว่าจะไม่สามารถพาทีมไปโชว์ตัวในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ใดๆ ได้เลยตลอดระยะเวลา 17 ปีที่รับใช้ทีม แต่นั่นก็มากพอที่จะถูกจัดให้อยู่ในระดับตำนานของประเทศได้ไม่ยาก
ต่อให้เป็นแฟนบอลของทีมอื่นก็อยากเห็นกิ๊กส์รับใช้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปจนแขวนสตั๊ด ส่วนจะถึงหลักสี่อย่างที่หลายคนเชียร์หรือไม่ ก็ต้องตามลุ้นไปในทุกๆ ฤดูกาลที่เขาน่าจะได้สัญญาแบบปีต่อปี
เรานึกภาพกิ๊กส์ในสีเสื้อสโมสรอื่นไม่ออกเลยจริงๆ ก็อย่างที่เขาเคยบอก ''ผมจะเล่นให้กับยูไนเต็ดจนแขวสตั๊ด ผมจะไม่ย้ายไปไหนอีก''
จะในบทบาทโจ๊กเกอร์ลงมาเปลี่ยนเกมในช่วงท้าย หรือ 2-3 นัดลงตัวจริงที แฟนบอลก็ยังอยากที่จะเห็น ไรอัน กิ๊กส์ คนนี้โลดแล่นบนพื้นหญ้าไปอีกนานแสนนาน...
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
