ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่ม บี
วันอังคารที่ 3 พ.ย.52
แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 3 - ซีเอสเคเอ มอสโกว์ (รัสเซีย) 3
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
กลับมาบู๊กันอีกยกหลังจากนัดที่แล้วแมนฯ ยูไนเต็ดบุกไปคว้าสามแต้มได้ถึงแดนหมีขาวด้วยสกอร์ 1-0 ทำสถิติชนะสามนัดรวด และหากเกมนี้ปีศาจแดงย้ำแค้นทีมเยือนได้อีกก็จะทะลุเข้ารอบทันที
อย่างไรก็ดี นัดนี้แมนฯ ยูไนเต็ดใส่ชื่อเวย์น รูนีย์ที่ไม่ได้ซ้อมเพราะไปเฝ้าเมียคลอดลูกเป็นเพียงตัวสำรอง แถมดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟก็บาดเจ็บจึงหลุดโผทำให้ไมเคิ่ล โอเว่นได้ประสานงานกับเฟเดริโก้ มาเคด้า ซ้ำร้ายคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเนมานย่า วิดิชกับริโอ เฟอร์ดินานด์ก็ไม่ฟิต แต่ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์กลับมาลงสนามได้หลังหายเดี้ยง
สำหรับซีเอสเคเอตะเพิดฆวนเด้ รามอสกุนซือสแปนิชออกไปแล้ว และมีลีโอนิด สลัตสกี้เข้ามารับภาระแทนโดยยังคงใช้งานพ่อค้าแข้งเจ้าประจำเช่นเดิม
ทีมจากรัสเซียเป็นฝ่ายเขี่ยบอล และหาโอกาสทักทายก่อนในนาทีที่ 2 จากการสับไกหน้าเขตโทษของเดวิดาส เซมเบราส ทว่าบอลเฉี่ยวกรอบออกไป
กระนั้น นาทีต่อมาปีศาจแดงก็โต้ด้วยลูกโยนยาวขึ้นกราบขวา แล้วอันโตนิโอ วาเลนเซียควบบอลหลุดเข้าเขตโทษได้ แต่มัวโอ้เอ้เกินไปสุดท้ายจึงซัลโวไปถูกเซอร์ เก อิ๊กนาเชวิชตามมาบล็อคได้ทัน
จากนั้นในนาทีที่ 9 อสูรร้ายก็น่าจะเปิดบริสุทธิ์ทีมเยือนได้เมื่อนานี่ทำชิ่งคืนให้วาเลนเซียหลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วปีกโคลอมเบียจ่ายถวายพานมาสวย แต่โอเว่นที่ยังถูกสนิมเกาะไม่เลิกกลับยิงติดแข้งติดขาตัวเองในระยะสิบหลา จึงเป็นการทิ้งโอกาสทองไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เกมของเจ้าถิ่นเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด และในนาทีที่ 14 เฟล็ทเชอร์ก็มีพื้นที่กระทุ้งจากแถวสองอย่างถนัดถนี่ แต่บอลลอยโค้งหนีกรอบประตูไปแค่เส้นยาแดงผ่าแปด
ถัดมาอีกสามนาที ผีแดงก็มีเสียวอีกหนจากจังหวะที่นานี่ทิ่มบอลเข้าเขตโทษให้โอเว่นโฉบไปจิ้มยิงด้วยหัวเกือกระยะแปดหลา แต่อีกอร์ อาคินเฟเยฟขยับออกมาบล็อคได้สำเร็จ
นาทีที่ 23 แฟนผีก็ต้องร้องครางด้วยความเสียดายอีกตามเคยเมื่อวาเลนเซียไหลบอลให้มาเคด้าพลิกหนีตัวประกบหลุดไปเข่นระยะ 15 หลาได้สวย แต่บอลพุ่งเฉี่ยวเสาไกลออกไปนิดเดียวเท่านั้น
จากนั้นอีกอึดใจเดียว ผู้ตัดสินก็แจกใบเหลืองให้โทมัส เนซิดข้อหายกมือเล่นบอลในจังหวะโดดโขก แต่นาทีที่ 25 สถานการ์ก็พลิกผันจนได้เมื่อซีเอสเคเอโต้กลับด้วยการวางยาวจากแดนกลางก่อนที่เนซิดจะแตะบอลด้วยหน้าอกให้อลัน ซาโกเยฟสปีดหนีจอนนี่ อีแวนส์เข้าเขตโทษด้านซ้ายไปกดตูมยัดใส่มุมแคบเสยเพดานสุดที่เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์จะคาดคิดทำให้อาคันตุกะออกนำ 1-0
ถึงอย่างนั้น แมนฯ ยูไนเต็ดที่เหนือกว่าหลายขุมก็มาทวงคืนได้อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 29 เมื่อวาเลนเซียบุกขึ้นมาทางขวาแล้วจ่ายเข้าเขตโทษให้นานี่ตอกส้นอีกจังหวะ เปิดทางให้โอเว่นซัดตุงตาข่ายจากแปดหลาเป็นประตูตีเสมอ 1-1
แต่แล้วดวลกันมาถึงนาทีที่ 31 เจ้าบ้านก็ต้องช็อคอีกหน คราวนี้ซีเอสเคเอจู่โจมขึ้นมาทางขวาแล้วเนซิดที่ถูกเวส บราวน์ยืนขวางทางอยู่หน้าเขตโทษโชว์ชั้นเชิงไหลบอลให้มิลอส คราซิชหลุดเดี่ยวโดยไม่ล้ำหน้าไปล็อคหลบเดอร์ ซาร์แล้วพลิกตัวยิงจากหกหลาพาทีมจากแดนหมีขาวขึ้นนำ 2-1
เจ้าถิ่นจำต้องเหนื่อยกันใหม่อย่างช่วยไม่ แต่ดูเหมือนจะช็อตไปดื้อๆ ประสานงานกันสับสนไปหมด ต่างกับทีมเยือนที่คุมจังหวะเอาไว้อย่างมั่นใจ
จวบจนนาทีที่ 45 แมนฯ ยูไนเต็ดก็น่าจะได้เฮเมื่อแกรี่ เนวิลล์กัปตันทีมเติมเกมขึ้นมาทางขวาแล้วป้ายบอลมาหน้าเขตโทษโดยโอเว่นวิ่งหลอกปล่อยให้มาเคด้าพลิกบอลหนีตัวประกบหาจังหวะสับไกด้วยเท้าซ้ายที่เส้น 18 หลา แต่ไม่รุนแรงพอที่จะผ่านการเซฟของอาคินเฟเยฟ จบครึ่งแรกซีเอสเคเอจึงพลิกนำ 2-1
กลับมาเล่นครึ่งหลัง 2 นาที ซีเอสเคเอฯ ทะยานหนีเป็น 3-1 อย่างเหลือเชื่อเมื่อ อลัน ซาโกเยฟ โยนลูกฟรีคิกเลยมาถึงเสาสองให้ วาซิลี่ เบเรซุตสกี้ โขกจ่อๆ 2-3 หลาผ่าน ฟาน เดอ ซาร์ ตุงตาข่าย
เกมดำเนินมาถึงนาที 50 ยูไนเต็ด ชวดได้จุดโทษอย่างน่าเสียดายจากจังหวะที่ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ล็อกบอลแล้วโดนเตะล้มลงในเขตโทษ แต่ โอเลการิโอ เบนเกเรนก้า ผู้ตัดสินชาวโปรตุเกสวิ่งมาแจกใบเหลืองห้องเครื่องสกอตต์ข้อหาพุ่งล้มหน้าตาเฉย ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ฉุนแตกออกมาโวยวายที่ข้างสนามอยู่สักพัก
เข้าสู่นาที 61 ยูไนเต็ด ที่พยายามเดินหน้าบุกอย่างเต็มที่มามีจังหวะอีกรอบจากฟรีคิกของ พอล สโคลส์ ที่ตะบันเต็มเท้า อคินเฟเยฟ รับกระฉอกออกมา วาเลนเซีย วิ่งปราดเข้ามาซ้ำมุมแคบก็ยังติดเซฟมือ 1 ทีมชาติรัสเซียอีกรอบ
ขณะที่นาทีต่อมา แกรี่ เนวิลล์ ก็โยนจากด้านขวาให้ เวย์น รูนี่ย์ ที่เพิ่งลงมาในฐานะตัวสำรองโขกหลุดเสาสองออกหลังอีกครั้ง มาถึงตอนนี้ ยูไนเต็ด เดินหน้าเต็มกำลังเกือบทั้งทีมแล้ว
นาที 84 กองเชียร์เจ้าถิ่นมีลุ้นอีกเฮือกเมื่อพอล สโคลส์ โขกฟรีคิกเน้นๆ จากการเปิดของ แกรี่ เนวิลล์ สกอร์ขยับมาเป็น2-3
ช่วงทดเจ็บผีแดง มาได้ประตูตีเสมอ 3-3 เมื่ออันโตนิโอ วาเลนเซีย ยิงบอลไปแฉลบศรีษะแนวรับทีมเยือนเปลี่ยนทางเข้าประตูไป
จบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอกับ ซีเอสเคเอ มอสโกว์ ไปแบบหืดจับ 3-3 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นที่แน่นอนแล้ว
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - แกรี่ เนวิลล์, เวส บราวน์, จอนนี่ อีแวนส์, ฟาบิโอ ดา ซิลวา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, นานี่ - เฟเดริโก้ มาเคด้า, ไมเคิล โอเว่น
สำรอง: โทมัสซ์ คุสซ์แซ็ค (ผู้รักษาประตู) - ปาทริซ เอวร่า, อันแดร์สัน, เวย์น รูนี่ย์, จอห์น โอเช, กาเบรียล โอแบร์กต็อง, ดาร์รอน กิ๊บสัน
ซีเอสเคเอ มอสโก: อีกอร์ อคินเฟเยฟ - อเล็กเซ เบเรซุตสกี้, วาเลรี่ เบเรซุตสกี้, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, จอร์จี้ เชนนิคอฟ - มิลอส คราซิซ, เดวิดาส เซมเบราส, เอฟเกนี่ อัลโดนิน, พาเวล มามาเยฟ - อลัน ซาโกเยฟ - โทมัส เนซิด
สำรอง: เอฟเกนี่ โพมาซาน (ผู้รักษาประตู) - ดาเนี่ยล คาร์วัลโญ่, มุสซ่า มาซู, ชิดี้ โอดิอาห์, นิก้า พิลิเยฟ, เอลวีร์ ราฮิมิช, แอนตอน กริกอริเยฟ
ผู้ตัดสิน: โอเลการิโอ เบนเกเรนซ่า (โปรตุเกส)
อลัน ซาโกเยฟ ซัดมุมแคบให้ ซีเอสเคเอ ขึ้นนำไปก่อน 1-0
นานี่ กระชากบอกหนีการประกบของ เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช
เฟเดริโก้ มาเคด้า พยายามขึ้นโหม่งทำประตู แต่โดน อีกอร์ อคินเฟเยฟ ป้องกันไว้ได้
เวย์น รูนี่ย์ คุณพ่อคนใหม่สับไกยิงเต็มข้อ แต่โดน อีกอร์ อคินเฟเยฟ เซฟไว้ได้
สรุปผลในคู่อื่นๆ
กลุ่มเอ
บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) แพ้ บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส) 0-2
มัคคาบี้ ไฮฟา (อิสราเอล) แพ้ ยูเวนตุส (อิตาลี) 0-1
กลุ่มบี
เบซิคตัส (ตุรกี) แพ้ โวล์สบวร์ก (เยอรมัน) 0-3
แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) เสมอ ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) 3-3
กลุ่มซี
เอซี มิลาน (อิตาลี) เสมอ เรอัล มาดริด (สเปน) 1-1
มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) ชนะ เอฟซี ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์) 6-1
กลุ่มดี
อโปเอล นิโกเซีย (ไซปรัส) แพ้ เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส) 0-1
แอตเลติโก มาดริด (สเปน) เสมอ เชลซี (อังกฤษ) 2-2