ผีดุคว่ำปอมปีย์ 3-0 นำฝูง

หลังเปิดบ้านถล่ม เดอะปอมปีย์ ปอร์ทสมัธ อย่างสวยหรู 3-0 พร้อมเป็นของขวัญฉลองการคุมทีมครบ 20 ปี ของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือชาวสกอตต์ ในวันจันทน์ที่ 6 พ.ย.นี้อีกด้วย

ด้าน หงส์แดง ลิเวอร์พูล เล่นในแอนฟิลด์ จัดการอัด เรดดิ้ง 2-0 จากผลงานของ เดิร์ก เค้าท์ ทั้งสองประตู ศึกพรีเมียร์ชิป เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

เมื่อกลางสัปดาห์ เปิดบ้านโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ เดอะ ปอมปีย์ ปอร์ทสมัธ ทีมอันดับ 4 ของตาราง เกมนี้ ท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพียง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ดาวยิงหน้าเด็กชาวนอร์เวย์ซึ่งได้รเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าต้องพักประมาณ 2 สัปดาห์

ส่วน แกรี่ เนวิลล์ กัปตันทีมแบ็กขวา, ไรอัน กิ๊กส์ ปีกซ้ายจอมเก๋า และ หลุยส์ ซาฮา กองหน้าชาวฝรั่งเศส

ซึ่งทั้งหมดหายเจ็บและกลับมาฟิตทันลงสนามเป็นตัวจริง พร้อมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์

ขาดตัวผู้เล่นหลักไปสองกองหลังคือ ลินวอย ไพรมัส ที่เจ็บเอ็นหลังเข่า และ เกล็น จอห์นสัน เจ็บต้นขา แต่ได้ โนเอ้ ปามาโร่ต์ และ แอนดริว โอ ไบรอัน ลงมาเล่นแทน โดยมี เดยัน สเตฟาโนวิช กัปตันทีมลงทำหน้าที่บัญชาเกม

จากจังหวะบุกพาบอลขึ้นไปในกรอบเขตโทษและโดน เดยัน สเตฟาโนวิช สอยด้านหลัง และ หลุยส์ ซาฮา รับหน้าที่เพชรฆาตจัดการซัดเสียบมุมขวาของ เดวิด เจมส์ เข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0

จากลูกฟรีคิกในจังหวะที่ แอนดริว โอ ไบรอัน กองหลังปอมปีย์เสียบ ซาฮา ซึ่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จัดการซัดด้วยขวาบอลเหินข้ามกำแพงเข้าตาข่ายอย่างสวยงาม

สามารถบุกขึ้นหน้าประตูทีมเยือนเป็นระลอก โดยในนาที 12 แกรี่ เนวิลล์ ลากบอลมาทางกราบขวาถึงหน้าเขตโทษแล้วซัดด้วยขวาแต่ติดเซฟของเจมส์ ต่อมาในนาที 23

เจ้าบ้านทำเกมรุกลุยขึ้นปากประตูอีกครั้ง รูนี่ย์ จ่ายตัดขวาให้ เนวิลล์ ได้สับไกระยะ 6 หลา ทว่า เจมส์ ยังไม่พลาด

และเกือบมาได้เพิ่มจากจังหวะชุลมุน เจมส์ ขึ้นมาป้องกันและปล่อยให้หน้าประตูโล่ง พอล สโคลส์ ลองยิงด้วยขวาแต่กองหลังจัดการเคลียร์ออกไปได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นในนาที 36 เป็นโอกาสของ ไรอัน กิ๊กส์ แต่ยิงไม่ถนัดบอลหลุดออกนอกกรอบ

ช่วงท้ายเกมในนาที 42 ปอมปีย์ มาได้เตะมุม กองหลังเจ้าบ้านโหม่งสกัดไปเข้าทาง แม็ทธิว เทย์เลอร์ ลองซัดไกลบอลเหินพุ่ง ทำให้ ฟาน เดอ ซาร์ ต้องออกแรงด้วยสองมือชกออกไปได้ หมด 45 นาทีแรก แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 2-0

อดีตผู้เล่นของปิศาจแดง ลงมาแทน มานูเอล เฟอร์นันเดส ทันทีเพื่อต้องการประตูตีไข่แตกคืนโดยเร็ว แต่ทางเจ้าบ้านยังไม่ปรับเปลี่ยนเกมแต่อย่างใดและยังเดินหน้าโจมตีจนน่าจะได้ประตูหนีห่างในนาที 48 ซาฮา แทงทะลุช่องให้ รูนี่ย์ เลี้ยงตัดกองหลังทีมเยือนไปหน้าประตูก่อนง้างเท้าขวายิงฉากเสาออกไปนิดเดียว

หน้าประตูแต่บอลหลุดกรอบนิดเดียว อย่างไรก็ตามเจ้าบ้านมาได้ประตูนำออกไปอีก 3-0 ในนาที 66 เมื่อ กิ๊กส์ เปิดเตะมุมสั้นมาเข้าทาง เนวิลล์ จ่ายต่อให้ วีดิช เทคตัวขึ้นโหม่งแบบไร้ตัวประกบ

แต่เจมส์ ไหวตัวทันเซฟเอาไว้ได้ หลังจากนั้น เซอร์อเล็กซ์ จัดการพักตัวผู้เล่น โดยส่ง มิคาเอล ซิลแวสต์ แทน คาร์ริก นาที 71, ดาร์เรน เฟลชเชอร์ แทน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นาที 74 จอห์น โอเชีย แทน รูนี่ย์ นาที 75

ของ โอนีล แต่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ สกัดออกไปได้ และทีมเยือนมีลุ้นเฮือกสุดท้ายนาที 90 จากจังหวะที่ ฟาน เดอ ซา ออกมาล้มเก็บบอลแล้วปล่อยให้ประตูโล่ง บอลไปเข้าทาง เทย์เลอร์ ได้ยิง แต่ออกนอกกรอบไปอย่างหวุดหวิด หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ปอร์ทสมัธ ขาดลอย 3-0 เก็บ 3 แต้มรวมมี 28 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงต่อไป

สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย: ผู้จัดการออนไลน์