ตระกูลเกลเซอร์ วอนแฟนผีอย่ากังวลกับอนาคตของผี

ตระกูล เกลเซอร์ ครอบครัวมหาเศรษฐีจากสหรัฐอเมริกา เจ้าของสโมสร ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ออกมายืนยันกับบรรดาแฟนบอลว่า อย่าได้เป็นกังวลกับทิศทางความเป็นไปในอนาคตของสโมสร หลังจากที่ สองผู้บริหารคนสำคัญ ทั้ง นิค ฮัมบี้ ผู้อำนวยการด้านการเงิน และ แอนดี้ แอนสัน

ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ เตรียมก้าวลงจากตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ศกหน้า โดย โฆษกของตระกูล เกลเซอร์ กล่าวผ่าน บีบีซี สำนักข่าวเมืองผู้ดี ว่า พวกเขาเป็นคนที่มีความเป็นส่วนตัวสูงมากๆ และทั้งคู่ก็มีความปรารถนาของตัวเอง ยูไนเต็ด คือสถาบันที่มีความมั่นคง และแข็งแกร่ง สิ่งที่ตระกูลเกลเซอร์ได้พิสูจน์ให้เห็นกันไปแล้วก็คือพวกเขายังคงเพิ่มพูนคุณค่าความสำคัญให้กับสโมสร

กระบอกเสียงของตระกูลมหาเศรษฐีเมืองลุงแซมยังได้หยิบยกเอาผลงานของสโมสรที่เกิดขึ้น หลังจากการเข้ามาเทกโอเวอร์ของเกลเซอร์ เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2005 มาเอ่ยถึง อีกด้วยว่า มีความกังวลเกิดขึ้นมากมายในช่วงปีก่อนว่าแฟนบอลอาจต้องจ่ายเงินมากขึ้น ขณะที่คุณค่าของสโมสรอาจตกต่ำลง แต่ในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่พวกเขาเข้ามาซื้อกิจการ

ไม่มีใครกล้าพูดได้หรอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้มีมูลค่ามากขึ้น นักลงทุนต่างก็ส่งสัญญาณอยากเข้ามามีส่วนร่วมกับเราเพราะพวกเขาเล็งเห็นถึงความน่าสนใจในสิ่งที่ เกลเซอร์ นำเข้ามาสู่ธุรกิจ การกีฬา และเครื่องหมายการค้าอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรื่องภาระหนี้สินต่างๆ ล้วนแต่เป็นความเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิง เพราะยูไนเต็ด มีทรัพย์สิน และเงินทุนหมุนเวียนที่มั่นคง

จากอัตราการขยายตัวด้านต่างๆ แนวโน้มการลงทุนก็ยังคง เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และสโมสรก็กำลังเดินหน้าไปด้วยดี ดังนั้น เรื่องหนี้สินจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าวิตกแต่อย่างใดขณะที่กลุ่มแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เอ็มยูเอสที) ซึ่งเคยเป็นผู้ถือหุ้นของสโมสร และคัดค้านการเทกโอเวอร์ของตระกูล เกลเซอร์ มาตลอด ได้ออกโรงโจมตีว่าเจ้าของทีม ขาดการสื่อสารที่ดีกับแฟนบอล

รวมทั้งเรียกร้องให้ทั้ง แอนสัน และ ฮัมบี้ เปิดเผยเหตุผลในการลาออก ซึ่ง ฌอน โบนส์ โฆษกของ เอ็มยูเอสที กล่าวตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะต้องจัดการทุกอย่างให้ใสสะอาด และทำทุกอย่างด้วยเกียรติยศ

พร้อมกับบอกกล่าวให้บรรดาแฟนบอลได้รับรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่เบื้องหลังฉากของสโมสรของพวกเรา ฮัมบี้ และ แอนสัน ซึ่งถือเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างบอร์ดบริหารชุดเก่า และโครงสร้างการบริหารทีมชุดใหม่ภายใต้ยุคของ มัลคอล์มเกลเซอร์ อภิมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน แถมทั้งคู่ยัง เป็น 1 ใน 3 ผู้บริหาร

เร้ด เดวิลส์ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลเกลเซอร์โดยตรง ซึ่งการจากไปของทั้งคู่ อาจเป็นการทำให้ เดวิด กิลล์ ประธานบริหาร ต้องถูกโดดเดี่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะเชื่อกันว่า กิลล์ ยังไม่มีแผนการเผ่นหนีสโมสรก็ตามทั้งนี้ การจากไปของ ฮัมบี้ และ แอนสัน ย่อมหมายความว่าบุตรชาย 5 คน และธิดา 1 คน ของเจ้าสัวมะกัน จะครอง 6 ใน 7 เก้าอี้บอร์ดบริหาร ปีศาจแดง ต่อไป โดยที่เหลืออีก 1 เก้าอี้เป็นของ กิลล์ คนเดียวโดดๆ นั่นเอง

แหล่งข้อมูล : พรีเมียร์ดรีม