นอกจากเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งที่ 11 นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อ 17 ปีก่อนนี่คือโทรฟี่ย์รายการที่ 33 ของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันตลอดการคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมา 23 ปี 
ทันทีที่เสมอกับอาร์เซนอล 0-0 เฟอร์กี้ก็ทำให้ความภูมิใจหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของเดอะค็อปถูกแชร์ทันทีนั่นคือเจ้าของแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัยที่ครั้งหนึ่งเคยมีคนมองว่ายังไงก็ไม่มีใครตามทัน
กุนซือจอมไซโควัย 67 ปีซึ่งถูกนำเข้าสู่ฮอล ออฟ เฟมเมื่อปี 2002 ยังสร้างเรคคอร์ดพายูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยติดต่อกันถึง 2 ครั้งโดยครั้งแรกในฤดูกาล 1989/99,1999/00 และ 2000/01 จนล่าสุด 2006/07,2007/08 และ 2008/09
นอกจากนี้อดีตบอสเอสต์ สเตอร์ลิงไชร์,เซนต์ เมียร์เรนและอเบอร์ดีนรวมถึงเฮดโค้ชทีมชาติสก็อตแลนด์ยังพายูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีก คัพสมัยที่ 3 และแชมป์ฟีฟ่า เวิร์ลด คัพสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสรแม้ก่อนหน้านี้จะเคยข้ามน้ำข้ามทะเลไปพ่ายพัลเมรัสในศึกอินเตอร์คอนติเนนตัล คัพในปี 1999 ก็ตาม
เฟอร์กี้จะเพิ่มถ้วยแชมป์เป็นรายการที่ 34 หากคว่ำบาร์เซโลน่าซิวแชมเปี้ยนส์ลีกที่กรุงโรมในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ซึ่งพวกเขาเคยสัมผัสกับแชมป์นี้มาแล้ว 3 ครั้งโดย 2 ใน 3 มาจากการคุมทีมของป๋านั่นเอง
นับตั้งแต่รับงานต่อจากรอน แอตกินสันเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 1986 เฟอร์กี้เถลิงนำปิศาจแดงเสพสุขกับแชมป์ชาริตี้ ชิลด์และในชื่อปัจจุบันคอมมูนิตี้ ชิลด์รวมแล้ว 8 ครั้ง,ยูฟ่า คัพวินเนอร์ส คัพหนึ่งสมัย,ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพอีกหนึ่งสมัยและแชมป์เอฟเอ คัพ 5 สมัยที่พวกเขาเป็นเจ้าของแชมป์มากสุด 11 ครั้ง
ปัจจุบันเฟอร์กี้เป็นเจ้าของผู้จัดการทีมยูไนเต็ดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดไปแล้วโดยคว้าแชมป์ 33 จาก 58 รายการที่มีการชิงชัยกันมาและดูท่าว่าเจ้าตัวจะไม่มีแผนวางมือในสองสามปีนี้แน่นอน
เนื้อข่าวจากwww.lentee.com
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
